การแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศที่ทุกคนรอคอย โดยทีมชาติไทยในฐานะเจ้าภาพ จะลงสนามพบกับทีมชาติอิรักที่สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) ในวันที่ 7 กันยายน 2568 เวลา 20.00 น. การพบกันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นศึกแห่งเกียรติยศ แต่ยังเป็นบททดสอบสำคัญของ “ช้างศึก” ที่ต้องการปลดล็อกชัยชนะเหนือ “สิงโตแห่งเมโสโปเตเมีย” ที่ไม่สามารถเอาชนะได้เลยในช่วงกว่า 17 ปีที่ผ่านมา
ความพร้อมของทีมชาติไทย
ทีมชาติไทย ปัจจุบันอยู่อันดับ 102 ของโลก ภายใต้การนำของกุนซือชาวญี่ปุ่น มาซาทาดะ อิชิอิ เกมรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างมั่นใจ เอาชนะทีมชาติฟิจิ 3-0 นักเตะทุกคนอยู่ในสภาพสมบูรณ์และมีขวัญกำลังใจสูง อีกทั้งยังได้แรงสนับสนุนจากแฟนบอลเจ้าถิ่นที่พร้อมเข้ามาเชียร์เต็มสนาม
ความคาดหวังคือการเก็บชัยชนะเหนืออิรักให้ได้ หลังจากไม่สามารถทำได้เลยตลอดการพบกัน 5 นัดหลังสุด โดยครั้งสุดท้ายที่ไทยชนะต้องย้อนกลับไปในเกมอุ่นเครื่องปี 2008 ที่เอาชนะได้ 2-1 จุดที่ยังน่ากังวลคือเกมรับที่ต้องเผชิญกับผู้เล่นร่างกายสูงใหญ่ของอิรัก และเกมรุกที่ยังมีปัญหาเรื่องความเฉียบคมในการจบสกอร์
ผู้เล่นตัวหลักอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด, สุภโชค สารชาติ และ นิโคลัส มิคเกลสัน คาดว่าจะกลับมาออกสตาร์ตเป็น 11 ตัวจริง เพื่อเพิ่มความดุดันทั้งในแดนกลางและแดนหน้า
ความพร้อมของทีมชาติอิรัก
ทีมชาติอิรัก อันดับ 58 ของโลก ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวออสเตรเลีย เกรแฮม อาร์โนลด์ ฟอร์มรอบรองชนะเลิศเอาชนะทีมชาติฮ่องกง 2-1 แม้จะสร้างโอกาสมากมายถึง 24 ครั้ง แต่เปลี่ยนเป็นสกอร์ได้เพียง 2 ประตู อย่างไรก็ตาม การจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคมในเกมแรกได้รับการแก้ไขมาแล้ว และเกมนี้น่าจะมาในสภาพพร้อมเต็มที่
จุดแข็งของอิรักคือรูปแบบการเล่นที่เน้นความแข็งแกร่งทางกายภาพ ผสมผสานกับการขึ้นเกมที่รวดเร็วและการใช้โอกาสยิงที่เฉียบคมกว่า ขุมกำลังแนวรุกอย่าง อายเมน ฮุสเซ็น, มาร์โก ฟาร์จี และมอนทาเดอร์ มาดเญด ถือว่าอันตรายและสามารถสร้างปัญหาให้กับแนวรับไทยได้ทุกเมื่อ
คาดการณ์ 11 ตัวจริง
ทีมชาติไทย (4-2-3-1):
ปฏิวัติ คำไหม – ศุภนันท์ บุรีรัตน์, สุพรรณ ทองสงค์, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ, นิโคลัส มิคเกลสัน – พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล – เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ – ศุภชัย ใจเด็ด
ทีมชาติอิรัก (4-1-2-3):
อาเหม็ด บาซิล – ฟรานส์ ปูโตรส, ซาอิด ทาห์ซีน, เรบิน ซูลากา, อาเหม็ด ยายา – โอซามา ราชิด – อัมญาด อาตวาน, อิบราฮิม บาเยช – มอนทาเดอร์ มาดเญด, อายเมน ฮุสเซ็น, มาร์โก ฟาร์จี
ผลงาน 5 นัดล่าสุด
ทีมชาติไทย
วันที่ | คู่การแข่งขัน | สกอร์ | ผล |
---|---|---|---|
04/09/2025 | ไทย vs ฟิจิ | 3-0 | ชนะ |
10/06/2025 | เติร์กเมนิสถาน vs ไทย | 3-1 | แพ้ |
04/06/2025 | ไทย vs อินเดีย | 2-0 | ชนะ |
25/03/2025 | ไทย vs ศรีลังกา | 1-0 | ชนะ |
21/03/2025 | ไทย vs อัฟกานิสถาน | 2-0 | ชนะ |
ทีมชาติอิรัก
วันที่ | คู่การแข่งขัน | สกอร์ | ผล |
---|---|---|---|
04/09/2025 | อิรัก vs ฮ่องกง | 2-1 | ชนะ |
11/06/2025 | จอร์แดน vs อิรัก | 0-1 | ชนะ |
06/06/2025 | อิรัก vs เกาหลีใต้ | 0-2 | แพ้ |
26/03/2025 | ปาเลสไตน์ vs อิรัก | 2-1 | แพ้ |
21/03/2025 | อิรัก vs คูเวต | 2-2 | เสมอ |
สถิติการพบกันที่ผ่านมา
วันที่ | คู่การแข่งขัน | สกอร์ | ผลของไทย |
---|---|---|---|
10/09/2023 | ไทย vs อิรัก | 2-3 | แพ้ |
31/08/2017 | ไทย vs อิรัก | 1-2 | แพ้ |
11/10/2016 | อิรัก vs ไทย | 4-0 | แพ้ |
24/03/2016 | อิรัก vs ไทย | 2-2 | เสมอ |
08/09/2015 | ไทย vs อิรัก | 2-2 | เสมอ |
จากสถิติ 5 นัดหลังสุด ไทยไม่สามารถเก็บชัยชนะเหนืออิรักได้เลย โดยเป็นการเสมอ 2 และแพ้ 3 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพของทัพสิงโตแห่งเมโสโปเตเมียที่เหนือกว่า
วิเคราะห์บอล ไทย vs อิรัก
เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบโดยรวม ไทยยังคงเป็นรองทั้งในเรื่องของอันดับโลกและสถิติการพบกันที่ผ่านมา จุดที่ทีมชาติไทยต้องระวังคือการรับมือกับแนวรุกที่มีพลังและความสูงใหญ่ของอิรัก การประกบตัวและการเล่นลูกกลางอากาศต้องมีสมาธิเต็มร้อย ขณะเดียวกัน ไทยจำเป็นต้องอาศัยความเร็วของแนวรุก เช่น เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และสุภโชค สารชาติ เพื่อเจาะแนวรับอิรัก รวมถึงความสร้างสรรค์ของ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมเกม
ฝั่งอิรักถือว่ามีความหลากหลายในเกมรุก สามารถเปลี่ยนจังหวะได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีทีเด็ดในการใช้โอกาสน้อยแต่ยิงคม จึงทำให้ทีมชาติไทยต้องระวังการเสียบอลกลางสนาม เพราะจะเปิดช่องให้คู่แข่งสวนกลับได้ทันที
อย่างไรก็ตาม การเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอลนับหมื่นถือเป็นจุดแข็งของไทย ที่จะช่วยเพิ่มแรงกดดันให้กับผู้มาเยือน และอาจทำให้เกมนี้สูสีมากกว่าที่หลายฝ่ายคาด
คาดการณ์ผลการแข่งขัน
แม้ทีมชาติอิรักจะดูเหนือกว่า แต่ด้วยสภาพแวดล้อมการเล่นในบ้านและแรงกระตุ้นจากแฟนบอล ทำให้ทีมชาติไทยมีโอกาสลุ้นแบ่งแต้มได้สำเร็จ
ผลการแข่งขันที่คาด:
ทีมชาติไทย เสมอ ทีมชาติอิรัก 1-1