ศัพท์พนันบอลพื้นฐาน รู้คำก่อนแทง กำไรง่ายขึ้น
ศัพท์พนันบอลพื้นฐาน คือกุญแจแปล “ราคาบอลวันนี้” “ราคาบอลไหล” และผลลัพธ์ บอลวันนี้ บทความจึงรวบคำสำคัญพร้อมตัวอย่างใช้กับ “ทีเด็ดบอลเต็ง” “ทีเด็ดบอลชุด” รวมถึงวิธีอ่านค่าน้ำบน เว็บวิเคราะห์บอล ให้รู้ว่าคู่ไหนคุ้มเสี่ยง ก่อนจดลงสมุดบันทึกเพื่อติดตามกำไร-ขาดทุนทุกสัปดาห์ เพื่อให้ภาพรวมชัดเจนขึ้นและวางกรอบการเรียนรู้ตั้งแต่ต้น ควรเริ่มจากหน้าศูนย์รวมของคลัสเตอร์ก่อน แล้วค่อยกลับมาเจาะศัพท์ต่อท้ายนี้ที่ ภาพรวมมือใหม่วิเคราะห์บอล
เลือก ที่เด็ดวันนนี้ ผิดเพราะอ่านคำต่อรองคลาดเคลื่อนไหม?
การรู้ ศัพท์พนันบอลพื้นฐาน ตั้งแต่ค่าน้ำ แฮนดิแคป ไปจนถึงสูง-ต่ำ จะทำให้การ วิเคราะห์บอล แปลราคาถูกต้อง เทียบโอกาสชนะจริงกับความเสี่ยงได้ชัด จึงเลือก ทีเด็ดบอลเต็ง vip หรือ ทีเด็ดบอลสเต็ป อย่างมีตรรกะ พร้อมบันทึกผลทุกบิลเพื่อตรวจแนวโน้มกำไร-ขาดทุน ลดอคติและเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาว จากการรู้คำแล้ว ขั้นต่อไปคือดูตัวเลขที่ใช้จริงเพื่ออ่านเกมได้แม่นขึ้น ลองเช็ค สถิติสำคัญ
คนส่วนใหญ่เปิดเว็บ วิเคราะห์บอลราคา แล้วงงกับคำย่อเต็มจอ “0.5/1” “1.25” “น้ำ -10” บทนำจึงรวบ ศัพท์พนันบอลพื้นฐาน ที่ต้องใช้ทันที พร้อมยกตัวอย่างคู่ บอลวันนี้ และ “ราคาบอลไหล” ล่าสุด อธิบายวิธีคูณค่าน้ำ คิดกำไร-ขาดทุน และเชื่อมกับเทคนิคจดบันทึกผล เพื่อให้มือใหม่รู้ขั้นตอนเลือก ทีเด็ดบอลชุด ได้อย่างมั่นใจตั้งแต่บิลแรก
ศัพท์แทงบอลพื้นฐาน เรียนรู้ ศัพท์พนันบอลพื้นฐาน ก่อนลงเงิน
ศัพท์แทงบอลคือชุดคำศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการพนันฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นตัวย่อ อักษรย่อ หรือคำสแลงที่เกิดขึ้นในวงการแทงบอลออนไลน์และโต๊ะบอลทั่วไป การเข้าใจ ศัพท์พนันบอลพื้นฐาน เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับมือใหม่ เพราะโพยบอลหรือบทวิเคราะห์ตามเว็บต่าง ๆ มักจะเต็มไปด้วยโค้ดและคำย่อที่ถ้าไม่รู้ความหมายก็อาจตีความผิดได้ง่าย ยกตัวอย่างในโพย ราคาบอลวันนี้ เราอาจเห็นคำย่ออย่าง “ต่อครึ่งควบลูก @น้ำแดง -0.95” หรือคำทำนายจากเซียนในบทความ วิเคราะห์บอลวันนี้ ที่ระบุ “BTTS, O/U, 1X2” ซึ่งล้วนเป็นศัพท์เทคนิคทั้งสิ้น หากเรารู้ความหมายก็จะสามารถถอดรหัสโพย อ่านราคา บอลวันนี้ และทำความเข้าใจบทวิเคราะห์หรือทีเด็ดบอลของเซียนบอลบนเว็บวิเคราะห์บอลออนไลน์ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
นิยาม “ศัพท์แทงบอล” – ทำไมมือใหม่ต้องรู้คำย่อโต๊ะ
ศัพท์แทงบอล หมายถึง ศัพท์เฉพาะวงการลูกหนังที่ใช้สื่อสารระหว่างนักพนันและโต๊ะบอล ทั้งรูปแบบภาษาไทยและอังกฤษ รวมถึงคำย่อที่มักปรากฏบนโพยหรือเว็บไซต์พนันบอล มือใหม่จำเป็นต้องเรียนรู้คำเหล่านี้เพราะเป็น “ภาษาที่สอง” ในโลกของการเดิมพันฟุตบอล เปรียบเสมือนกุญแจถอดรหัสโพยราคาและบทวิเคราะห์ ยิ่งในยุคนี้ที่ข้อมูล วิเคราะห์บอลวันนี้ทุกลีก หาง่าย เซียนมักจะใช้คำย่อเพื่อย่นย่อข้อความ เช่น HT/FT, O/U, ปป, 1×2 ฯลฯ หากไม่รู้ความหมายก็อาจพลาดข้อมูลสำคัญหรือแทงผิดฝั่งได้
นอกจากนี้ คำย่อในโพยบอลยังช่วยให้เราเห็นภาพรวมของราคาต่อรองและค่าน้ำได้เร็วขึ้น สมมติว่าโพยระบุ “ทีม A ต่อ 0.5 (ครึ่งลูก) น้ำ 1.85” คนที่รู้ศัพท์จะเข้าใจทันทีว่า ทีม A เป็นต่อครึ่งลูก และค่าน้ำ (ราคาจ่าย) คือ 1.85 ในขณะที่มือใหม่ที่ไม่รู้ความหมายอาจไม่เข้าใจว่าต้องยิงกี่ลูกถึงจะกินเต็ม การรู้คำศัพท์พื้นฐานจึงช่วยลดความสับสน และทำให้เราติดตามการไหลของราคาบอลหรืออ่านทีเด็ดบอลเต็งจากกูรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ศัพท์เซียน vs ภาษาพนันสากล (ภาษาบอลอังกฤษ vs ศัพท์โต๊ะยุโรป)
วงการแทงบอลในไทยมีการผสมผสานระหว่าง ศัพท์เซียน (ภาษาเฉพาะที่นักพนันบอลไทยใช้กัน) กับ ภาษาพนันสากล (คำศัพท์อังกฤษมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก) อยู่เสมอ นักเดิมพันควรรู้ทั้งสองรูปแบบเพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลสำคัญ ตัวอย่างเช่น ศัพท์เซียนไทยมักพูดว่า “ปป” ซึ่งหมายถึงราคาเสมอควบครึ่ง ในขณะที่บนเว็บพนันสากลจะเขียนเป็น “0-0.5” หรือ “0.25”soccersuck.com (Asian Handicap เสมอควบครึ่ง) นั่นเอง หรือคำว่า “ต่อเสมอ” ที่เซียนไทยใช้ ก็เทียบเท่ากับคำว่า PK (Pick’em) ในภาษาบอลอังกฤษ หมายถึงไม่มีทีมไหนต่อลูก (ราคา 0.0) ถ้าเสมอกันถือว่าเจ๊าคืนทุนsoccersuck.com
ยิ่งไปกว่านั้น ศัพท์โต๊ะบอลยุโรป เช่น 1X2, Over/Under, Handicap (HDP) ก็ถูกดึงมาใช้ในบ้านเราอย่างแพร่หลาย เช่น การทายผลแพ้ชนะสามหน้าเราเรียกกันว่าเล่น 1X2 (1=เจ้าบ้านชนะ, X=เสมอ, 2=ทีมเยือนชนะ) หรือการพูดถึง “เอเชียนแฮนดิแคป” เราก็มักย่อว่า Asian Handicap (AH) ในตารางราคาสากล ดังนั้นมือใหม่ควรฝึกคุ้นเคยทั้งคำไทยและคำอังกฤษควบคู่กันไป เช่น รู้ว่า “ปป” ก็คือ 0.25 หรือ “ครึ่งลูก” คือ 0.5 ประตู และ “ลูกควบลูกครึ่ง” คือ 1.25 ในแบบสากล เป็นต้นsoccersuck.comsoccersuck.com นอกจากนี้คำอย่าง “น้ำแดง” และ “น้ำดำ” ที่เราจะอธิบายในหัวข้อถัดไป ก็ถือเป็นศัพท์ที่นักพนันไทยใช้เรียกค่าน้ำแบบมาเลย์ (MY Odds) ซึ่งในเว็บไซต์ยุโรปอาจระบุด้วยตัวเลขติดลบหรือสีแทน (สีแดง/ดำ) แทนการเรียกชื่อสีโดยตรง
โดยสรุป ศัพท์เซียนบอลไทย มักเกิดจากการทับศัพท์หรือดัดแปลงภาษาจีนแต้จิ๋วในวงการพนันสมัยก่อน (อย่างคำว่า ปป = แปะปั๊ว ที่แปลว่า เสมอควบครึ่ง ) หรือการเรียกตามลักษณะราคา (เช่น ครึ่งลูก, ลูกครึ่ง) ส่วน ศัพท์สากล คือคำอังกฤษมาตรฐานที่เว็บพนันและนักวิเคราะห์ทั่วโลกใช้ เช่น Half Time/Full Time, Handicap, Over/Under เป็นต้น นักเดิมพันยุคใหม่จึงควรเรียนรู้ทั้งสองแบบเพื่อให้ “สองภาษา” นี้เชื่อมโยงกันได้อย่างไม่สับสน
โครงสร้างคำต่อรอง (ศัพท์ต่อรอง / โค้ดราคา / ราคาบอล)
บนกระดานอัตราต่อรอง เรามักจะเห็นตัวเลขและตัวย่อที่แสดงถึง ราคาแทงบอล ซึ่งเป็นส่วนของ แฮนดิแคป (Handicap) หรือแต้มต่อที่ทีมเก่งต่อให้ทีมรอง โดยจะแทนด้วยตัวเลข เช่น 0, 0.25, 0.5, 0.75, 1.0, 1.25 เป็นต้น นักเดิมพันมือใหม่ควรเข้าใจความหมายของตัวเลขเหล่านี้อย่างถ่องแท้ เพราะเป็นพื้นฐานในการอ่านราคาบอลไหลและวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของสกอร์การแข่งขัน การแยกความหมายของราคาต่อรองหลัก ๆ มีดังนี้:
-
0.0 (ต่อเสมอ) – ไม่มีทีมไหนต่อให้กัน ทีมใดชนะก็ได้เงินเต็ม ถ้าเสมอกันถือว่าเจ๊าคืนทุนsoccersuck.com (ศัพท์เซียนอาจเรียกว่า “ราคาเสมอ” หรือในบางบริบทใช้คำว่า “ใครต่อรอง”)
-
0.25 (เสมอควบครึ่ง หรือ ปป.) – ทีมต่อ ต่อ ปป ให้ทีมรอง หากผลแข่งเสมอ ทีมต่อจะ เสียครึ่ง ของเงินเดิมพัน ส่วนทีมรองจะ ได้ครึ่งsoccersuck.com; ทีมต่อชนะห่าง 1 ลูกขึ้นไปได้เต็ม / แพ้เสียเต็ม (ตรงข้ามกับทีมรอง)
-
0.5 (ครึ่งลูก) – ทีมต่อต้องชนะ อย่างน้อย 1 ลูก ถึงจะได้เงินเต็ม ถ้าเสมอหรือแพ้จะ เสียเต็มsoccersuck.com (ทีมรองถ้าชนะหรือเสมอได้เต็ม แพ้ 1 ลูกก็เสียเต็ม)
-
0.75 (ครึ่งควบลูก) – ทีมต่อชนะ 1 ลูกได้ ครึ่งเดียว, ชนะ 2 ลูกขึ้นไปได้เต็ม; ถ้าเสมอหรือแพ้เสียเต็มsoccersuck.com (ทีมรองแพ้ 1 ลูกจะได้ครึ่ง, แพ้เกิน 2 ลูกเสียเต็ม, เสมอ/ชนะได้เต็ม)
-
1.0 (หนึ่งลูก) – ทีมต่อชนะ 1 ลูก = เจ๊าคืนทุน, ต้องชนะ 2 ลูกขึ้นไปถึงได้เต็ม; ถ้าเสมอหรือแพ้เสียเต็มsoccersuck.com
-
1.25 (ลูกควบลูกครึ่ง) – ทีมต่อชนะ 1 ลูกจะ เสียครึ่ง, ต้องชนะ 2 ลูกขึ้นไปถึงได้เต็ม; เสมอ/แพ้เสียเต็มsoccersuck.com (ทีมรองแพ้ 1 ลูกได้ครึ่ง, แพ้ 2 ลูกเสียเต็ม, เสมอ/ชนะกินเต็ม)
-
1.5 (ลูกครึ่ง) – ทีมต่อต้องชนะ 2 ลูกขึ้นไปจึงจะได้เต็ม; ชนะ 1 ลูกหรือน้อยกว่านั้นถือว่าไม่พอ แค่ 1 ลูกก็ยัง เสียเต็มsoccersuck.com (ทีมรองถ้าแพ้ไม่เกิน 1 ลูกยังได้เต็ม)
-
(ตารางราคาต่อรองสามารถมีสูงกว่านี้ เช่น 1.75, 2.0, 2.25 … ในลักษณะเดียวกัน โดยมี “ควบ” .25 อยู่เสมอเพื่อแบ่งการได้เสียครึ่งหนึ่ง เช่น 1.75 = ลูกครึ่งควบสอง เป็นต้น)
จากตัวอย่างข้างต้น เราจะเห็นว่าตัวเลข 0, 0.5, 0.25, 1.25 ฯลฯ บนกระดานราคามีความหมายแตกต่างกันไป ซึ่งผู้เล่นต้องจำให้ขึ้นใจ เวลาอ่านโพยหรือบทวิเคราะห์จะได้เข้าใจทันที เช่น ถ้าเซียนฟันธงว่า “ทีม A ต่อ ปป” ก็หมายถึงทีม A เป็นต่อ 0.25 ลูก (เสมอควบครึ่ง) นั่นเอง หรือถ้าเห็นคำว่า “ลูกครึ่งควบสอง” ก็แปลงได้ว่าราคา 1.75 เป็นต้น การเข้าใจโค้ดเหล่านี้ยังช่วยในการตามดูราคาบอลไหล (การเปลี่ยนแปลงของราคาต่อรอง) อีกด้วย เช่น หากก่อนเตะ ราคาบอลทีมต่อเปิดมาที่ครึ่งลูก (0.5) แต่พอใกล้แข่งไหลขึ้นเป็น ครึ่งควบลูก (0.75) แปลว่ามีแรงหนุนทีมต่อค่อนข้างมาก เซียนจึงอาจนำไปวิเคราะห์ราคาบอลต่อว่าแนวโน้มสกอร์จะออกมาขาดลอยกว่าเดิม หรือถ้า ไหลลง จาก 0.5 เหลือ 0.25 ก็อาจบ่งชี้ว่าทีมรองเริ่มมีคนแทงเยอะขึ้น ความมั่นใจในทีมต่อแผ่วลง เป็นต้น
สรุป: โครงสร้างคำต่อรองแบบเอเชียนแฮนดิแคปเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการแทงบอล เราควรฝึกแยกแยะความหมายของตัวเลขแต่ละแบบให้คล่อง เมื่อดูโพยหรือดูตารางโปรแกรมแข่งพร้อมอัตราต่อรองจะได้เข้าใจทันทีว่าต้องยิงกี่ลูกถึงจะ “กินเต็ม” หรือกรณีไหนบ้างที่ “ได้ครึ่ง” หรือ “เสียครึ่ง”soccersuck.comsoccersuck.com ซึ่งศัพท์เหล่านี้ (“กินเต็ม, เจ๊า, ได้ครึ่ง, เสียครึ่ง, เสียเต็ม”) ก็เป็นสำนวนที่โต๊ะบอลใช้เวลาเคลียร์บิลนั่นเอง เพื่อเชื่อมศัพท์กับสถานการณ์จริง ควรดูอินพุตสดก่อนตัดสินใจที่ ข่าวทีม/บาดเจ็บ
ค่าน้ำ EU‑HK‑MY (คำย่อค่าน้ำ)
นอกจากราคาต่อรองแล้ว ค่าน้ำ (Odds หรือ Price) คืออีกส่วนที่สำคัญบนโพยบอล ค่าน้ำจะบอกอัตราจ่ายที่นักพนันจะได้รับเมื่อแทงถูก และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเมื่อแทงเสีย ค่าน้ำมักเขียนกำกับไว้หลังราคาต่อรอง เช่น 0.5–1 น้ำแดง -0.95 หรือ 0.5 น้ำดำ 0.80 เป็นต้น ซึ่งหมายถึงอัตราจ่ายและหักค่าน้ำในรูปแบบต่าง ๆ โดยหลัก ๆ แล้วเว็บพนันออนไลน์นิยมใช้ค่าน้ำ 3 แบบ ได้แก่ แบบยุโรป (EU), แบบฮ่องกง (HK) และ แบบมาเลย์ (MY) ซึ่งเราสามารถจำแนกได้ดังนี้:
-
ค่าน้ำมาเลย์ (MY Odds) – เป็นรูปแบบค่าน้ำที่คนไทยนิยมที่สุด แบ่งออกเป็น 2 แบบย่อยคือน้ำดำกับน้ำแดง:
-
น้ำดำ (ตัวเลขเป็นบวก สีดำ) คืออัตราจ่ายแบบได้ไม่เต็ม แต่เวลาเสียจะเสียเต็มจำนวนที่แทง เช่น น้ำดำ 0.73 หมายถึงถ้าแทง 100 บาทแล้วชนะ จะได้กำไร 73 บาท (ได้เงินกลับมา 173 รวมทุน) แต่ถ้าแพ้จะเสียเต็ม 100 บาท
-
น้ำแดง (ตัวเลขติดลบ สีแดง) เป็นราคาที่แทงแล้วได้เต็มแต่เสียไม่เต็ม โดยถ้าชนะจะได้กำไรเท่ากับเงินทุน (ได้คืนเต็มจำนวนที่แทง) แต่ถ้าแพ้จะเสียตามตัวเลขค่าน้ำ เช่น น้ำแดง -0.75 แทง 100 ถ้าชนะได้กำไร 100 บาทเต็มๆ ถ้าแพ้จะเสียแค่ 75 บาท (นั่นคือเสียตามอัตรา 0.75 ที่กดเดิมพัน) น้ำแดงจึงเป็นรูปแบบที่คนไทยชอบเพราะช่วย “ประกันทุน” เวลาแทงเสีย
-
-
ค่าน้ำฮ่องกง (HK Odds) – เป็นราคาค่าน้ำที่แสดงเฉพาะจำนวนกำไรที่ได้ ไม่รวมทุน โดยมีแต่ค่าน้ำดำ (ตัวเลข ≥ 0) ไม่มีน้ำแดง หากตัวเลขต่ำกว่า 1.00 หมายถึงได้กำไรน้อยกว่าทุน และหากมากกว่า 1.00 หมายถึงได้กำไรมากกว่าทุน วิธีคิด คือ เงินเดิมพัน x ค่าน้ำ = กำไร (ไม่รวมทุน) เช่น ค่าน้ำ HK 1.20 แทง 100 บาท ถ้าชนะจะได้กำไร 120 บาท (รวมรับเงินคืน 220 บาทเมื่อบวกทุน) ถ้าแพ้ก็เสียเต็ม 100 บาทตามทุนที่แทงไป อีกตัวอย่าง ถ้าค่าน้ำ HK 0.85 แทง 100 ชนะจะได้กำไร 85 บาท (รับเงินคืน 185) – จะเห็นว่า HK 1.20 ให้กำไรมากกว่า HK 0.85 แต่ไม่ว่าจะค่าน้ำเท่าใด ถ้าเสียจะเสียเท่าทุนเดิมพันเสมอ (ไม่มีส่วนลดเหมือนน้ำแดง)
-
ค่าน้ำยุโรป (EU Odds หรือ Decimal Odds) – เป็นค่าน้ำแบบทศนิยมที่ รวมทุน เข้าไปในอัตราจ่ายเรียบร้อยแล้ว นิยมในแถบยุโรป โดยมากจะแสดงเป็นเลขตั้งแต่ 1.00 ขึ้นไป (เพราะ 1.00 หมายถึงแทง 100 ได้กลับมา 100 คือเท่าทุนพอดี) วิธีคิดคือ เงินเดิมพัน x ค่าน้ำ = เงินที่จะได้รับทั้งหมด ถ้าชนะเดิมพัน ซึ่งตัวเลขผลคูณนี้นับรวมทุนด้วย เช่น ค่าน้ำ EU 2.20 แทง 100 บาท ถ้าชนะจะได้รับ 220 บาท (รวมทุน 100 แปลว่าได้กำไรจริง 120 บาท) ส่วนถ้าแพ้ก็เสียเต็มทุน 100 บาท (เช่นเดียวกับแบบ HK) ค่าน้ำยุโรปมักจะมีค่าสูงกว่าค่าน้ำประเภทอื่นเล็กน้อยเพราะรวมทุนมาด้วย แต่ท้ายที่สุดเมื่อคำนวณกำไรจริงแล้วก็ไม่ได้ต่างกับค่าน้ำอื่นมากนัก เพียงแต่ การแสดงผลต่างกัน – HK แสดงเฉพาะกำไร ส่วน EU แสดงกำไรรวมทุน
โดยสรุป การอ่านค่าน้ำแบบต่าง ๆ อาจดูลายตาในแรกเริ่ม แต่วิธีจำง่าย ๆ คือ:
-
ตัวเลขติดลบ (น้ำแดง) แบบมาเลย์ = เวลาชนะได้กำไรเท่าทุน เวลายังแพ้จ่ายไม่เต็ม (เป็นการเขียนค่าน้ำแบบ “ส่วนลด” ให้ผู้แทง) เช่น -0.90 เป็นต้น
-
ตัวเลขทศนิยม 1.x หรือ 0.x:
-
ถ้าเป็น 0.x นำหน้าไม่มี +/– ส่วนมากคือ น้ำดำมาเลย์ หรือ HK ที่จ่ายกำไรต่ำกว่าทุน (เช่น 0.80, 0.95)
-
ถ้าเป็น 1.x ขึ้นไปมักหมายถึง ค่าน้ำดำ HK ที่กำไรมากกว่าทุน หรือ ค่าน้ำ EU (เพราะ EU 1.x รวมทุนอยู่แล้ว ถ้าตัดทุนออกจะเหลือกำไร 0.x นั่นเอง)
-
-
สัญลักษณ์สี: บนเว็บบางแห่งจะใช้สีแทนประเภทค่าน้ำ เช่น ตัวเลขสีแดงมักแทนราคาน้ำแดงมาเลย์ และสีดำหรือสีน้ำเงินแทนราคาน้ำดำ หรือบางเว็บใช้พื้นหลังแดง/น้ำเงินเพื่อแยกทีมต่อทีมรอง เป็นต้น
ตัวอย่าง: ในโพยเขียนว่า ทีม A ต่อ 0.5 น้ำแดง -0.95 ทีม B น้ำดำ 0.85 แปลความได้ว่า หากแทงทีม A (ต่อครึ่งลูก) 100 บาท ชนะได้กำไร 100 บาทเต็ม แพ้จะเสีย 95 บาท (เพราะน้ำแดง -0.95) แต่ถ้าแทงทีม B ซึ่งเป็นรองครึ่งลูก 100 บาท แล้วทีม B ชนะหรือเสมอ เราจะได้กำไร 85 บาท (ตามน้ำดำ 0.85) แต่หากทีม B แพ้ก็จะเสียเต็ม 100
ตัวอย่างคู่บอลวันนี้ – PK กับ 0+0.5 ต่างกันอย่างไร
ในการแทงบอล ราคา PK (Pick’em) หรือราคา ต่อเสมอ 0.0 กับ ราคา 0+0.5 (0-0.5 หรือ ปป.) มีความแตกต่างสำคัญที่มือใหม่ควรรู้ โดยเฉพาะผลลัพธ์กรณีที่การแข่งขันจบลงด้วยผลเสมอ:
-
PK (เสมอไม่มีใครต่อ) – ไม่มีแต้มต่อใด ๆ ทั้งสองฝั่ง แทงฝั่งไหนก็แค่ทายว่าทีมนั้นจะชนะ หากผลออกเสมอถือว่าไม่มีได้เสียหรือ “เจ๊า” เงินเดิมพันจะคืนให้ผู้แทงเต็มจำนวนsoccersuck.com (ศัพท์อังกฤษเรียกการเดิมพันแบบนี้ว่า DNB – Draw No Bet เพราะเสมอไม่คิดผลได้เสีย) เช่น แทงทีม A ราคา PK ถ้าทีม A ชนะก็ได้เต็ม แพ้ก็เสียเต็ม เสมอได้เงินคืนเต็มจำนวน
-
0+0.5 (เสมอควบครึ่ง หรือ ปป.) – เป็นราคาแบบควบสองหน้า กล่าวคือครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพันคิดที่ราคา 0.0 และอีกครึ่งหนึ่งคิดที่ราคา 0.5 นั่นเอง ผลเสมอจึงเกิดการได้เสียครึ่งหนึ่งตามชื่อราคา ควบครึ่ง เช่น ถ้าเราแทงทีมต่อ ราคา 0+0.5:
-
หากทีมต่อชนะ 1 ลูกขึ้นไป → เราได้เต็ม
-
หากผล เสมอ → เราจะ เสียครึ่งหนึ่ง ของเงินเดิมพัน (อีกครึ่งถือว่าเจ๊าคืนทุนเพราะส่วน 0.0 ไม่ได้ไม่เสีย)
-
หากทีมต่อแพ้ → เราเสียเต็ม
ในทางกลับกัน ถ้าเราแทงทีมรอง ราคา +0.25 (รอง ปป):
-
ชนะได้เต็ม, เสมอจะ ได้ครึ่ง (เพราะทีมรองเสมอถือว่าชนะครึ่งหนึ่งจากส่วน 0.5 ที่รองอยู่)soccersuck.com, แพ้เสียเต็ม
-
จะเห็นว่า ความต่างระหว่าง PK กับ 0.25 อยู่ที่ ผลเสมอ นั่นเอง – ราคาต่อเสมอ (PK) จะคืนทุนไม่มีใครได้ใครเสีย แต่ราคาปป.หรือเสมอควบครึ่ง จะมีการได้/เสียครึ่งหนึ่งเกิดขึ้น กรณีนี้หากเราไม่อยากลุ้นเหนื่อยกับผลเสมอจนต้องเสียเงินครึ่งหนึ่ง การเลือกเล่นแบบ DNB (PK) อาจปลอดภัยกว่า แต่ค่าน้ำมักต่ำกว่าเล็กน้อย เพราะตัดผลเสมอออกไปนั่นเอง (เช่น ทีมต่อต่อเสมอค่าน้ำอาจจ่ายน้อยกว่าราคา -0.25 ที่เสี่ยงเสียครึ่ง) ดังนั้นเวลาอ่านโพยต้องสังเกตดี ๆ ว่าระบุ 0.0 หรือ 0.25 เพราะผลลัพธ์ต่างกันอยู่พอสมควร เมื่อเข้าใจรหัสราคาแล้ว ให้ต่อยอดเป็นลำดับงานที่ทำซ้ำได้ใน 5 ขั้นวิเคราะห์บอล
ตัวอย่าง: สมมติคืนนี้มีบอลคู่ใหญ่ ทีมเจ้าบ้าน ต่อเสมอ (0) กับ ทีมเยือน ถ้าเราเล่นเจ้าบ้านแล้วเสมอกัน เราจะไม่เสียเงิน แต่ถ้าราคาออกมาเป็น ต่อ ปป (0.25) แล้วเราเล่นเจ้าบ้าน เสมอขึ้นมาเราจะเสียครึ่งหนึ่งทันที เป็นต้น
ประเภทเดิมพัน (คำศัพท์แทงบอล เต็ง–สเต็ป–สูง/ต่ำ)
นอกจากเรื่องราคาต่อรองและค่าน้ำ อีกส่วนหนึ่งที่นักพนันต้องรู้คือ ประเภทของการเดิมพันฟุตบอล ซึ่งมีศัพท์เรียกเฉพาะเช่นกัน โดยหลัก ๆ แล้วการแทงบอลแบ่งได้เป็น:
-
บอลเต็ง (Single Bet หรือ Straight Bet) – คือการแทงบอลเดี่ยว 1 คู่ต่อ 1 บิล ถ้าแทงถูกก็รับเงินเลยไม่ต้องพ่วงคู่อื่น เป็นรูปแบบพื้นฐานที่ง่ายและเหมาะกับมือใหม่หรือคนที่ต้องการความเสี่ยงต่ำ คำว่า Straight ในภาษาอังกฤษหมายถึงการแทงตรงตัวหนึ่งรายการก็จบ ในบทวิเคราะห์หรือเพจทีเด็ดมักใช้คำว่า ทีเด็ดบอลเต็ง เพื่อบอกคู่บอลเดี่ยวที่มั่นใจที่สุดของวันนั้น
-
บอลสเต็ป / บอลชุด (Mix Parlay / Accumulator) – คือการแทงบอลหลายคู่ (ตั้งแต่ 2 คู่ขึ้นไป) ในบิลเดียว ซึ่งผู้เล่นจะต้องทายถูกทุกคู่จึงจะชนะเดิมพัน บางครั้งเรียก Combo Bet หรือ Acca (ย่อมาจาก accumulator) ก็มี หากทายผิดแม้แต่คู่เดียวบิลนั้นจะตายทันที ความเสี่ยงสูงแต่ผลตอบแทนก็ทวีคูณตามจำนวนคู่และค่าน้ำที่คูณกันไปเรื่อย ๆ เซียนบอลมักจัดชุดเป็น ทีเด็ดบอลชุด หรือ ทีเด็ดบอลสเต็ป เช่น “สเต็ป 3” หรือ “สเต็ป 4” เพื่อเพิ่มโอกาสได้กำไรมากขึ้นจากเงินก้อนเล็ก ตัวอย่างการคิดเงินบอลสเต็ปเช่น แทง 3 คู่ค่าน้ำ 1.80, 1.75, 2.00 ด้วยเงิน 100 บาท หากเข้าเต็มหมดจะได้เงิน = 100 x 1.80 x 1.75 x 2.00 = 630 บาท (รวมทุน) ซึ่งเห็นได้ว่ากำไรมากกว่าบอลเต็งเยอะ แต่ก็แลกกับโอกาสถูกยากขึ้น ดังนั้นหลายเพจจะให้ทีเด็ดบอลวันนี้ 4 คู่บ้าง 5 คู่บ้างแล้วแต่ความมั่นใจของเซียนแต่ละคน เพื่อให้ผู้อ่านนำไปจัดพาร์เลย์ตามชอบ
-
สูง/ต่ำ (Over/Under หรือ O/U) – เป็นการทายผลรวมสกอร์ของทั้งสองทีมว่าจะออกมา “สูง” กว่าหรือต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด โดยไม่สนว่าใครชนะ เช่น ราคาสูง/ต่ำเปิดที่ 2.5 ลูก หากทั้งเกมยิงรวมกัน 3 ลูกขึ้นไปถือว่า “สูง” (Over) ถ้ายิงรวม 2 ลูกหรือน้อยกว่านั้นคือ “ต่ำ” (Under) การแทงสูง/ต่ำเป็นที่นิยมเพราะเชียร์สนุก ลุ้นประตูรวมไม่ต้องเลือกทีม ทั้งยังมีรูปแบบย่อยเช่น สูง/ต่ำครึ่งแรก, สูง/ต่ำลูกเตะมุม เป็นต้น ในกลุ่มเซียนจึงมักแจกทีเด็ดบอลสูงหรือต่ำสำหรับคนที่ถนัดเล่นสกอร์รวม แถมบางทีใช้คำว่า สูงต่ํา หรือ over/under ปนกันไป (เช่น “คู่นี้ O/U เปิด 3 ลูก รอง Under น่าลุ้น”) ซึ่งหมายถึงแทงต่ำ
นอกจาก 3 ประเภทหลักข้างต้น ยังมีตลาดเดิมพันอื่น ๆ เช่น คู่คี่ (Odd/Even) ทายว่าสกอร์รวมออกมาเป็นเลขคู่หรือคี่, มันนี่ไลน์ (Moneyline หรือ 1X2) ทายผลแพ้ชนะแบบสามหน้า, เอเชียนแฮนดิแคป (Asian Handicap) ที่อธิบายไปแล้ว, พูล (Pool) แบบทายผลแชมป์หรือผลระยะยาว, เอาท์ไรท์ (Outright) ทายผลชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ เป็นต้น แต่สำหรับมือใหม่ การเริ่มจากการรู้จัก บอลเต็ง, บอลสเต็ป และสูง/ต่ำ ถือเป็นพื้นฐานที่ควรเข้าใจก่อน เมื่อแม่นแล้วค่อยต่อยอดไปตลาดอื่น ๆ ก็ยังไม่สาย
ศัพท์ “Single / Straight / 1X2 / AH”
Single และ Straight ในบริบทแทงบอลหมายถึงการแทงแบบเดี่ยวทั้งคู่ เพียงแต่ Straight bet เป็นคำเรียกโดยรวมว่าการพนันตรงตัวชนิดหนึ่ง เช่น ในต่างประเทศอาจแบ่ง Straight bet (แทงทีมใดทีมหนึ่งหรือสูง/ต่ำแบบเดี่ยว) กับ Parlay bet (แทงแบบชุด) ดังนั้น บอลเต็งหนึ่งคู่ ก็คือ single/straight นั่นเอง ส่วนคำว่า 1X2 นั้นเป็นรหัสย่อสากลของการเดิมพันแบบมันนี่ไลน์สามหน้า:
-
1 หมายถึง แทงว่าทีมเจ้าบ้านชนะ
-
X หมายถึง แทงว่าเสมอกัน
-
2 หมายถึง แทงว่าทีมเยือนชนะ
การพนันแบบ 1X2 เป็นที่นิยมเพราะเข้าใจง่าย ไม่ต้องมีแต้มต่อเข้ามายุ่ง แต่ทีมเก่งจะจ่ายน้อยทีมรองบ่อนจ่ายสูงตามโอกาสชนะที่ต่างกัน เช่น เกมที่สูสีอาจเห็นราคา 1 = 2.50, X = 3.00, 2 = 2.50 แต่เกมที่ต่างชั้นกันมาก ราคา 1 (เจ้าบ้านเก่ง) อาจเหลือ 1.20 ส่วน 2 (ทีมรอง) สูงถึง 12.0 เป็นต้น
สำหรับ AH ย่อมาจาก Asian Handicap หรือแฮนดิแคปแบบเอเชียที่เราใช้กันอยู่ (ตารางต่อรอง 0, 0.25, 0.5, … ที่อธิบายไว้ข้างต้น) บางครั้งบนเว็บไซต์ต่างประเทศจะใช้ตัวย่อ HDP แทนเช่นกัน การพูดว่า “เล่นทีมต่อ AH -0.75” ก็หมายถึงแทงทีมต่อราคา ครึ่งควบลูก นั่นเอง ทั้งนี้ AH/HDP แตกต่างจาก 1X2 ตรงที่มีการต่อแต้มให้ทีมรอง ทำให้โอกาสชนะเดิมพันเป็น 50/50 ในสองฝั่ง (แทนที่จะเป็นสามหน้าแบบ 1X2) จึงเป็นที่นิยมมากในเอเชียและบ้านเรา
สรุปสั้น ๆ:
-
Single/Straight bet = แทงบอลเดี่ยว 1 คู่
-
1X2 (มันนี่ไลน์) = เดิมพันแพ้/เสมอ/ชนะแบบสามทาง ไม่มีต่อรอง
-
AH (Asian Handicap) = แทงบอลแบบมีแต้มต่อ (0, 0.5, 1.0 ฯลฯ) หรือที่เรียกกันว่าเล่น HDP
ศัพท์ “Combo / Acca / Parlay” พร้อมตัวอย่าง ทีเด็ดบอลวันนี้ 4 คู่
ในการพูดถึงการแทงบอลชุดหลายคู่ เราอาจเจอหลายคำที่หมายถึงสิ่งเดียวกัน:
-
Combo bet – การเดิมพันแบบผสมหลายรายการในบิลเดียว (อีกคำที่ใช้คล้าย ๆ กันคือ Combination แต่ Combo จะสื่อถึงการจับหลายตลาดหรือหลายคู่ผสมกัน)
-
Acca (Accumulator) – คำนี้ฮิตในวงการแทงบอลออนไลน์ฝั่งยุโรป หมายถึงการแทงบอลชุดหรือบอลสเต็ปที่เรารู้จักกัน (สะสมการชนะหลาย ๆ คู่เข้าด้วยกัน) เช่น “five-fold acca” = สเต็ป 5 คู่
-
Parlay – คำนี้นิยมในอเมริกา ความหมายก็เท่ากับบอลชุด/สเต็ป เหมือนกับ Acca ทุกประการ
ดังนั้นไม่ว่าจะเรียก Combo, Acca, Parlay ต่างก็หมายถึงการแทงหลายคู่ในบิลเดียวทั้งสิ้น นักพนันควรรู้ไว้เผื่อไปเจอบทความต่างประเทศจะได้ไม่งง เช่น “10-team parlay” ก็แปลตรงตัวว่าสเต็ป 10 นั่นเอง เพื่อกันข้อมูลผิดพลาด ควรอ้างอิงเฉพาะแหล่งที่ผ่านการคัดคุณภาพอย่าง แหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ
ตัวอย่างการใช้: สมมติในกลุ่มแจกทีเด็ดมีโพยว่า “ทีเด็ดบอลวันนี้ 4 คู่” ให้มาดังนี้:
-
ลิเวอร์พูล ต่อ 1 ลูก
-
เรอัล มาดริด ต่อ 0.5
-
บาเยิร์น มิวนิค – ต่อ 1.5
-
โรม่า – รอง 0.25
หากเราถือเป็น Combo 4 คู่ และแทงแบบสเต็ป สมมติค่าน้ำแต่ละคู่ประมาณ 1.80 เท่า (เฉลี่ย) แทง 100 บาท ถ้าชนะหมดทั้ง 4 คู่ เงินที่จะได้รับคือ 100 * 1.80^4 ≈ 100 * 10.5 = 1,050 บาท (รวมทุน) เลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วย เพราะถ้าผิดแค่คู่เดียวจะไม่ได้เงินเลย ในทางปฏิบัติหลายคนจึงนิยมจัดสเต็ป 3 หรือ 4 คู่กำลังดี เพราะโอกาสถูกพอมีและบิลไม่ยาวเกินไป
อีกตัวอย่างที่เห็นบ่อยคือบางเว็บไซต์จะมีโปรโมชั่นเพิ่มโบนัสให้ถ้าถูกสเต็ปหลายคู่ เช่น ถูก Acca 5 คู่ขึ้นไปเพิ่มโบนัส 5% อะไรแบบนี้ เป็นต้น ก็ให้เข้าใจว่า Acca หรือ Parlay ที่ว่า ก็คือบอลชุดที่เราเล่นกันนั่นเอง
เกร็ดความรู้: ในอดีตโต๊ะบอลไทยจะกำหนดขั้นต่ำการแทงสเต็ปไว้ เช่น ต้องแทงอย่างน้อย 3 คู่ขึ้นไป (ไม่รับสเต็ป 2) และมักมีใบโพยระบุคู่ที่เปิดให้เล่นแต่ละวัน ผู้เล่นก็ “กาโพย” เลือกคู่ตามต้องการ แล้วรอลุ้นทีเดียว ปัจจุบันแทงออนไลน์เราเลือกกี่คู่ก็ได้ แต่ก็ยังมีข้อควรระวัง เช่น บางเว็บจำกัดเพดานจ่ายสูงสุดของบิลสเต็ปไว้ หรือบางแห่งห้ามจัดบางคู่ไว้ในบิลเดียวกัน เป็นต้น
สำนวนตลาด & ภาษาโต๊ะ (ศัพท์ตลาด / สำนวนโต๊ะ)
เวลาอ่านบทวิเคราะห์หรือฟังเซียนพนันคุยกัน เราอาจเจอสำนวนตลาดและภาษาโต๊ะที่เป็นการพูดแบบฉบับนักพนัน ซึ่งบางครั้งไม่ใช่คำทางการ แต่เป็นแสลงหรือคำเปรียบเปรยที่เข้าใจกันในวงการ ตัวอย่างเช่น:
-
ต่อเส้น – คำนี้ใช้บ่อยในเว็บบอร์ดหรือเพจวิเคราะห์บอล หมายถึง ราคาต่อรองเปิดมาแบบเสมอ (0.0) ไม่มีทีมใดต่อลูก แต่มีการ “ต่อราคา” หรือค่าน้ำกันเล็กน้อย เช่น ทีมเก่งต่อเส้นคือไม่มีแต้มต่อ แต่ค่าน้ำฝั่งทีมเก่งอาจจ่ายน้อยกว่าทีมรอง (เป็นต่อเฉพาะค่าน้ำ) บางทีก็ใช้ว่า “ใครต่อรอง” ความหมายใกล้เคียงกัน คือให้คนแทงเลือกเอาเองว่าใครน่าจะชนะ ไม่มีการต่อลูก ข้อสังเกตคือทีมต่อเส้นมักถูกทำตัวหนังสือสีแดงในตารางบอลเพื่อบ่งชี้ว่าเป็นทีมที่ได้เปรียบเล็กน้อยแม้ไม่ต่อแต้ม
-
ไหลขึ้น/ไหลลง – สำนวนนี้มาจาก ราคาบอลไหล หมายถึงการที่อัตราต่อรองหรือค่าน้ำมีการปรับเปลี่ยนขึ้นลงเมื่อเวลาผ่านไป ราคาที่ ไหลขึ้น หมายถึงฝั่งทีมนั้นได้รับการต่อเพิ่มขึ้น หรือค่าน้ำลดลง (จ่ายน้อยลง) เพราะคนแห่แทงฝั่งนั้นมาก เช่น จากต่อ 1 ลูก ไหลขึ้นเป็น 1.25 แปลว่าทีมต่อต้องยิงเพิ่มขึ้นอีกถึงจะได้เงินเต็ม ส่วน ไหลลง คือราคาต่อรองลดลงหรือค่าน้ำเพิ่มขึ้น แสดงว่ากระแสเงินไปอีกฝั่ง เช่น จากต่อ 1 ลูก เหลือ 0.5-1 (ครึ่งควบ) แปลว่าคนเริ่มเทใจไปทีมรองมากขึ้น โต๊ะเลยปรับราคาลง เป็นต้น
-
น้ำแดง / น้ำดำ – คำนี้เราอธิบายไปแล้วข้างต้นในส่วนค่าน้ำ MY แต่ในวงสนทนาเซียนบอลจะใช้กันติดปากมาก เช่น “คู่นี้กดรองน้ำแดงไป” หมายถึงแทงทีมรองที่ราคาค่าน้ำแดง (ได้เต็ม เสียไม่เต็ม) หรือ “อย่าไปต่อเลยน้ำดำจ่ายน้อย” หมายถึงค่าน้ำดำฝั่งทีมต่อจ่ายน้อยกำไรไม่คุ้มเสี่ยง เป็นต้น ส่วนน้ำดำบางทีก็ไม่เรียกตรง ๆ แต่เข้าใจกันว่าถ้าไม่ใช่น้ำแดงก็คือน้ำดำ (บนเว็บบางแห่งจะไม่ใช้สีแดง/ดำ แต่จะใส่เครื่องหมายลบหน้าค่าน้ำแดงอย่างเดียว เราก็ดูที่เครื่องหมายลบได้เช่น -0.85 แปลว่าน้ำแดง)
-
กินเต็ม, กินครึ่ง, เจ๊า, เสียครึ่ง, เสียเต็ม – กลุ่มคำนี้คือภาษาโต๊ะบอลไว้บรรยายผลได้เสียหลังบอลจบ กินเต็ม = ได้เงินเต็มตามที่ควรได้, กินครึ่ง = ได้เงินครึ่งเดียว (อีกครึ่งเจ๊า), เจ๊า = เท่าทุนคืนเงิน, เสียครึ่ง = เสียเงินครึ่งหนึ่ง, เสียเต็ม = เสียเต็มจำนวนที่แทงไป คำพวกนี้มักใช้สั้น ๆ ตอนคิดเงิน เช่น “แมนยูต่อครึ่งลูก ผลชนะ 1-0 = กินเต็ม” หรือ “ต่อหนึ่งลูก ชนะลูกเดียว = เจ๊า” เป็นต้น (เราได้เห็นการใช้ไปบ้างในตารางอธิบายราคาต่อรองด้านบนด้วย เช่นคำว่า เสียครึ่ง / ได้ครึ่งsoccersuck.com)
-
เข้า / ตาย – สำนวนว่า “บอลเข้า” หมายถึงแทงถูก, “บอลตาย” หมายถึงบิลสเต็ปเสียเพราะมีคู่ใดคู่หนึ่งแพ้เดิมพัน เช่น ได้ยินบ่อย ๆ “สเต็ปตายตัวสุดท้าย” = ตายเพราะคู่สุดท้ายผิด นอกจากนี้คำว่า “แตก” ก็ใช้กับสเต็ปเข้าทุกคู่ เช่น “เข้าหมด 5 คู่ สเต็ปแตก รับทรัพย์” เป็นต้น
-
ต่อหมดหน้าตัก / รองบ่อน / อยู่ฝั่งต่อ-ฝั่งรอง – คำเหล่านี้คือการบอกแนวทางเชียร์ เช่น “รองบ่อน” แปลว่าถือหางทีมรองบ่อน, “อยู่ฝั่งต่อ” คือเลือกแทงทีมต่อ, ส่วน “หมดหน้าตัก” คือแทงแบบเทหมดที่มี (all-in) มักใช้เวลาเซียนมั่นใจมาก ๆ แล้วเชียร์ให้จัดหนัก แต่สำหรับมือใหม่อย่าพึ่งใจร้อนตามคำยุยงเหล่านี้ ควรบริหารเงินเป็นส่วนจะปลอดภัยกว่า 😅
ตัวอย่าง: สมมติเราดูเว็บวิเคราะห์บอลแล้วเจอข้อความว่า “เกมนี้ทีมเยือนบุกมาต่อเส้น แต่ราคาไหลลงนิดหน่อยจากตอนแรกต่อ 0.25 เหลือเพียง 0.0 คาดว่าโต๊ะมองว่าสูสี เจ้าถิ่นฟอร์มดีมีลุ้นยันเสมอ อยู่รองดีกว่า น้ำแดงล้นๆ ไหลมาฝั่งรองชัดเจน” เราสามารถแปลความได้ดังนี้: ทีมเยือนตอนแรกบ่อนเปิดราคามาแบบต่อ ปป (0.25) แต่พอใกล้แข่งกระแสราคา ไหลลง เหลือ ต่อเสมอ (0.0) แสดงว่าทีมเยือน (ทีมต่อ) ไม่ได้เหนือกว่ามากแล้ว คนหันไปแทงเจ้าบ้าน (ทีมรอง) กันเยอะ ราคาจึงปรับลดลง เซียนจึงเชียร์ “อยู่รอง” คือเลือกถือหางเจ้าบ้าน พร้อมทั้งบอกว่าเห็น น้ำแดง ไหลมาฝั่งรองเยอะ หมายถึงแทงทีมรองเสียค่าน้ำน้อย (น้ำแดง) ดูคุ้มค่า และโอกาสสองทีมเสมอกันมีสูง (“ยันเสมอ”) แบบนี้เป็นต้น
ตัวอย่างโพยจริงจากโปรแกรมบอล พร้อมแปลโค้ด
เพื่อให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น ลองดูตัวอย่างโพยบอลจากโปรแกรมการแข่งขันจริง สมมติว่าในตารางโปรแกรมวันนี้มีคู่หนึ่งแสดงดังนี้
-
อาร์เซน่อล ต่อ 0.5-1 @ น้ำแดง -0.90 – ทีมเจ้าบ้านอาร์เซน่อลเป็น ทีมต่อ ราคาครึ่งควบลูก (0.75) โดยค่าน้ำเป็น น้ำแดง -0.90 หมายความว่า ถ้าแทงอาร์เซน่อล 100 บาท:
-
ชนะตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไป → ได้กำไร 100 บาทเต็ม (ได้เงินคืน 200)
-
ชนะ 1 ลูก → ได้ครึ่งหนึ่ง (ได้กำไร 50 บาท เพราะได้ครึ่งตามราคา 0.75)
-
เสมอหรือแพ้ → เสียตาม น้ำแดง 0.90 คือเสีย 90 บาท (ไม่เสียเต็มร้อย) แมนฯ ยูไนเต็ด รอง 0.5-1 @ น้ำดำ 0.80 – ทีมเยือนแมนยูเป็น ทีมรองครึ่งควบลูก ค่าน้ำ น้ำดำ 0.80 แปลว่า ถ้าแทงแมนยู 100 บาท:
-
-
-
ชนะเกมหรือยันเสมอ → ได้กำไร 80 บาท (ได้เงินกลับมา 180 รวมทุน)
-
แพ้ 1 ลูก → เสียครึ่งหนึ่ง (เสีย 50 บาท เพราะทีมรองแพ้ครึ่งควบลูกเสียครึ่ง)
-
แพ้เกิน 1 ลูก (เช่น แพ้ 2-0) → เสียเต็ม 100 บาท
-
-
สูง/ต่ำ 2.75 (ลูกครึ่งควบสอง) – เกณฑ์ประตูรวมอยู่ที่ 2.75 ลูก:
-
แทง สูง (Over) น้ำดำ 0.95 – ถ้ายิงรวมกัน 3 ลูกขึ้นไปได้กำไร 95 บาทต่อ 100 ที่แทง, ถ้ายิงรวม 2 ลูกหรือน้อยกว่านั้นเสียเต็ม 100 (กรณียิงรวม 3 ลูกตรงๆ จะได้ครึ่ง เพราะ 2.75 คือ 2.5-3) เพื่อไม่ให้กำไรที่ได้จากการอ่านราคาถูกกินคืนในการเดินเงิน ลองวางระบบที่ บริหารเงินขั้นสูง
-
แทง ต่ำ (Under) น้ำแดง -0.85 – ถ้ายิงรวมกัน ≤ 2 ลูกได้กำไรเต็ม 100 บาท, ถ้ายิง 3 ลูกขึ้นไปเสีย 85 บาทต่อ 100 ที่แทง (กรณียิงรวม 3 ลูกเสียครึ่ง)
-
จะเห็นว่าโพย 1 คู่ประกอบด้วยหลายข้อมูลมาก ทั้งฝั่งต่อ/รอง แฮนดิแคป ค่าน้ำ และสูงต่ำ นี่ขนาดยังไม่รวมตลาดอื่น ๆ อย่าง 1X2 หรือเดิมพันเฉพาะครึ่งเวลาเลย ดังนั้นการรู้จักศัพท์และโค้ดเหล่านี้จึงจำเป็นมาก เพราะโพยบอลจริงจะมาในฟอร์แมตลักษณะนี้เสมอ ไม่ต่างอะไรกับการอ่านโค้ดหุ้นหรือราคา Forex เลยทีเดียว
Tips: ถ้าเจอโพยหรือข้อความราคาบอลที่ยาว ๆ เราสามารถใช้เครื่องมือไอทีช่วยได้ เช่น การเขียน Regex (Regular Expression) ง่าย ๆ เพื่อดึงค่าตัวเลขต่อรองออกมาให้อ่านสะดวกขึ้น เพราะราคาบอลมักอยู่ในรูปแบบมาตรฐาน เช่น มีเลขกับจุดทศนิยมและอาจคั่นด้วยเครื่องหมาย / หรือ – ตัวอย่าง regex เช่น r"\d+(\.\d+)?([-/]\d+(\.\d+)?)?"
จะจับแพทเทิร์นพวก 0.5-1 หรือ 1/1.5 ได้ เราจะเห็นเลขเหล่านี้ชัดและนำมาตีความต่อได้ทันที เช่นข้อความ “ต่อ 1/1.5 ค่าน้ำ -0.95” เราอาจเขียนโค้ดให้ไฮไลท์ 1/1.5 กับ -0.95 ขึ้นมา ซึ่งช่วยในการแปลโพยยาว ๆ ได้เร็วขึ้น (สำหรับผู้ที่ถนัดเทคนิคคอมพิวเตอร์) อย่างไรก็ดี สำหรับคนทั่วไป การฝึกอ่านเองจนชินย่อมดีที่สุด
Regex ง่าย ๆ ดึงราคาอัตโนมัติจากข้อความ
ตามที่เกริ่นไปข้างต้น เราสามารถใช้ Regular Expression (Regex) ในการค้นหาและดึงตัวเลขราคาบอลออกมาจากข้อความได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งมีประโยชน์มากเวลาที่เราต้องการวิเคราะห์โพยจำนวนมาก หรือดึงข้อมูลไปคำนวณอย่างอื่น ลองมาดูตัวอย่างง่าย ๆ:
เมื่อเราได้ข้อมูลที่ดึงออกมา ก็สามารถนำไปไฮไลท์หรือตีความต่อได้ทันที เช่น “แมนฯ ซิตี้ ต่อ 1.5/2” -> แฮนดิแคปลูกครึ่งควบสอง, “ค่าน้ำ 0.88” -> น้ำดำ 0.88 (แทง 100 ได้ 88) เป็นต้น
การใช้ Regex เป็นขั้นสูงขึ้นมาหน่อย และไม่จำเป็นสำหรับทุกคน แต่มันชี้ให้เห็นว่าภาษาของโพยบอลนั้นมีรูปแบบตายตัว สามารถจับเป็นแพทเทิร์นซ้ำ ๆ ได้ การเข้าใจโครงสร้างนี้ทำให้เรารู้ว่าเราควรมองหาข้อมูลตรงไหนในข้อความ เช่น ตัวเลขที่ตามหลังคำว่า “ต่อ” หรือ “สูง” มักจะเป็นอัตราต่อรอง ส่วนตัวเลขที่มีเครื่องหมาย +/– นำหน้ามักเป็นค่าน้ำ เป็นต้น
คำย่อเหตุการณ์ (ศัพท์นักพากย์ / ภาษาบอลอังกฤษ)
นอกเหนือจากคำศัพท์ด้านราคาเดิมพันแล้ว ในการติดตามการแข่งขันสด การอ่านสถิติ หรือตามวิเคราะห์บอลสด เราอาจพบ คำย่อเหตุการณ์ หรือศัพท์ทางฟุตบอลภาษาอังกฤษอยู่มากมาย ซึ่งบางคำเกี่ยวพันกับการเดิมพันด้วยเช่นกัน การรู้จักตัวย่อเหล่านี้จะช่วยให้อ่านรายงานเกมและบทวิเคราะห์ราคาบอลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น (โดยเฉพาะในเว็บต่างประเทศหรือตารางสรุปสถิติ) ตัวอย่างคำย่อที่พบบ่อย เช่น:
-
HT – ย่อมาจาก Half Time หมายถึง จบครึ่งแรก หรือช่วงพักครึ่งเวลา 45 นาทีแรก
-
FT – ย่อมาจาก Full Time หมายถึง จบเวลาการแข่งขันเต็มเวลา 90 นาที
-
BTTS – ย่อมาจาก Both Teams To Score หมายถึง ทั้งสองทีมทำประตูได้ไหม (เป็นตลาดเดิมพันชนิดหนึ่งด้วย มีให้เลือก Yes/No) เช่น “BTTS – Yes” แปลว่านัดนี้ทั้งสองฝั่งยิงได้อย่างน้อยฝั่งละประตู, ถ้า “BTTS – No” คือมีอย่างน้อยหนึ่งทีมยิงไม่ได้เลย
-
O/U – ย่อมาจาก Over/Under หรือ สูง/ต่ำ นั่นเอง เราจะเจอในตารางราคาและบทวิเคราะห์สกอร์สูงต่ำเป็นประจำ (บางครั้งในบทวิเคราะห์ไทยก็เขียนทับศัพท์ว่า O/U ไปเลย)
-
HG/AG – ย่อมาจาก Home Goals / Away Goals คือ ประตูที่ยิงโดยทีมเหย้าและทีมเยือน ตามลำดับ ในตารางสถิติบางที่อาจใช้ GF/GA (Goals For / Goals Against) ที่ความหมายเดียวกัน
-
YC / RC – Yellow Card / Red Card ใบเหลือง / ใบแดง ที่แจกในเกม (เช่น “Team A: 2 YC 1 RC” = ทีม A ได้ 2 เหลือง 1 แดง)
-
PK – มีสองความหมายขึ้นกับบริบท: ถ้าในตารางคะแนน PK อาจหมายถึง Penalty Kicks (จุดโทษที่ยิงเข้า) แต่ถ้าในบริบทเดิมพัน PK คือ Pick’em หรือราคาเสมออย่างที่อธิบายไปแล้ว (ต้องดูความหมายจากบริบท)
-
ET – Extra Time คือ ช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที (ฟุตบอลถ้วยที่ต้องการผู้ชนะ จะมีต่อเวลาให้หลังจบ 90 นาทีเสมอกัน) ในตลาดเดิมพันบางครั้งจะระบุ FT (90 นาที) กับ ET แยกกันชัดเจน เช่น “To Qualify” จะรวมช่วงต่อเวลาด้วย
-
Pens – ย่อมาจาก Penalties คือการดวลจุดโทษตัดสิน (หลังต่อเวลา) เช่น “Win on Pens” = ชนะในการยิงจุดโทษ
-
DNB – ที่กล่าวไปแล้วคือ Draw No Bet หมายถึง แทงแบบไม่มีผลเสมอ (เสมอคืนเงิน)soccersuck.com เป็นตลาดยอดนิยมอีกแบบหนึ่ง
-
CS – ย่อมาจาก Correct Score คือการทาย สกอร์ถูกต้อง แบบเจาะจง เช่น ทายว่า FT จะจบ 2-1, 1-1 เป็นต้น ซึ่งอัตราจ่ายสูงมากเพราะเดายาก (ในบทวิเคราะห์บางทีเซียนจะให้ “ฟันธงสกอร์” ไว้ นักอ่านก็ใช้ประกอบการตัดสินใจได้แต่ไม่จำเป็นต้องแทง CS ตาม เพราะโอกาสถูกเป๊ะค่อนข้างต่ำ)
Glossary: 10 คำย่อยอดฮิตในตลาดเดิมพันสด (Live-Bet)
เพื่อให้เห็นภาพรวม นี่คือ 10 คำย่อ ที่พบบ่อยสุดในบริบทการเดิมพัน/วิเคราะห์ฟุตบอล พร้อมคำอธิบายสั้น ๆ:
-
HT – Half Time (ครึ่งเวลาแรก 45 นาที) – เช่น “HT: 1-0” = จบครึ่งแรกเจ้าบ้านนำหนึ่งลูก
-
FT – Full Time (เต็มเวลา 90 นาที – เช่น “FT: 2-1” = จบเกมเจ้าบ้านชนะ 2-1
-
ET – Extra Time (ต่อเวลาพิเศษ 30 นาที) – ใช้เมื่อเกมเสมอในเวลาปกติและต้องเล่นต่อเวลา เช่น “ET: 3-2” = จบช่วงต่อเวลาผล 3-2
-
1X2 – เดิมพันสามหน้า (1=เหย้าชนะ, X=เสมอ, 2=เยือนชนะ) – เช่น “เล่น 1X2 เจ้าบ้าน (1) @2.10” = แทงเจ้าบ้านชนะค่าน้ำ2.10
-
O/U – Over/Under (สูง/ต่ำ) – เช่น “สูง/ต่ำ 2.5” = ทายสกอร์รวมสูงหรือต่ำกว่า 2.5 ประตู
-
BTTS – Both Teams To Score (ทั้งสองทีมทำประตู) – “BTTS – Yes” = ทั้งสองฝั่งยิงได้, “BTTS – No” = อย่างน้อยฝั่งหนึ่งยิงไม่ได้
-
DNB – Draw No Bet (เสมอไม่มีได้เสีย)soccersuck.com – เช่น “แมนฯยู DNB @1.80” = แทงแมนยูชนะ (ถ้าเสมอคืนทุน) ค่าน้ำ 1.80
-
DC – Double Chance (สองโอกาส) – เป็นเดิมพันที่ครอบคลุมสองในสามหน้า 1X2:
-
1X = เจ้าบ้านไม่แพ้ (ชนะหรือเสมอก็ได้)
-
X2 = ทีมเยือนไม่แพ้
-
12 = ใครชนะก็ได้ (แค่ไม่เสมอ)
เช่น “จับเชลซี Double Chance 1X” = แทงเชลซีไม่แพ้
-
-
AH (HDP) – Asian Handicap (แฮนดิแคปแบบเอเชีย) – เช่น “ทีม A -0.5 AH” = ทีม A ต่อครึ่งลูก
-
CS – Correct Score (ทายสกอร์ตรง) – เช่น “กด CS 2-1 @8.00” = แทงสกอร์จบ 2-1 ค่าน้ำ 8.00 (แทง 100 ได้ 800 ถ้าถูกตรงเป๊ะ)
ฐานเกมที่แม่นทำให้การแปลราคาราบรื่นขึ้น ทบทวน กฎ/ตำแหน่งฟุตบอล
คำย่อเหล่านี้นอกจากใช้ในการแทงแล้ว บางครั้งยังปรากฏในบทวิเคราะห์หรือบทความฟุตบอลทั่วไป เช่น “สถิติ HT/FT” หมายถึงสถิติครึ่งแรก/เต็มเวลา, หรือ “ทีม B 5 นัดหลัง BTTS 80%” หมายถึง 5 นัดหลังของทีม B มีถึง 4 นัดที่ทั้งสองทีมยิงประตูกันได้ เป็นต้น
แนวทาง “Decode → Classify → Apply”
เมื่อเรามีคลังศัพท์พื้นฐานในมือแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำไปใช้จริง ซึ่งสามารถสรุปเป็นแนวทาง 3 ขั้นตอน: Decode → Classify → Apply
-
Decode (ถอดรหัส) – เริ่มจากการฝึกอ่านโพยหรือบทวิเคราะห์บอลรายวัน ให้ลอง ถอดรหัส คำย่อและโค้ดต่าง ๆ ที่เจอ เช่น เปิดดูหน้าเว็บที่รวมทรรศนะเซียนแต่ละคู่ของวันนี้ ลองไล่อ่านทีละย่อหน้า เจอคำศัพท์หรืออักษรย่อไหนให้หยุดและทบทวนความหมาย เช่น HT, FT, ปป, 0.5/1, -10 ฯลฯ ว่าหมายถึงอะไร การถอดรหัสนี้เหมือนการแปลภาษาต่างประเทศ พยายามทำความเข้าใจใจความให้ได้ว่าเขากำลังบอกอะไรเกี่ยวกับคู่บอลนั้น ๆ บ้าง
-
Classify (จัดประเภท) – เมื่อแปลความหมายได้แล้ว ให้ลองจัดกลุ่มหรือระบุประเภทของข้อมูลที่ได้จากคำย่อเหล่านั้น เช่น ตัวเลขอย่าง 0.5, 1.5 จัดเป็น อัตราต่อรอง (Handicap), คำว่า สูง/ต่ำ จัดเป็น ประเภทเดิมพัน (ตลาด O/U), ตัวย่อ HT/FT จัดเป็น สถานการณ์เวลาแข่ง, ส่วนตัวย่ออย่าง DNB, DC จัดเป็น รูปแบบการแทงพิเศษ เป็นต้น การทำเช่นนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าข้อมูลส่วนไหนบอกอะไรเราบ้าง เช่น ในหนึ่งโพยเราอาจได้ข้อมูลว่า “ทีม A ต่อ 1 ลูก น้ำ 1.90 (ประเภท: แฮนดิแคป), ทรรศนะให้ต่อทีม A (ประเภท: คำแนะนำเดิมพัน), สกอร์ที่คาด 2-0 (ประเภท: ฟันธงสกอร์/แนวโน้มสูงต่ำ)” เป็นต้น เมื่อแยกแยะเป็นส่วน ๆ ได้ เราจะไม่สับสน และสามารถหยิบใช้ข้อมูลแต่ละอย่างได้ตรงจุด
-
Apply (ประยุกต์ใช้) – ขั้นสุดท้ายคือการนำความเข้าใจที่ได้ไปใช้ตัดสินใจและวางแผนการเดิมพันจริง สมมติวันนี้เรามีลิสต์ทีเด็ดบอลวันนี้อยู่ในมือ หลังจาก Decode และ Classify ข้อมูลแล้ว เราอาจสรุปออกมาได้ว่า:
-
คู่ที่ 1: ทีมต่อเหนือกว่ามาก (ต่อ 1.5 ลูก) เซียนฟันธงต่อ แปลว่าควรตามทีมต่อ หรืออาจพิจารณาแทงสูงถ้าคาดว่าจะยิงขาด
-
คู่ที่ 2: สูสีราคาเสมอ DNB เซียนไม่มั่นใจผลแพ้ชนะ (แนะให้ X2 double chance) เราอาจเลือกไม่ยุ่งหรือแทงแบบสองโอกาสลดความเสี่ยง
-
คู่ที่ 3: ทีเด็ดวิเคราะห์บอลลีกเล็กให้รอง +0.25 น้ำแดง เราเห็นตรงกันว่ารองมีลุ้น ก็อาจตามรองหรือถึงขั้นใส่รองแบบมันนี่ไลน์ถ้ามั่นใจมาก
การประยุกต์ใช้รวมถึงการเดินเงินและบริหารความเสี่ยงด้วย เช่น จากข้อมูลทั้งหมด เราอาจเลือกบอลเต็งมา 1 ตัวที่มั่นใจสุดลงทุนมากหน่อย และคัดอีก 3 ตัวมาจัดเป็นสเต็ปเล็ก ๆ เล่นขำๆ เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้น การตัดสินใจสุดท้ายควรเป็นของเราเอง ข้อมูลศัพท์และบทวิเคราะห์เป็นเพียงแนวทาง การฝึกใช้ศัพท์ให้คล่องจะช่วยให้เราเก็บรายละเอียดได้ครบ แต่ต้องระวังไม่ให้ “ลำเอียง” ตามเซียนจนเกินไป
-
แบบฝึกหัด: แปลโพย วิเคราะห์บอลทุกลีก สัปดาห์นี้
มาถึงช่วงฝึกปฏิบัติ ลองหาโพยหรือบทวิเคราะห์จริงจากเว็บที่ให้ทรรศนะบอลครบทุกลีก เช่น Lomtoe, Zeanstep, หรือบ้านผลบอล ฯลฯ แล้วเลือกมาสัก 1 คู่ ลองทำตามขั้นตอนดังนี้:
-
ขั้น Decode: อ่านเนื้อหาและจดคำศัพท์ย่อ/ตัวเลขที่เจอทั้งหมด เช่น สมมติบทวิเคราะห์เขียนว่า “บาร์เซโลน่า ต่อ 1.25 (ลูกควบลูกครึ่ง) เกมนี้แพ้ไม่ได้, ราคาบอลไหลขึ้นนิดหน่อยจากหนึ่งลูก, ฟันธงชนะแน่แต่ลุ้นเม็ดสองเหนื่อย ทีเด็ดอยู่ฝั่งรองดีกว่า สกอร์ที่คาด 2-1” ในนี้เราจะถอดคำออกมาได้คือ ต่อ 1.25, ลูกควบลูกครึ่ง, ราคาบอลไหลขึ้น, ทีเด็ดฝั่งรอง, สกอร์ 2-1
-
ขั้น Classify: แยกเป็นหมวด:
-
ราคาต่อรอง: 1.25 (ลูกควบลูกครึ่ง) – ทีมต่อยิง 1 ลูกไม่พอ (ได้/เสียครึ่ง)
-
ราคาบอลไหล: มีการไหลขึ้นจาก 1.0 → 1.25 – ทีมต่อได้รับความเชื่อมั่นเพิ่ม
-
คำแนะนำ: ให้รอง – เซียนสวนกระแสราคา เชื่อว่าทีมรองจะแพ้ไม่ขาด
-
สกอร์คาด: 2-1 – ถ้าจบตามนี้ทีมต่อชนะหนึ่งลูก = เสียครึ่งตามราคา แปลว่าอยู่รองได้เฮ
-
-
ขั้น Apply: จากข้อมูลข้างต้น เราจะตีความการฟันธงของเซียนได้ว่า “แม้ราคาต่อจะไหลให้บาร์ซ่าน่าจะชนะแรงขึ้น แต่เซียนมั่นใจว่าบาร์ซ่าคงชนะเบียด ๆ แค่ลูกเดียว ทีมรองกินแฮนดิแคป” ถ้าเราเชื่อในการวิเคราะห์นี้ เราอาจเลือกแทง ทีมรอง +1.25 หรือถ้าอยากลดความเสี่ยงอาจเลือก รอง +1.5 (ลูกครึ่ง) เผื่อไว้ก็ได้ (แต่ค่าน้ำจะต่ำกว่า) นอกจากนี้สกอร์ที่คาด 2-1 บ่งบอกแนวโน้ม สกอร์สูง (Over 2.5) เราอาจพิจารณาแทงสูงควบไปด้วยถ้ามั่นใจ เป็นต้น ปิดท้ายด้วยเช็กลิสต์กันพลาดก่อนลงเงินที่ พลาดบ่อยของมือใหม่
การทำแบบฝึกหัดเช่นนี้เป็นประจำกับคู่บอลหลากหลายลีก จะช่วยให้เราเชี่ยวชาญในการอ่านโพย วิเคราะห์บอลทุกลีก ไม่ว่าจะลีกใหญ่ลีกเล็กคำศัพท์ก็จะคล้าย ๆ กัน แตกต่างอาจจะเป็นชื่อทีมและชื่อรายการ การฝึกกับลีกย่อยยังช่วยเพิ่มคลังศัพท์ชื่อทีม แฟนบอลบางคนไม่คุ้นชื่อทีมเล็ก ๆ เช่นในลีกรอง ก็อาจงงตัวย่อชื่อทีม (เช่น MUN = แมนฯ ยูไนเต็ด, MCI = แมนฯ ซิตี้, BMG = มึนเช่นกลัดบัค ฯลฯ) ซึ่งก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราจะค่อย ๆ ซึมซับไปเองเมื่ออ่านบ่อย ๆ
ใช้ศัพท์ตีความราคาขยับ ราคาบอลวันนี้ ระหว่างวัน
ตลาดพนันบอลนั้นเคลื่อนไหวตลอดเวลา ในแต่ละวันราคาบอลอาจเปิดมาอย่างหนึ่งตอนเช้า แล้วก็ ขยับ (move) ไปอีกอย่างเมื่อใกล้เวลาแข่ง ตามข่าวสารหรือปริมาณเงินแทงของมวลชน นี่เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะฝึกใช้ศัพท์ที่เรียนรู้มาในการตีความการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
เทคนิคการฝึก: ตอนเช้าลองจดราคาเปิดและค่าน้ำคู่ที่สนใจไว้ จากนั้นติดตามข่าวคราวหรือความเคลื่อนไหว พอตกบ่ายหรือเย็นก่อนแข่งเช็คดูอีกครั้งว่าราคาเปลี่ยนไหม ยกตัวอย่างเช่น:
-
เช้าเปิดมา ลิเวอร์พูล ต่อ 0.5 (ครึ่งลูก) น้ำดำ 0.92 ทีมรองน้ำแดง -0.98
-
พอเย็นออกข่าวว่าตัวเก่งทีมตรงข้ามเจ็บ ราคาบอลไหลขึ้น -> กลายเป็น ลิเวอร์พูล ต่อ 0.75 (ครึ่งควบลูก) น้ำดำ 0.85 ทีมรองน้ำแดง -0.95
เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงว่า ลิเวอร์พูลต่อเยอะขึ้นจากครึ่งลูกเป็นครึ่งควบลูก ค่าน้ำก็ปรับโดยฝั่งลิเวอร์พูลน้ำลดลง (จ่ายน้อยลง) ฝั่งรองน้ำแดงจ่ายน้อยลง (จาก -0.98 เป็น -0.95 แปลว่าเสียมากขึ้นหน่อยถ้าแทงรองตอนเย็น) เราสามารถใช้ศัพท์ที่รู้มาตีความได้ว่า “กระแสราคามาทางหงส์ (ทีมต่อ) ชัดเจน โต๊ะปรับไหลต่อ” นั่นหมายถึงคนส่วนใหญ่เทใจแทงลิเวอร์พูล ความเชื่อมั่นเพิ่ม พอรู้แบบนี้ เราในฐานะนักเดิมพันก็ต้องตัดสินใจว่าจะตามกระแสหรือสวนกระแสดี ซึ่งก็กลับไปที่หลักวิเคราะห์บอลของเราเอง
อีกกรณี เช่น หากช่วงบ่าย ราคาบอลไหลลง ผิดปกติ เราก็ควรถามตัวเองว่ามีข่าวอะไรไหม เช่น ตัวจริงทีมต่อหลายคนไม่ลง? หรือฝนตกสนามเละสกอร์อาจน้อย? ข้อมูลเหล่านี้เราจะค่อย ๆ เชื่อมโยงกับการขยับของราคาจนชำนาญขึ้น สิ่งสำคัญคือการจดบันทึกและฝึกสังเกต เช่น “น้ำแดงไหลฝั่งไหน”, “แฮนดิแคปกระตุกขึ้นหรือลง” แล้วลองทำนายผลตามความเคลื่อนไหวดูว่าสอดคล้องกับผลแข่งจริงไหม
เมื่อฝึกบ่อย ๆ เราจะเริ่มจับจังหวะได้ว่า ราคาแบบไหนบอกอะไร เช่น “ก่อนแข่งต่อไหลขึ้น น้ำต่อดำล้น ๆ” มักจะยิงขาดตามคาด, หรือ “น้ำรองแดงไหลหนัก ราคาไม่ขยับ” บางทีทีมรองมีงานก็เป็นได้ 😅 – ทั้งหมดนี้คือการนำศัพท์ที่เรียนรู้มาประยุกต์ใช้วิเคราะห์สถานการณ์จริง ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์พอสมควร แต่การเริ่มฝึกเสียแต่วันนี้กับราคาบอลวันนี้ที่เราเห็นอยู่ จะช่วยสร้างความคุ้นเคยและกลายเป็นสัญชาตญาณติดตัวในที่สุด
สรุป: Glossary 100 คำ & วิธีอัปเดตศัพท์ใหม่
ตลอดบทความนี้เราครอบคลุมศัพท์แทงบอลพื้นฐานไปนับสิบ ๆ คำ ตั้งแต่ราคาต่อรองอย่างปป. ครึ่งลูก ลูกควบ ฯลฯ ค่าน้ำแบบต่าง ๆ ตลอดจนตัวย่อในเกมและตลาดเดิมพัน รวม ๆ แล้วไม่ต่ำกว่า 100 คำศัพท์ เลยทีเดียว หากผู้อ่านรู้สึกว่าข้อมูลเยอะมาก ไม่ต้องกังวล
คำเหล่านี้จะซึมซับเข้าไปเองเมื่อเราได้ใช้งานบ่อย ๆ แนะนำให้ทำสรุปเป็น Glossary ส่วนตัวไว้ทบทวน เช่น จดรายการคำย่อที่ยังไม่แม่นพร้อมความหมาย แล้วพกไว้ดูตอนอ่านบทวิเคราะห์หรือเช็คผลบอล เมื่อเจอคำก็เปิดดูเทียบ ความรู้จะค่อย ๆ ตรึงในความทรงจำของเรา
ที่สำคัญ วงการแทงบอลมีวิวัฒนาการของภาษาตลอดเวลา– ตลาดเปลี่ยนเร็ว ศัพท์ใหม่ ก็ผุดเร็วตามไปด้วย เช่น คำสแลงหรือชื่อเล่นของนักเตะ, แฮชแท็กกระแสในโซเชียล, หรือแม้แต่ศัพท์เทคนิคใหม่ ๆ จากต่างประเทศ ดังนั้นเราควรหมั่นอัปเดตศัพท์อยู่เสมอ วิธีง่ายที่สุดคือการติดตามอ่านบทวิเคราะห์สดใหม่ทุกวัน ทั้งบทความวันนี้ พรุ่งนี้
และการรวบรวมทรรศนะจากหลาย ๆ แหล่ง เช่นอ่านวิเคราะห์บอลพรุ่งนี้จากแหล่งหนึ่ง แล้วเทียบกับวิเคราะห์บอลล้มโต๊ะ (เว็บไซต์ Lomtoe.club ที่ขึ้นชื่อเรื่องข้อมูลเด็ด) ว่ามีคำไหนใช้ต่างกันไหม หรือกลุ่มทีเด็ดบน Facebook ที่บางครั้งมีมุกมี meme เฉพาะกลุ่ม เราก็จะได้เรียนรู้คำแปลก ๆ เพิ่มเติมเข้าไปอีก
ตัวอย่างการอัปเดตศัพท์: ช่วงก่อนมีโค้ชฟุตบอลชื่อดังให้สัมภาษณ์ว่า “แพ้คือแพ้” กลายเป็นวลีฮิตที่แฟนบอลเอามาล้อกัน คราวนี้ถ้าเราไปเจอเซียนคนไหนเขียนแซวลงทรรศนะว่า “ฟอร์มห่วยแบบนี้ก็คงแพ้คือแพ้” เราก็จะเก็ทมุกและเข้าใจโทนของบทวิเคราะห์มากขึ้น เป็นต้น แม้ไม่ใช่ศัพท์แทงบอลตรง ๆ แต่ก็เป็นสีสันที่ช่วยให้การอ่านสนุก
สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าจุดประสงค์ของการเรียนรู้ศัพท์พนันบอลก็เพื่อให้เรา อ่านเกมขาดขึ้นและตัดสินใจได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเลือกแทงบอลเต็ง บอลชุด เล่นสูงต่ำ หรือจะถือหางทีมต่อทีมรอง การเข้าใจภาษาของวงการจะทำให้เราสื่อสารกับคนอื่นรู้เรื่องและเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ครบถ้วน ลองนำความรู้จากบทความนี้ไปใช้ดู ไม่แน่ว่านัดต่อไปที่คุณเปิดดูราคา คุณอาจจะยิ้มออกเพราะ “มองเห็น” สิ่งที่โพยบอกใบ้มากกว่าที่เคยก็ได้ สุดท้ายขอให้ทุกท่านโชคดีในการเดิมพัน และสนุกกับฟุตบอลในทุก ๆ แมตช์ครับ!