มวยONE

พรีวิวเกมเดเอฟเบ โพคาล: ซอนเน็นฮอฟ กรอสซ์อาสปาค พบ เลเวอร์คูเซ่น

ศึกเดเอฟเบ โพคาล เยอรมนี รอบแรก จะมีการเผชิญหน้าสุดน่าสนใจระหว่างเจ้าบ้าน ซอนเน็นฮอฟ กรอสซ์อาสปาค ทีมชั้น 4 ของเยอรมันลีก กับ เลเวอร์คูเซ่น แชมเปี้ยนส์เก่าของบุนเดสลีกา ในวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 23:00 น. ณ สนามเวียร์มาเคินดรุค อารีนา การแข่งขันนี้ถือเป็นศึกเดวิด ปะทะ โกไลอาธ ที่แท้จริง โดยซอนเน็นฮอฟเป็นทีมชั้น 4 จากรีกิโอนัลลีกา เซาท์เวสต์ ที่กลับมาแข่งในระดับนี้หลังตกชั้นไปในฤดูกาล 2021-22 ขณะที่เลเวอร์คูเซ่นเป็นอดีตแชมป์บุนเดสลีกาที่จบอันดับ 2 ในฤดูกาลที่ผ่านมา และกำลังปรับตัวภายใต้การคุมทีมใหม่ของเอริค เทน ฮาค

สำหรับเดเอฟเบ โพคาล การแข่งขันถ้วยแชมป์เก่าแก่ของเยอรมนี เป็นโอกาสทองของทีมเล็กในการเผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่ และเป็นเวทีที่ความฝันอาจกลายเป็นจริงได้ ซอนเน็นฮอฟมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ใหม่หากสามารถเอาชนะทีมระดับบุนเดสลีกาได้ ซึ่งจะเป็นขุมทรัพย์ทางการเงินและชื่อเสียงที่มีค่ายิ่งสำหรับสโมสรเล็ก ในขณะที่เลเวอร์คูเซ่นต้องการใช้เกมนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีภายใต้การนำทีมของเทน ฮาค และเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง

ฟอร์มและผลงานล่าสุด

ซอนเน็นฮอฟ กรอสซ์อาสปาค

ทีมเจ้าบ้านเข้าสู่เกมนี้ด้วยฟอร์มที่สุดจะยอดเยี่ยม โดยมีสถิติชนะทั้ง 5 นัดล่าสุดในฤดูกาลนี้ การชนะขาดลอย 6-1 เหนือ TSG บาลินเก้น และการไปชนะ 4-1 บนสนาม อัสโทเรีย วอลล์ดอร์ฟ เป็นข้อพิสูจน์ว่าทีมมีความมั่นใจและเกมรุกที่น่าเกรงขาม ในรีกิโอนัลลีกา เซาท์เวสต์ พวกเขานำตารางด้วยคะแนนเต็ม 6 แต้มจาก 2 นัด โดยยิงได้ถึง 10 ประตูและเสียเพียง 2 ประตู ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสมดุลที่ดีทั้งการรุกและการรับ

นอกจากผลงานที่โดดเด่นแล้ว การเล่นของซอนเน็นฮอฟยังแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและการทำงานเป็นทีม นักเตะทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างประตู และการป้องกันที่มีวินัย ภายใต้การคุมทีมของปาสคาล ไรน์ฮาร์ดท์ ทีมได้แสดงเกมรุกที่น่าประทับใจ โดยเฉลี่ยยิงได้ 5.0 ประตูต่อเกมในฤดูกาลนี้ และมีชุดนักเตะที่มีความมั่นใจสูงหลังจากผลงานดีอย่างต่อเนื่อง แฟนบอลในท้องถิ่นก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นพลังใจสำคัญในการเล่นบนสนามเหย้า

เลเวอร์คูเซ่น

ส่วนเลเวอร์คูเซ่นมีฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอในช่วงฟรีซีซัน โดยชนะ 3 แพ้ 2 จาก 5 เกมล่าสุด การแพ้ 2-0 ต่อเชลซีและการพ่าย 5-1 ต่อฟลาเมงโก U20 ในบราซิลเป็นสัญญาณเตือนสำหรับเอริค เทน ฮาค อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีชัยชนะที่น่าประทับใจ 3-0 เหนือปิซ่าและ 2-0 เหนือโบคุ่ม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทีมยังคงมีศักยภาพในการทำประตูและป้องกันเมื่อเล่นได้ตามแผน

การจากไปของซาบี อลอนโซ และนักเตะคีย์หลายคน ทำให้ทีมต้องปรับตัวภายใต้ระบบใหม่ของเทน ฮาค ซึ่งได้ตัดสินใจคงระบบ 3-4-2-1 ที่อลอนโซใช้แทนการกลับไปใช้ 4-2-3-1 ตามสไตล์ของตน ช่วงฟรีซีซันเป็นเวลาสำคัญในการทดลองชุดนักเตะและการปรับแต่งยุทธวิธี แต่ผลงานที่ไม่สม่ำเสมอทำให้เห็นได้ว่าทีมยังต้องการเวลาในการหาจุดสมดุลใหม่ การทัวร์ฟรีซีซันในบราซิลแม้จะมีการแพ้บ้าง แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่มีค่าในการสร้างความสามัคคีของทีม และเป็นโอกาสให้นักเตะใหม่ได้ปรับตัวเข้ากับระบบการเล่น

ข้อมูลเชิงยุทธวิธี

แผนการเล่นของซอนเน็นฮอฟ

ซอนเน็นฮอฟมักใช้การเล่นแบบรุกจัดจ้านในบ้าน โดยอาศัยความเร็วในการขยับบอลและการใช้ประโยชน์จากเหย้าเป็นอาวุธหลัก ทีมมีเสียงเชียร์ที่ดีจากแฟนบอลในท้องถิ่น และมีสถิติชนะ 5 เกมติดต่อกันบนสนามเหย้า การเล่นแบบกดดันสูงและการสร้างโอกาสทางปีกเป็นจุดแข็งสำคัญ นักเตะปีกของพวกเขามีความเร็วและเทคนิคในการเซาะร่วงที่ดี ขณะที่กองกลางมีความแข็งแกร่งในการดวลลูกบอลและการกระจายบอล

การเตรียมทีมของปาสคาล ไรน์ฮาร์ดท์เน้นไปที่การใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะการเล่นแบบสวนกลับอย่างรวดเร็วเมื่อได้บอลมา พวกเขามีนักเตะที่มีความเร็วและความแม่นยำในการส่งบอลไกล ซึ่งเป็นอาวุธสำคัญในการโจมตี การตั้งรับแบบกะทัดรัดและรอโอกาสสวนกลับอาจเป็นกลยุทธ์หลักในเกมนี้ โดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับทีมที่มีคุณภาพเหนือกว่าอย่างเลเวอร์คูเซ่น การใช้ประโยชน์จากลูกตายและการโจมตีจากมุมเตะมุมก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทีมมีความชำนาญ

ยุทธวิธีของเลเวอร์คูเซ่น

เทน ฮาคได้เลือกที่จะคงระบบ 3-4-2-1 ที่อลอนโซวางรากฐานไว้ แทนการเปลี่ยนเป็น 4-2-3-1 ตามที่เขาถนัด การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังการหารือกับผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา ซิมอน โรลเฟส ซึ่งเชื่อว่าระบบนี้เหมาะสมกับนักเตะปัจจุบัน ทีมจะเน้นการครอบครองบอลและการสร้างเกมจากแนวหลัง โดยใช้แบ็กซ้าย-ขวาในการสนับสนุนการเล่นรุก อเล็กซ์ การ์เซีย จะทำหน้าที่เป็นผู้สร้างเกมหลักในตำแหน่งนัมเบอร์ 10

ความท้าทายสำคัญของเทน ฮาคคือการปรับแต่งระบบที่มีอยู่ให้เข้ากับปรัชญาการเล่นของตนเอง ซึ่งเน้นการกดดันสูงและการเล่นแบบเร็ว การใช้นักเตะปีกในการสร้างความกว้างและการหมุนเวียนตำแหน่งของนักเตะในแถวหน้าเป็นจุดเด่นของระบบใหม่ การป้องกันแบบโซนและการใช้กับดักแนวสูงเป็นกลยุทธ์ที่ทีมฝึกซ้อมมาตลอดช่วงฟรีซีซัน อย่างไรก็ตาม การขาดความเข้าใจกันในบางช่วงเวลาของเกมยังคงเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะในการรักษาสมดุลระหว่างการรุกและการรับ

การคาดการณ์ผลการแข่งขัน

แม้ซอนเน็นฮอฟจะมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและได้เปรียบเหย้า แต่ความแตกต่างด้านคุณภาพระหว่างทีมชั้น 4 กับทีมบุนเดสลีกายังคงมีมากพอสมควร เลเวอร์คูเซ่นมีประสบการณ์และความลึกของทีมที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ทั้งในด้านเทคนิคส่วนบุคคล การอ่านเกม และความสามารถในการปรับเกมระหว่างแข่ง นักเตะของเลเวอร์คูเซ่นได้ผ่านการเล่นในระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง และมีประสบการณ์ในการเผชิญหน้ากับทีมใหญ่ๆ ทั่วยุโรป

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวของเทน ฮาคและปัญหาฟอร์มในฟรีซีซันอาจเป็นช่องทางให้ซอนเน็นฮอฟสร้างความประหลาดใจได้ เกมถ้วยมักมีอัตราการเกิดความประหลาดใจสูง โดยเฉพาะเมื่อทีมเล็กได้เล่นในบ้าน บรรยากาศของแฟนบอลท้องถิ่นที่คาดว่าจะแน่นขนัด และความมั่นใจจากผลงานล่าสุดอาจเป็นแรงผลักดันสำคัญ ประวัติศาสตร์ของเดเอฟเบ โพคาลเต็มไปด้วยเรื่องราวของทีมเล็กที่สามารถเอาชนะยักษ์ใหญ่ได้ ซึ่งทำให้เกมนี้น่าติดตามเป็นพิเศษ การที่เลเวอร์คูเซ่นอาจจะหมุนเวียนนักเตะหรือให้โอกาสนักเตะรุ่นเยาว์ก็อาจเป็นโอกาสของซอนเน็นฮอฟในการสร้างผลงานที่น่าประหลาดใจ

ผลทำนาย: เลเวอร์คูเซ่น น่าจะชนะ 3-1

Q&A Section

คำถามที่ 1: ความประหลาดใจทางยุทธวิธีแบบไหนที่เราอาจได้เห็นในเกมนี้?

ซอนเน็นฮอฟอาจใช้การเล่นแบบ “จูงเหยื่อ” โดยปล่อยให้เลเวอร์คูเซ่นครอบครองบอลแล้วใช้การสวนกลับอย่างรวดเร็ว การตั้งรับแบบกะทัดรัดด้วยการจัดแถว 5-4-1 หรือ 4-5-1 อาจเป็นกลยุทธ์หลัก พร้อมกับการใช้นักเตะที่มีความเร็วในการโจมตีแบบสวนกลับ การเตรียมลูกตายและการโจมตีจากมุมเตะมุมก็น่าจะเป็นอาวุธสำคัญที่พวกเขาจะใช้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองทีมมีโอกาสเท่าเทียมกัน

ส่วนเลเวอร์คูเซ่นอาจมีการโรเตชั่นนักเตะเพื่อให้ตัวหลักได้พักผ่อนก่อนฤดูกาลใหม่ของบุนเดสลีกา การใช้นักเตะรุ่นเยาว์จากสโมสรอาจเป็นไพ่ที่เทน ฮาคหยิบมาใช้ เพื่อทั้งให้ประสบการณ์แก่เยาวชนและรักษาแรงของนักเตะตัวจริง อาจมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นเป็น 4-3-3 หรือ 3-5-2 ในช่วงต่างๆ ของเกม เพื่อสร้างความหลากหลายและทดสอบความยืดหยุ่นของระบบ การใช้แทคติกแบบ “false 9” หรือการให้นักเตะปีกลื่นเข้ามาในกรอบเขตโทษอาจเป็นอีกหนึ่งความประหลาดใจ

คำถามที่ 2: สภาพอากาศและสนามจะส่งผลต่อการแข่งขันอย่างไร?

เดือนสิงหาคมในเยอรมนีมักมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสภาพที่เหมาะกับการเล่นฟุตบอล แต่หากมีฝนอาจทำให้สนามลื่น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อซอนเน็นฮอฟที่คุ้นเคยกับสนามและสภาพแวดล้อม การเล่นบนสนามที่ชื้นอาจทำให้การครอบครองบอลและการส่งบอลแม่นยำของเลเวอร์คูเซ่นลดลง ขณะที่การเล่นแบบโดยตรงและรวดเร็วของซอนเน็นฮอฟกลับอาจได้เปรียบ

สนามเวียร์มาเคินดรุค อารีนาที่จุผู้ชม 10,001 คน จะเต็มไปด้วยแฟนบอลท้องถิ่นที่จะสร้างบรรยากาศกดดัน ซึ่งอาจส่งผลต่อการแสดงของนักเตะเลเวอร์คูเซ่นที่ยังปรับตัวกับโค้ชใหม่ เสียงเชียร์ที่ต่อเนื่องและการสนับสนุนแบบไม่มีเงื่อนไขจากแฟนบอลซอนเน็นฮอฟจะเป็นผู้เล่นคนที่ 12 ที่สำคัญ ขนาดของสนามที่อาจเล็กกว่าสนามมาตรฐานของบุนเดสลีกาก็อาจทำให้เกมดูแน่นและเร็วกว่าปกติ ซึ่งเข้ากับสไตล์การเล่นของทีมเจ้าบ้าน การเตรียมสนามและการดูแลพื้นผิวหญ้าก็เป็นปัจจัยที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของเกมโดยรวม

ตารางข้อมูล

ตารางที่ 1: สถิติฟอร์มล่าสุด 5 นัด

ทีม ชนะ เสมอ แพ้ ประตูยิงได้ ประตูเสีย
ซอนเน็นฮอฟ กรอสซ์อาสปาค 5 0 0 11 7
เลเวอร์คูเซ่น 3 0 2 11 8

ตารางที่ 2: สถิติการพบกัน Head-to-Head

ทีม ชนะ เสมอ แพ้ ประตูยิงได้ ประตูเสีย หมายเหตุ
ซอนเน็นฮอฟ กรอสซ์อาสปาค 1 0 0 1 0 ชนะในการพบกันครั้งเดียว (กระชับมิตร 2015)
เลเวอร์คูเซ่น 0 0 1 0 1 แพ้ในการพบกันครั้งเดียว (กระชับมิตร 2015)

การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการพบกันครั้งแรกในรายการทางการ โดยทั้งสองทีมเคยพบกันเพียงครั้งเดียวในกระชับมิตรเมื่อปี 2015 ซึ่งซอนเน็นฮอฟชนะ 1-0 ทำให้เกมนี้น่าติดตามเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นโอกาสของทีมเล็กที่จะสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในสนามใหญ่ของฟุตบอลเยอรมัน ความมหัศจรรย์ของเดเอฟเบ โพคาลก็คือการที่ทุกทีมมีโอกาสเท่าเทียมกันในเกมเดียว ไม่ว่าจะมาจากลีกไหน และนี่คือเสน่ห์ที่ทำให้การแข่งขันถ้วยนี้เป็นที่รักของแฟนบอลทั่วโลก