การแข่งขันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน vs แมนส์ฟิลด์ ทาวน์: พรีวิวและการวิเคราะห์
เอาล่ะพี่น้อง! วันนี้เรามาพูดถึงเกมที่ทุกคนรอคอยกัน การเผชิหน้ากันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ ในรอบที่ 2 ของ EFL Cup คืนวันพุธที่ 27 สิงหาคม 2025 นี่แหละคือการเจอกันที่โคตรน่าสนใจระหว่างทีมพรีเมียร์ลีกกับทีมลีกวัน ที่หลายคนอาจจะคิดว่าผลลัพธ์มันชัดเจนแล้ว แต่ในฟุตบอลมันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกนะ
การแข่งขันนี้จะจัดขึ้นที่ Hill Dickinson Stadium ใหม่ล่าสุดของเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นสนามที่พวกเขาเพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน โดยเริ่มเตะเวลา 19:45 BST หรือก็คือ 01:45 น. วันพฤหัสบดีตามเวลาไทยเรา ใครจะดูต้องตื่นเช้าหน่อยแล้ว สำหรับเอฟเวอร์ตันแล้ว การแข่งขันนี้เป็นโอกาสทองในการสร้างความมั่นใจหลังจากการเริ่มต้นฤดูกาลที่ขึ้นๆ ลงๆ ส่วนแมนส์ฟิลด์ ทาวน์ก็กำลังมองหาการสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการไปชนะทีมพรีเมียร์ลีกในถิ่นของพวกเขาเอง ซึ่งถ้าทำได้จริงๆ แล้วมันจะเป็นเรื่องที่พูดถึงกันอีกนานแน่นอน
ฟอร์มล่าสุดและผลงาน
มาดูกันว่า เอฟเวอร์ตัน เป็นอย่างไรบ้างก่อนเข้าสู่เกมนี้ ล่าสุดพวกเขาเพิ่งมาจากชัยชนะที่สวยงามมาก 2-0 เหนือ Brighton ที่บ้านเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม โดยมี อิลิมาน เอ็นดิอาเย และ เจมส์ การ์เนอร์ เป็นคนทำประตู เกมนั้นถือว่าเป็นการแสดงที่น่าประทับใจมากทีเดียว เพราะพวกเขาควบคุมเกมได้ดี มีจังหวะทำประตูเยอะ และที่สำคัญคือรักษาคลีนชีทได้อีกด้วย แต่ถ้าย้อนไปดูเกมก่อนหน้านั้น พวกเขาก็เริ่มต้นฤดูกาลด้วยความผิดหวังจากการแพ้ Leeds United 0-1 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ซึ่งเกมนั้นพวกเขาเล่นได้ไม่เลว แต่ก็จบประตูไม่ได้และโดนเซาะ 1 ลูกไป
ถ้ามาดูผลงาน 5 นัดล่าสุดของเอฟเวอร์ตันในพรีเมียร์ลีกแล้ว พวกเขามี 2 ชนะ, 0 เสมอ, 3 แพ้ พร้อมกับสถิติทำประตู 7 ลูก รับ 8 ลูก ซึ่งจะเห็นได้ว่าฟอร์มยังไม่ค่อยสเตเบิ้ลเท่าไหร่ ทีมของ เดวิด มอยส์ แสดงให้เห็นถึงความเสถียรในการป้องกันในบางเกม แต่ยังมีปัญหาเรื่องการปิดเกมและการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอ บางทีก็ดูดีมาก บางทีก็ดูงงงวยไปหน่อย แต่นี่แหละคือเสน่ห์ของฟุตบอล ไม่มีอะไรที่แน่นอน 100%
ส่วน แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ ภายใต้การนำของ ไนเจล คลัฟ ก็มีฟอร์มที่ค่อนข้างดีในลีกวัน แม้จะยังขึ้นๆ ลงๆ อยู่บ้าง โดยล่าสุดพวกเขาชนะ 3 นัด แพ้ 2 นัด จาก 5 เกมล่าสุด ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ไม่เลวเลยสำหรับทีมลีกวัน เกมล่าสุดพวกเขาเพิ่งไปชนะ Leyton Orient 4-1 ที่บ้านอย่างสวยงาม และที่สำคัญคือพวกเขาผ่านเข้ารอบสองของ EFL Cup มาได้ด้วยการชนะ Chesterfield 2-0 เมื่อรอบแรก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมสำหรับการแข่งขันถ้วยแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจมากคือสถิติการทำประตูของแมนส์ฟิลด์ในลีกวันที่ดูยอดเยี่ยมมาก โดยทำไปแล้ว 10 ประตูใน 5 เกม ซึ่งเฉลี่ยแล้วได้ 2.0 ประตูต่อเกม ขณะที่รับเพียงแค่ 6 ประตูเท่านั้น นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเล่นได้ดีทั้งในแนวรุกและแนวรับ ปัจจุบันพวกเขาอยู่อันดับ 9 จาก 24 ทีมในลีกวัน ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีมาก และถ้ายังเล่นแบบนี้ต่อไป พวกเขาอาจจะมีโอกาสเล่นเพลย์ออฟได้เลยทีเดียว
การวิเคราะห์ยุทธวิธี
มาดูกันว่า เอฟเวอร์ตันภายใต้ เดวิด มอยส์ เล่นกันอย่างไร พวกเขาใช้ระบบ 4-2-3-1 เป็นหลัก ซึ่งเป็นระบบที่ มอยส์ ชอบใช้มาตลอด เพราะมันให้ความสมดุลทั้งในการรุกและการรับ โดยจะเน้นการเล่นที่มีระเบียบ มีแผน และมีประสิทธิภาพสูง ไม่ใช่แบบเล่นไปเรื่อยๆ แต่ทุกอย่างจะมีจุดประสงค์ชัดเจน ในการสร้างจังหวะโจมตี พวกเขามักจะขยายตัวเป็น 4-3-3 เพื่อให้มีคนขึ้นไปช่วยในการสร้างเกม และเพิ่มทางเลือกในการส่งบอลให้หลากหลายขึ้น ส่วนตอนป้องกันจะหดตัวเป็น 5-2-3 เพื่อให้มีคนอยู่หลังเยอะขึ้น ป้องกันการเคาน์เตอร์ของคู่แข่ง
จุดเด่นที่เด่นชัดของ มอยส์ คือการใช้นักเตะปีกที่เข้ามาเล่นในแนวกลางเพื่อสร้างการครอบครองบอลในพื้นที่แคบๆ ตรงกลางสนาม ทำให้เกิดการแออัดและสร้างโอกาสทำประตู แจ็ค กรีลิช เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในเกมกับ Brighton ที่เขาทำแอสซิสต์ไป 2 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงคุณภาพในการสร้างจังหวะและการมองเห็นเกม ซึ่งนี่คือสิ่งที่ทำให้เอฟเวอร์ตันอันตรายมากในการโจมตี เพราะมี กรีลิช เป็นคนสร้างจังหวะให้กับเพื่อนร่วมทีม
แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ภายใต้ ไนเจล คลัฟ มีลีลาการเล่นที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาใช้ระบบ 3-5-2 หรือ 4-3-1-2 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของเกมและคู่แข่งที่เจอ ซึ่งเป็นระบบที่ให้ความยืดหยุ่นสูงมาก ลีลาการเล่นของพวกเขาจะเน้นการส่งบอลยาวและการครอสซิ่งจากปีกเป็นหลัก ซึ่งเป็นสไตล์การเล่นแบบอังกฤษดั้งเดิมที่ใช้จุดแข็งทางร่างกายและความสูงของนักเตะ สถิติแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีอัตราการครอสซิ่ง 19.64 ครั้งต่อเกม ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ ในลีกของพวกเขา
กุญแจสำคัญของกลยุทธ์แมนส์ฟิลด์คือการใช้แบ็คปีกโจมตีขึ้นไปให้ความกว้างในการเล่น ทำให้สามารถครอสบอลเข้ามาในกรอบเป้าได้มากขึ้น ขณะที่ตัวเกมกลางจะรวมตัวกันแน่นเพื่อครอบครองพื้นที่ตรงกลางสนาม และเป็นจุดรองรับเมื่อบอลเด้งออกมาจากกรอบเป้า สตีเฟน แม็คลาฟลิน และนักเตะปีกคนอื่นๆ จะมีบทบาทสำคัญมากในการสร้างโอกาสทำประตูให้กับทีม ซึ่งถ้าพวกเขาทำหน้าที่ได้ดี ก็อาจจะสร้างปัญหาให้กับการป้องกันของเอฟเวอร์ตันได้
การคาดการณ์โดยรวม
ถ้าดูจากกระดาษแล้ว เอฟเวอร์ตันน่าจะได้เปรียบอย่างชัดเจน ในเกมนี้จากหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างของระดับลีก ประสบการณ์ในการแข่งขันระดับสูงของนักเตะ และการได้เล่นในถิ่นของตนเอง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญมาก ทีมของ มอยส์ มีคุณภาพนักเตะที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะตัวเก่งๆ อย่าง กรีลิช, เอ็นดิอาเย, และ การ์เนอร์ ที่เพิ่งแสดงฟอร์มดีในเกมล่าสุด การมีนักเตะคุณภาพแบบนี้ย่อมทำให้การเล่นดูลื่นไหลและมีโอกาสทำประตูมากขึ้น
แต่ในฟุตบอลมันไม่มีอะไรง่ายๆ หรอก แมนส์ฟิลด์ก็ไม่ควรถูกมองข้าม เพราะพวกเขามีฟอร์มการทำประตูที่ดีเยี่ยมในลีกวัน และมีประสบการณ์ในการสร้างเซอร์ไพรส์ในการแข่งขันถ้วยมาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอใน EFL Cup ที่ทีมเล็กไปชนะทีมใหญ่ได้ นอกจากนี้ การที่เอฟเวอร์ตันอาจจะหมุนเวียนนักเตะหลักเพื่อรักษาแรงสำหรับการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมเยือนได้เล่นอย่างเต็มที่โดยไม่มีแรงกดดัน
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ แมนส์ฟิลด์จะได้เล่นโดยไม่มีอะไรต้องเสีย เพราะทุกคนคาดหวังให้เอฟเวอร์ตันชนะอยู่แล้ว ซึ่งบางครั้งการไม่มีแรงกดดันแบบนี้กลับทำให้เล่นได้ดีขึ้น และสามารถแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ ส่วนเอฟเวอร์ตันกลับต้องรับแรงกดดันที่จะต้องชนะให้ได้ ซึ่งบางครั้งแรงกดดันแบบนี้อาจจะทำให้เล่นได้ไม่ดีเท่าที่ควร
คาดการณ์ผลลัพธ์: เอฟเวอร์ตันน่าจะชนะด้วยสกอร์ 2-1 หรือ 3-1 โดยเกมนี้น่าจะมีประตูจากทั้งสองฝ่าย เพราะทั้งคู่ต่างก็มีจุดแข็งในการโจมตีที่ชัดเจน และมีแนวโน้มที่จะเป็นเกมที่สนุกสนานได้
คำถามและคำตอบสำหรับแฟนบอล
Q: เอฟเวอร์ตันอาจใช้ยุทธวิธีแปลกใหม่อะไรในเกมนี้บ้าง?
A: น่าจะมีหลายอย่างที่น่าสนใจเลยนะ เดวิด มอยส์ อาจจะลองปรับใช้ระบบ 3-4-3 เพื่อเพิ่มแรงโจมตีจากปีกให้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้การเล่นดูรุกรานมากขึ้น นอกจากนี้เขาอาจจะให้โอกาสนักเตะหนุ่มๆ อย่าง Tim Iroegbunam และ Harrison Armstrong ได้ลงไปเล่นและสร้างประสบการณ์ เพราะเกมแบบนี้เป็นโอกาสดีในการทดลองนักเตะใหม่ๆ และดูว่าพวกเขาพร้อมสำหรับระดับที่สูงขึ้นหรือยัง การหมุนเวียนนักเตะเพื่อรักษาแรงสำหรับลีกก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้สูงมาก เพราะฤดูกาลยังยาวอีก และต้องดูแลสุขภาพของนักเตะให้ดี
Q: สภาพอากาศและสภาพสนามจะส่งผลต่อเกมอย่างไรบ้าง?
A: นี่เป็นคำถามที่ดีมาก เพราะปัจจัยเหล่านี้สามารถเปลี่ยนทิศทางของเกมได้เลย สนาม Hill Dickinson Stadium ใหม่ของเอฟเวอร์ตันมีสนามหญ้าคุณภาพสูงมากและมีระบบระบายน้ำที่ทันสมัย ถ้าเกิดฝนตกขึ้นมา มันอาจจะช่วยลดจังหวะเกมเร็วของเอฟเวอร์ตันลง ทำให้เกมช้าลงและเปิดโอกาสให้แมนส์ฟิลด์สามารถใช้เกมยาวและการครอสซิ่งได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะบอลจะลื่นและยากต่อการควบคุม ในทางกลับกัน ถ้าอากาศดีและสนามแห้ง มันจะเป็นผลดีต่อเกมเทคนิคและการส่งบอลสั้นของเอฟเวอร์ตัน ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถเล่นตามสไตล์ที่ถนัดได้เต็มที่ และใช้ประโยชน์จากความเร็วของนักเตะอย่าง กรีลิช ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ตารางสถิติการแข่งขัน
ตารางที่ 1: สถิติการแข่งขันล่าสุดของทั้งสองทีม
ทีม | แมตช์ล่าสุด 5 นัด | ประตูทำ/รับ | ความได้เปรียบ | ฟอร์มปัจจุบัน | จุดเด่น |
---|---|---|---|---|---|
เอฟเวอร์ตัน (Everton) | 2W-0D-3L | 7/8 | +1 | W-L (พรีเมียร์ลีก) | เสถียรในการป้องกัน |
แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ (Mansfield Town) | 3W-0D-2L | 10/6 | +4 | W-L-W-L-W (ลีกวัน) | การโจมตีที่มีประสิทธิภาพ |
ตารางที่ 2: ประวัติการเจอกันระหว่างทั้งสองทีม
การเจอกัน | รายละเอียด | ความน่าสนใจ |
---|---|---|
การเจอกันครั้งล่าสุด | ไม่มีการเจอกันเมื่อเร็วๆ นี้ | เกมแรกระหว่างทั้งสองทีม |
สถิติโดยรวม | เอฟเวอร์ตัน (พรีเมียร์ลีก) vs แมนส์ฟิลด์ (ลีกวัน) | ความแตกต่างของระดับลีก |
ใน EFL Cup | รอบที่ 2 – เกมนอกครั้งแรก | โอกาสของ แมนส์ฟิลด์ ในการสร้างเซอร์ไพรส์ |
ความได้เปรียบ | เอฟเวอร์ตันได้เปรียบในด้านประสบการณ์และคุณภาพนักเตะ | การทดสอบความแข็งแกร่งของ เอฟเวอร์ตัน |
การแข่งขันครั้งนี้จึงเป็นโอกาสทองสำหรับทั้งสองทีม เอฟเวอร์ตันต้องการสร้างความมั่นใจและความต่อเนื่องในการเล่นที่ Hill Dickinson Stadium ใหม่ เพื่อให้แฟนบอลได้เห็นว่าทีมพร้อมสำหรับฤดูกาลนี้ ขณะที่แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ก็มีโอกาสดีในการสร้างความประหลาดใจและเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยการเอาชนะทีมพรีเมียร์ลีกและก้าวต่อไปในถ้วย EFL Cup อันทรงเกียรติ นี่คือเสน่ห์ของฟุตบอลที่ทำให้เราหลงใหล เพราะในสนาม 90 นาที อะไรก็เป็นไปได้