การแข่งขันฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 กลุ่ม A เดินทางมาถึงแมตช์ที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม โดยเป็นการดวลกันระหว่างเจ้าภาพจากสหรัฐอเมริกาอย่าง อินเตอร์ ไมอามี่ พบ ปอร์โต้ ยอดทีมจากโปรตุเกส ซึ่งทั้งสองทีมต่างประเดิมนัดแรกด้วยผลเสมอแบบไร้สกอร์ และต้องการสามแต้มในเกมนี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ เกมนี้จึงน่าจับตาอย่างยิ่ง ทั้งในแง่ของคุณภาพตัวผู้เล่น รวมถึงแท็กติกที่ทั้งสองกุนซือจะงัดออกมาใช้ในแมตช์สำคัญ
รายการ : ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025
คืนวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568 เวลา 02.00 น.
สนาม : เมอร์เซเดส เบนซ์ สเตเดี้ยม
ความพร้อมก่อนเกม: อินเตอร์ ไมอามี่ พบ ปอร์โต้
อินเตอร์ ไมอามี่
อินเตอร์ ไมอามี่ ทีมจากเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ที่ขับเคลื่อนทีมโดยซูเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ กำลังประสบปัญหาตัวผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย โดยเฉพาะแนวรับที่ขาด จอร์ดี้ อัลบา, กอนซาโล่ ลูฮาน, ยานนิค ไบรท์ และ ดาวิด มาร์ติเนซ ซึ่งพลาดเกมเสมอกับ อัล อาห์ลี มาแล้ว และยังต้องรอการประเมินความฟิตอีกครั้ง
ในส่วนของการจัดทัพ คาดว่า โนอาห์ อัลเลน จะได้ประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้ายต่อไป ขณะที่แผงหลังอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้เล่น แม้จะมีปัญหาเรื่องสภาพทีม แต่ความหวังในการทำประตูยังคงฝากไว้ที่ เมสซี่ และ ซัวเรซ ซึ่งมีผลงานรวมกันไปแล้วถึง 23 ประตูในฤดูกาลนี้ พวกเขาจะเป็นหัวใจสำคัญในการพาทีมคว้าชัยในเกมสำคัญครั้งนี้ให้ได้
ปอร์โต้
ทางฝั่ง ปอร์โต้ ยอดทีมจากลีกโปรตุเกส แม้จะมีชื่อชั้นเหนือกว่าและมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งกว่าโดยรวม แต่ก็ยังไม่สามารถคว้าชัยในนัดแรกของทัวร์นาเมนต์ได้ โดยเสมอกับ พัลไมรัส 0-0 และยังต้องรอลุ้นความฟิตของ ดีโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ซึ่งมีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขา หากไม่ฟิตทัน คงต้องใช้ เคลาดิโอ รามอส ฮีโร่ที่เซฟจุดโทษในนัดก่อนลงเฝ้าเสาต่อไป
เกมรุกของ ปอร์โต้ มีจุดเด่นอยู่ที่ความคล่องตัวและการเข้าทำที่รวดเร็วจากผู้เล่นอย่าง ฟาบิโอ วิเอร่า, โรดริโก้ โมร่า และหัวหอกตัวเก่ง ซามู อาเกโฮว่า ที่ยิงไปถึง 25 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยคุณภาพทีมที่ครบเครื่องและประสบการณ์บนเวทียุโรปมากกว่า พวกเขาจะพยายามใช้จุดเด่นนี้กดดันเจ้าภาพอย่างเต็มที่
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
อินเตอร์ ไมอามี่ (4-2-3-1)
ออสการ์ อุสตารี่ – เอียน เฟรย์, โตมาส อาวีเลส, มักซิมิเลียโน่ ฟัลกอน, โนอาห์ อัลเลน – เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เฟเดรีโก้ เรดอนโด้ – ตาเดโอ อาเยนเด้, ลีโอเนล เมสซี่, เตลาสโก้ เซโกเวีย – หลุยส์ ซัวเรซ
ปอร์โต้ (3-4-2-1)
ดีโอโก้ คอสต้า – มาร์ติม แฟร์นานเดส, เซ เปโดร, อีบัน มาร์กาโน่ – ชูเอา มารีโอ, อลัน วาเรล่า, กาเบรียล เบยก้า, ฟรานซิสโก้ มูร่า – ฟาบิโอ วิเอร่า, โรดริโก้ โมร่า – ซามู โอโมโรเดียน
อย่ารอช้า! สะสมบิลวันนี้ รับสิทธิ์ก่อนใคร 🎯 คลิกเลย!
ผลงาน 5 นัดล่าสุด
อินเตอร์ ไมอามี่
-
15/06/25 เสมอ อัล อาห์ลี 0-0 (กลาง)
-
01/06/25 ชนะ โคลัมบัส ครูว์ 5-1 (เหย้า)
-
29/05/25 ชนะ มอนทรีออล 4-2 (เหย้า)
-
25/05/25 เสมอ ฟิลาเดลเฟีย ยูเนียน 3-3 (เยือน)
-
19/05/25 แพ้ ออร์แลนโด ซิตี้ 0-3 (เหย้า)
ปอร์โต้
-
16/06/25 เสมอ พัลไมรัส 0-0 (กลาง)
-
08/06/25 แพ้ ริก้า เอฟซี 0-2 (กลาง)
-
31/05/25 ชนะ วีแดด 1-0 (เยือน)
-
18/05/25 ชนะ นาซิอองนาล 3-0 (เหย้า)
-
12/05/25 ชนะ โบอาวิสต้า 2-1 (เยือน)
สถิติการพบกัน
อินเตอร์ ไมอามี่ พบ ปอร์โต้ ไม่เคยพบกันมาก่อนในทุกรายการ นี่จึงเป็นการเจอกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทั้งสองสโมสร ถือเป็นบททดสอบสำคัญของทีมเจ้าภาพ ที่ต้องวัดศักยภาพกับทีมระดับแนวหน้าของยุโรปอย่างเต็มรูปแบบ
ลิงก์ดูบอลสด อินเตอร์ ไมอามี่ พบกับ ปอร์โต้ คืนนี้ 19 มิ.ย. 68 | ทีเด็ดวันนี้
วิเคราะห์เกม: อินเตอร์ ไมอามี่ พบ ปอร์โต้
การพบกันระหว่าง อินเตอร์ ไมอามี่ พบกับ ปอร์โต้ ถือเป็นแมตช์ที่มีทั้งความกดดันและความคาดหวังสูง อินเตอร์ ไมอามี่ ในฐานะเจ้าภาพแม้จะมีขวัญกำลังใจจากแฟนบอลในประเทศ แต่ปัญหาใหญ่ยังคงเป็นแนวรับที่ยังไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้เลยใน 10 เกมก่อนหน้าที่จะเจอกับ อัล อาห์ลี ซึ่งหาก ปอร์โต้ มีความเฉียบคมในจังหวะสุดท้ายมากกว่านี้ พวกเขาน่าจะมีโอกาสสร้างความแตกต่างได้
ด้าน ปอร์โต้ นั้นมีความแน่นอนในเกมรับ และประสบการณ์ระดับนานาชาติที่มากกว่า โดยเฉพาะเกมแดนกลางที่มีตัวคุมจังหวะเกมได้ดีหลายคน เกมนี้พวกเขาน่าจะมาแบบรัดกุมในช่วงต้น และรอโอกาสโต้กลับเล่นงานจุดอ่อนของอินเตอร์ ไมอามี่ ซึ่งอยู่ที่เกมรับและความฟิตของนักเตะตัวหลักที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย
คาดการณ์ผลการแข่งขัน
แม้ว่าอินเตอร์ ไมอามี่จะมีขุมกำลังแนวรุกที่น่ากลัวอย่าง เมสซี่ และ ซัวเรซ แต่ด้วยความไม่พร้อมในแผงหลัง และคุณภาพโดยรวมที่ยังเป็นรอง จึงมีแนวโน้มว่า ปอร์โต้ จะสามารถอาศัยจังหวะเกมและความนิ่งกว่า เฉือนคว้าชัยไปได้ในท้ายที่สุด
สกอร์ที่คาด: อินเตอร์ ไมอามี่ 1-2 ปอร์โต้