มวยONE

วิเคราะห์ดุเดือด! ศึกแดงเดือด ลิเวอร์พูล vs คริสตัล พาเลซ เกมสุดมันแห่งฤดูกาล

วิเคราะห์แดงเดือด ลิเวอร์พูล พบ คริสตัล พาเลซ เกมปิดฤดูกาลสุดมัน

ปิดฉากพรีเมียร์ลีก 2024-25 อย่างเอ็กซ์ตรีมกับเกมที่แฟนบอลรอคอย! วันที่ 23 พฤษภาคม 2025 เวลา 22.00 น. ตามเวลาไทย ที่สนามแอนฟิลด์ บรรยากาศจะร้อนระอุด้วยการฉลองแชมป์ของลิเวอร์พูล พร้อมกับเกมรับรองแชมป์ที่ทั้งสองทีมไม่มีอะไรจะเสียแล้วจริงๆ มาเจาะลึกทุกมุมมองของเกมนี้แบบละเอียดยิบ ตั้งแต่ฟอร์มสดๆ จุดแข็ง-จุดอ่อน จนถึงเรื่องลับๆ ที่อาจพลิกเกมได้!

1. ฟอร์มล่าสุดแบบละเอียดยิบ

ลิเวอร์พูล: สุดยอดกองทัพไร้จุดอ่อน

ทีมเหย้าอย่างลิเวอร์พูลกำลังฟอร์มพุ่งปรี๊ดแบบว่าใครมาเจอก็เจ็บ! นับตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา พวกเขาทำได้แค่แพ้แค่ 2 เกมจาก 18 เกมเท่านั้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นี่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ประตูเดินได้ ทำไปแล้ว 22 ประตูในลีก ตัวเลขนี้ทำให้เขาอยู่อันดับ 2 ของตารางดาวซัลโว ส่วนแนวรับก็โหดไม่แพ้กัน เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ อลิสซง เบ็คเกอร์ ช่วยกันปิดตายคู่แข่งมาแล้ว 14 เกมที่ไร้ประตูเสีย

ล่าสุดพวกเขาพึ่งถล่มแมนยู 4-0 ในเกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ด แถมยังเก็บ 3 คะแนนในดาร์บี้เมอร์ซีย์ไซด์ด้วยสกอร์ 2-1 เหนือเอฟเวอร์ตัน สถิติในบ้านน่าทึ่งมากๆ ชนะ 15 เกม เสมอ 2 แพ้ 1 จาก 18 เกมที่เล่นในสนามแอนฟิลด์

คริสตัล พาเลซ: มังกรไฟผู้พลิกผัน

ถึงจะอยู่ในอันดับ 12 แต่คริสตัล พาเลซกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีที่สุดในรอบปี! พวกเขาพึ่งสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยถล่มแมนซิตี้ 3-2 ในนัดชิง ทำให้ขวัญกำลังใจพุ่งปรี๊ด

ช่วง 5 เกมหลังสุดพวกเขาไม่เคยแพ้ แถมยังชนะ 2 เกมติดต่อกันแบบขาดลอย อย่างเกมล่าสุดที่เอาชนะเวสต์แฮม 3-0 ได้แบบสวยๆ เอเบเรชี อีเซ่ กองหน้าดาวรุ่งทำประตูไป 3 ลูกใน 5 เกมหลังสุด แถมยังมี วิลฟรีด ซาฮา ที่พึ่งกลับมาจากอาการบาดเจ็บพร้อมโชว์ฟอร์มสุดเจ๋ง

2. เจาะลึกจุดเด่น-จุดตายแบบจัดเต็ม

ลิเวอร์พูล: เกมรุกสวยประตูเพียบ

คริสตัล พาเลซ: เกมรับสตรองแต่ขาดความคงเส้นคงวา

3. 3 ปัจจัยเด็ดที่อาจพลิกเกม!

3.1 บรรยากาศงานเลี้ยง vs ความไร้กังวล

ลิเวอร์พูลต้องแบกรับความคาดหวังในการแสดงโชว์เกมสวยให้แฟนบอลในวันรับถ้วย แฟนๆ 5 หมื่นคนจะส่งเสียงเชียร์สุดกำลัง ซึ่งอาจเป็นดาบสองคม ถ้าเล่นได้ไม่ดีตามคาดอาจเกิดแรงกดดันได้ ในทางกลับกัน คริสตัล พาเลซที่มาพร้อมกับความรู้สึกไร้กังวลหลังคว้าแชมป์เอฟเอ คัพแล้ว อาจเล่นได้อิสระและสร้างเซอร์ไพรส์ได้ทุกเมื่อ

3.2 สงครามปีกสองฝั่ง

เกมนี้จะเป็นการประลองยุทธ์ระหว่างปีกขวาอันตรายของลิเวอร์พูลอย่างซาลาห์ กับกองหลังซ้ายของคริสตัล พาเลซอย่างไทริก มิตเชลล์ ที่พึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงหลังหายบาดเจ็บ ถ้าซาลาห์สามารถล็อกดาวน์มิตเชลล์ได้ early game ลิเวอร์พูลอาจควบคุมเกมได้ตั้งแต่ต้น

3.3 บททดสอบความลึกของทีม

ลิเวอร์พูลอาจให้โอกาสนักเตะสำรองอย่างฮาร์วีย์ เอลเลียต หรือ เควิน เคลเลเฮอร์ ได้ลงสนาม ในขณะที่คริสตัล พาเลซก็มีดาวรุ่งอย่างไมเคิล โอลิเซ่ ที่พึ่งถูกเรียกตัวจากทีมเยาวชนมาเสริมทัพ ความลึกของสควอดอาจเป็นปัจจัยชี้ขาดในครึ่งเวลาหลัง

4. สรุปเด็ด+ทำนายสกอร์

จากข้อมูลทั้งหมด ลิเวอร์พูลน่าจะควบคุมเกมได้ตั้งแต่ต้นด้วยการครองบอลสูงและเล่นเกมรุกแบบเป็นขั้นเป็นตอน แต่คริสตัล พาเลซที่เล่นแบบไม่มีกั๊กอาจทำให้เกิดโมเมนต์เซอร์ไพรส์ได้บ้าง

ทำนายสกอร์สุดมัน:

5. คุยสดๆ กับประเด็นร้อน (Q&A)

Q1: ถ้าซาลาห์ถูกประกบแน่น ลิเวอร์พูลมีแผนสำรองอะไร?

A: ไม่ต้องห่วง! ลิเวอร์พูลฝึกซ้อมมาแล้วสำหรับกรณีนี้ อย่างลุยซ์ ดิอัซ ปีกซ้ายที่พึ่งกลับมาฟิตสมบูรณ์พร้อมโชว์สกิลเดาะบอลขั้นเทพ ส่วนดาร์วิน นุญเญซ ก็เป็นตัวเลือกลับที่เล่นได้ทั้งปีกและกองหน้าตัวเป้า แถมยังมีดีอะตอมจากนักเตะวัยใสอย่างสเตฟาน ไบแซ็ทติค ที่พร้อมแจมประตูไกลแบบไม่ทันตั้งตัว

Q2: คริสตัล พาเลซมีเทคนิคพิเศษอะไรที่ใช้สอยทีมใหญ่ได้?

A: หนึ่งในไม้ตายคือการตั้งรับแบบ 5-4-1 พร้อมส่งบอลยาวหา อีเซ่ ที่มีความเร็วปรี๊ด แถมยังมีแผนเล่นฟรีคิกแบบฝึกใหม่ที่ซ่อนตัวยิงไกลจาก มาร์ค เกเฮีร์ กองหลังตัวกลางที่ยิงไกลแม่นมากๆ ใน training!

6. ข้อมูลเปรียบเทียบจัดเต็ม

ตารางสถิติปังๆ

สถิติ ลิเวอร์พูล คริสตัล พาเลซ
ยิงเฉลี่ย/เกม 2.4 1.6
เสียเฉลี่ย/เกม 0.9 1.7
ครองบอล 58% 43%
ยิงนอกเขตโทษ 15 ลูก 22 ลูก
ใบเหลือง/เกม 1.8 2.4
โหม่งชนะ/เกม 6.2 ครั้ง 4.5 ครั้ง
โต้กลับสำเร็จ 8 ครั้ง 12 ครั้ง

ตารางนักเตะฮอต

ชื่อ ตำแหน่ง สถิติเด็ด
ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) ปีกขวา 22 ประตู+8 แอสซิสต์
อีเซ่ (พาเลซ) กองหน้า 15 ประตู+5 แอสซิสต์
ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล) กองหลัง 92% tackle สำเร็จ
ซาฮา (พาเลซ) ปีกซ้าย 7 ประตู+10 แอสซิสต์
เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล) ผู้รักษาประตู 18 เกมไร้ประตูเสีย