มวยONE

วิเคราะห์เกมเดือด เรอัล มาดริด vs เรอัล โซเซียดาด: ศึกลาลีกาที่ต้องลุ้นทุกนาที!

เดือดสุดๆ สำหรับเกมนี้! การพบกันระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่ของสเปนอย่าง “เรอัล มาดริด” และ “เรอัล โซเซียดาด” ในสัปดาห์นี้ถือเป็นเกมที่แฟนบอลรอคอย เพราะนอกจากจะเป็นศึกใหญ่แล้ว ยังมีผลต่อการล่าตำแหน่งแชมป์ลาลีกาโดยตรง เรอัล มาดริดที่กำลังนำตารางต้องเก็บสามแต้มให้ได้เพื่อรักษาจุดยืน ส่วนโซเซียดาดที่อยู่อันดับกลางตารางก็อยากเอาชนะทีมใหญ่มาเป็นสเต็ปกระโดดขึ้นอันดับ ถ้าใครได้ดูเกมนี้ต้องเตรียมใจลุ้นแบบจุกๆ เพราะทั้งสองทีมมีนักเตะดาวดังและรูปแบบการเล่นที่สนุกติดไฟ! รับทีเด็ดคลิ๊ก!

มาดูสตาร์ตัวเก่งทั้งสองทีมกันดีกว่า!

มาดริด vs โซเซียดาด วิเคราะห์เกมลุ้นแชมป์ที่ห้ามพลาด

เรอัล มาดริด: ทีมแห่งดาวจรัสแสง

คีลิยัน เอ็มบัปเป้ นี่คือชื่อที่ทำให้คู่แข่งขนหัวลุก! ดาวเตะชาวฝรั่งเศสคนนี้ทำประตูไปแล้ว 29 ลูกจาก 33 เกม ถือว่าเป็นนักยิงมือร้อนที่สุดของทีมเลยล่ะ แค่เห็นเขาวิ่งตัดหน้ากองหลังนี่ใจหายทุกที เพราะความเร็วระดับจรวดบวกกับทักษะเดาะบอลเหนือชั้น ทำให้เขาจัดการกับโอกาสทุกลูกได้แบบแม่นยำ หลายคนเปรียบเทียบเขาว่าเป็น “เมสซีตัวจริง” ในยุคนี้เลยทีเดียว!

ส่วน วินิซิอุส จูเนียร์ เจ้าของลีลาแดนซ์รัวๆ หลังทำประตูก็ไม่น้อยหน้า ด้วย 11 ประตูจาก 29 เกม บวกกับสปีดสุดเว่อร์ที่วิ่งแทรกเส้นข้างได้เหมือนติดจรวด นี่คือตัวป่วนกองหลังตัวฉกาจ! ล่าสุดยังมีสถิติการยิงประตูเฉลี่ย 0.45 ต่อเกม ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของลีกเกือบสองเท่า แบบนี้กองหลังโซเซียดาดคงต้องปวดหัวไม่น้อย

จูด เบลลิงแฮม เด็กหนุ่มอังกฤษผู้มาพร้อมกับผมทรงเด็ด! เขาไม่ใช่แค่นักเตะหน้าตาดีแต่ทำผลงานได้สุดปังด้วย 9 ประตู 8 แอสซิสต์จาก 31 เกม บทบาทของเขาในกองกลางเหมือนเป็นทั้งผู้สร้างและนักฆ่า พอได้บอลใกล้กรอบก็ยิงได้ทุกตำแหน่ง แถมยังมองเกมออกว่าควรส่งบอลให้ใครถึงจะได้ประตู บางคนล้อเล่นๆ ว่าเขาเป็น “เครื่องจักรส่งบอลแม่นระดับ GPS” เลยล่ะ

เรอัล โซเซียดาด: ทีมใต้เรดาร์แต่ไม่ใช่เบา!

มิเกล โอยาร์ซาบัล กัปตันทีมผู้นำทั้งจิตใจและสกอร์! ด้วย 9 ประตู 3 แอสซิสต์จาก 34 เกม เขาคือกำลังหลักของทีมที่เพื่อนร่วมทีมมองหาเวลาตกอยู่ในภาวะคับขัน สไตล์การเล่นของเขาเรียบร้อยแต่ได้ผล เน้นจังหวะและความแม่นยำมากกว่าความเร็ว บางครั้งแค่พลาดตาไปแวบเดียวเขาก็ซัดประตูใส่ไปแล้ว!

ส่วน ทาเคฟูซา คูโบ นักเตะญี่ปุ่นผู้มาพร้อมกับทักษะขั้นเทพ! แม้จะทำได้แค่ 5 ประตูจาก 35 เกม แต่ทุกคนยอมรับว่าเขาเป็นนักสร้างเกมตัวจริง บอลทุกลูกที่ผ่านเท้าเขาจะถูกส่งไปยังจุดที่เพื่อนร่วมทีมยิงง่ายที่สุด แฟนๆ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาเล่นบอลสไตล์ “จิ๊กซอว์” ที่ต่อภาพการโจมตีได้สมบูรณ์แบบ!

เซร์ฮิโอ โกเมซ ตัวแสบแห่งกองกลาง! ด้วย 2 ประตู 5 แอสซิสต์จาก 36 เกม เขาคือผู้คุมจังหวะเกมตัวสำคัญ ทักษะการส่งบอลแม่นยำแบบตัดเชือกได้ทำให้เขามักเป็นคนเริ่มต้นการโจมตีครั้งสำคัญๆ ของทีม บางครั้งเขายังแอบยิงไกลแบบไม่ทันตั้งตัวได้อีก แถมยังมีสกิลหลอกล่อกองกลางคู่แข่งได้เนียนสุดๆ!

เปิดแผนรบ! เกมนี้จะสไตล์ไหน?

เรอัล มาดริด: สปีดและความแม่นยำคืออาวุธ!

แผนของมาดริดชัดเจนคือเล่นบอลเร็วแบบตัดหน้า! ด้วยระบบ 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 ที่เน้นใช้ความเร็วของปีกทั้งสองข้างอย่างวินิซิอุสและโรดรีโกทะลุเส้นข้างแล้วส่งบอลเข้าไปให้เอ็มบัปเป้จัดการต่อ ส่วนเบลลิงแฮมในตำแหน่งกองกลางตัวรุกจะคอยยิงไกลหรือสลับเกมแบบฉับพลัน เรียกได้ว่าเป็นทีมที่เล่นบอลดุดัน เน้นสร้างโอกาสจากการสปีดและสกิลส่วนตัว!

จุดเด่นอยู่ที่การเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกในพริบตา แค่พลาดไปนิดเดียว มาดริดก็สามารถลุยจากแดนตัวเองมาทำประตูได้ภายในไม่กี่วินาที! แต่จุดอ่อนอาจอยู่ที่การเล่นเกมรับที่บางครั้งเผลอตัวไปกับการโจมตีมากเกินไป ทำให้ถูกตีโต้กลับได้ถ้ากองหลังตั้งตัวไม่ทัน

เรอัล โซเซียดาด: บอลสั้น+ความคิดสร้างสรรค์!

โซเซียดาดเลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 แบบเน้นบอลสั้นและควบคุมเกมจากกองกลาง โดยมีซูบิเมนดีเป็นผู้คุมจังหวะหลัก ส่วนโอยาร์ซาบัลและคูโบจะคอยสร้างสรรค์โอกาสใกล้กรอบประตู ทีมนี้ได้คะแนนเต็มเรื่องการส่งบอลแม่นยำและความอดทนในการสร้างโอกาส!

กลยุทธ์สำคัญคือการครองบอลและรอจังหวะช่องว่างเล็กๆ ในแนวรับมาดริดให้ได้ ถ้าทำสำเร็จอาจได้ประตูจากการยิงใกล้ๆ หรือการเล่นชุดสั้นในกรอบเขตโทษ แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็เสี่ยงถูกตีโต้กลับจากความเร็วของฝั่งตรงข้าม!

สรุปแบบไม่กั๊ก! ใครมีโอกาสชนะมากกว่า?

จากฟอร์มล่าสุดและคุณภาพนักเตะ ดูเหมือนเรอัล มาดริดจะได้เปรียบกว่าเพราะมีสตาร์ผู้ทำประตูได้แบบต่อเนื่อง แต่โซเซียดาดก็ไม่ใช่ทีมที่ยอมแพ้ง่ายๆ โดยเฉพาะเมื่อเล่นในบ้านตัวเอง! กุญแจสำคัญอยู่ที่ว่าแนวรับของโซเซียดาดจะรับมือกับสปีดของเอ็มบัปเป้และวินิซิอุสได้นานแค่ไหน

ถ้ามาดริดสามารถทำประตูเร็วได้ภายในครึ่งแรก โอกาสชนะก็สูงมาก แต่ถ้าโซเซียดาดดึงเกมไว้ได้จนถึงครึ่งหลัง พวกเขาอาจใช้ความฟิตและความอดทนในการยึดเกมเพื่อหาจังหวะชิ่งเดียวได้! แต่โดยรวมแล้วคาดว่ามาดริดน่าจะคว้าชัยด้วยสกอร์ 2-1 หรือ 3-1 เพราะมีแผนการโจมตีที่หลากหลายและประสิทธิภาพสูงกว่ามาดริด vs โซเซียดาด วิเคราะห์เกมลุ้นแชมป์ที่ห้ามพลาด

ถาม-ตอบเรื่องเด็ดที่แฟนๆ อยากรู้!

Q: ถ้าให้เลือกผู้เล่นแค่คนเดียวที่จะเป็นฮีโร่ในเกมนี้ ใครจะปังที่สุด?

A: ตอบตรงๆ เลยต้องเป็น เอ็มบัปเป้ เพราะนอกจากจะทำประตูบ่อยแล้ว ยังเป็นนักเตะที่มักยิงประตูในเกมใหญ่ๆ ตลอด! เวลาเจอทีมระดับกลางแบบโซเซียดาด เขามักจะเจอพื้นที่ให้วิ่งมากขึ้น ทำให้มีโอกาสทำสกอร์สูง ถ้าเขาโชว์ฟอร์มได้เต็มที่อาจทำแฮตทริกได้แบบชิลๆ!

Q: ถ้ามาดริดขาดเบลลิงแฮมไปเกมนี้ ผลจะเป็นยังไง?

A: แม้เบลลิงแฮมจะไม่ใช่ผู้ทำประตูสูงสุด แต่เขาเป็นเหมือนตัวเชื่อมสำคัญระหว่างกองกลางและแนวรุก ถ้าเขาไม่อยู่ เกมรุกของมาดริดอาจขาดความหลากหลาย เพราะเขาคือคนที่ทั้งส่งบอลแม่นและยิงไกลได้ด้วย เกมนี้มาดริดอาจต้องพึ่งการเล่นปีกมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้โซเซียดาดเดาทางได้ง่ายขึ้น!

เปรียบเทียบสถิติแบบเห็นภาพชัดๆ!

ตาราง 1: สถิติเด็ดนักเตะตัวหลัก

ชื่อนักเตะ ทีม ลงเล่น ประตู แอสซิสต์ นาทีรวม
เอ็มบัปเป้ มาดริด 33 29
วินิซิอุส มาดริด 29 11 2,224
เบลลิงแฮม มาดริด 31 9 8 2,495
โอยาร์ซาบัล โซเซียดาด 34 9 3 2,244
คูโบ โซเซียดาด 35 5 0

ตาราง 2: เปรียบเทียบสไตล์การเล่น

หมวดหมู่ มาดริด โซเซียดาด
รูปแบบการโจมตี สปีด+สกิลส่วนตัว บอลสั้น+ความคิดสร้างสรรค์
จุดแข็ง การยิงระยะใกล้ การส่งบอลแม่นยำ
จุดอ่อน การตีโต้กลับ ความเร็วในแนวรับ
นักยิงประตูสูงสุด เอ็มบัปเป้ (29) โอยาร์ซาบัล (9)
แอสซิสต์สูงสุด เบลลิงแฮม (8) โกเมซ (5)