พรีวิวเจลีก เอฟซี โตเกียว พบ อูราวะ เรด นัดสำคัญหนีตกชั้นชนลุ้นเอเชีย

พรีวิวก่อนเกม – เอฟซี โตเกียว vs อูราวะ เรด

ศึกเจลีก 2025 นัดที่ 24 | 19 กรกฎาคม 2568 | สนามอาจิโนะโมโตะ สเตเดียม

1. บทนำ

เกมนี้เป็นแมตช์ที่ทั้งสองทีมต่างก็มีเป้าหมายที่แตกต่างกันมาก เอฟซี โตเกียวตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างลำบาก เพราะติดอยู่ในโซนอันตราย ทีมต้องการคะแนนเพื่อหนีจากการตกชั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเจอ ฝั่งของแฟนบอลโตเกียวก็เริ่มกังวลกันแล้ว เพราะถ้าไม่ปรับปรุงผลงานเร็วๆ นี้ ทีมอาจจะต้องไปเล่นในดิวิชั่นล่าง

ในทางตรงข้าม อูราวะ เรด กลับมีเป้าหมายที่สูงกว่า พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อให้ได้ที่นั่งในท็อปไฟว์ ซึ่งจะทำให้ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันระดับเอเชียในฤดูกาลหน้า แต่ปัญหาคือหลังจากที่กลับมาจากฟีฟ่า คลับเวิลด์คัพ ทีมดูเหมือนจะสูญเสียจังหวะในการเล่น และฟอร์มก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นี่เลยทำให้เกมนี้น่าสนใจมาก เพราะทั้งสองทีมต่างก็มีแรงผลักดันที่จะต้องชนะให้ได้

2. ฟอร์มล่าสุด & โมเมนตัม

เอฟซี โตเกียวในช่วง 5 นัดหลังนี้แสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังมีชีวิตชีวาขึ้น ชนะมา 3 เกม เสมอ 1 และแพ้แค่ 1 เกมเท่านั้น สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือฟอร์มการเล่นเหย้าที่ดูแข็งแรงมาก ทีมสามารถยิงประตูได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วง 3 จาก 4 เกมหลังที่ผ่านมา ทีมยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูต่อเกม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวรุกเริ่มมีความคมขึ้น แฟนบอลเริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เพราะเห็นทีมเล่นได้สนุกและมีพลัง แต่สิ่งที่ต้องระวังคือทีมยังคงมีจุดอ่อนในบางจังหวะ โดยเฉพาะการรักษาสมาธิตลอด 90 นาที

ส่วนอูราวะ เรด กลับเป็นเรื่องที่น่าห่วงมากกว่า ใน 5 นัดหลัง ทีมชนะได้แค่ 2 เกม แต่แพ้ถึง 3 เกม อะไรที่ทำให้น่าห่วงที่สุดคือการแพ้สามเกมรวดในฟีฟ่า คลับเวิลด์คัพ ต่อทีมอย่าง ริเวอร์ เพลต, อินเตอร์ มิลาน และมอนเตร์เรย์ การแพ้เกมเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลแค่ในแง่ของผลการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังทำลายความมั่นใจของนักเล่นด้วย หลายคนดูซึมเซา และการเล่นก็ไม่มีความคม นอกจากนี้ การเดินทางไปแข่งต่างประเทศแล้วกลับมาก็อาจทำให้ร่างกายยังไม่ฟิตเต็มที่

3. อินไซด์แท็กติก

เอฟซี โตเกียวมักจะใช้ระบบ 4-2-3-1 เป็นหลัก ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้ทีมมีความสมดุลระหว่างการรุกและการรับ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือความยืดหยุ่นของทีม เพราะพวกเขาไม่ลังเลที่จะปรับเป็น 3-4-2-1 เมื่อต้องการเพิ่มการเพรสซิ่งริมเส้น วิธีเล่นของทีมจะเน้นไปที่ความเร็วของปีกขวา โคตะ ทาวาระสึมิดะ ที่มีความสามารถในการเดาะดริบเบิลและสร้างโอกาสได้ดี ประกอบกับการเติมจังหวะของแบ็กซ้าย ไทโย ยามากุจิ ที่จะวิ่งขึ้นไปช่วยสร้างการรุกอย่างสม่ำเสมอ การเล่นแบบนี้จะช่วยเปิดพื้นที่ให้กองหน้าอย่าง มาร์เซโล ไรอัน ได้เข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่อันตราย และทำประตูได้ง่ายขึ้น

อูราวะ เรด ภายใต้การคุมของ แม็คเชย์ สคอร์ซา จะวางแผนการเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน แต่จุดเด่นของทีมจะอยู่ที่การครองบอลจากคู่มิดฟิลด์ อย่าง ยาซุอิ กับ กุสตัฟสัน ที่มีความสามารถในการส่งบอลและควบคุมจังหวะเกมได้ดี เมื่อเข้าสู่การรุก ทีมจะฝากความหวังไว้กับ ริวมะ วาตานาเบะ ผู้เล่นที่เพิ่งกลับมาจากการยิงประตูใส่อินเตอร์ มิลาน ในเกมที่ซีแอตเทิล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถระดับโลก นอกจากนี้ยังมี มาติอุส ซาวิโอ ที่เป็นผู้สร้างโอกาสสูงสุดของทีม แต่จุดอ่อนที่เห็นได้ชัดคือแนวรับที่ดูล้าและมีความผิดพลาดในช่วงท้ายเกม โดยเฉพาะการเสียประตู 3 ลูกหลังนาทีที่ 75 ในสองนัดที่พบ อินเตอร์และมอนเตร์เรย์

4. ภาพรวม & คาดการณ์

เมื่อมองภาพรวมแล้ว เอฟซี โตเกียวดูจะมีโอกาสที่ดีกว่าในเกมนี้ ปัจจัยแรกคือการได้เล่นเป็นทีมเจ้าบ้าน ซึ่งจะได้รับกำลังใจจากแฟนบอลที่เชียร์อย่างเต็มที่ เสียงเชียร์ที่ดังก้องจากอาจิโนะโมโตะ สเตเดียม จะช่วยให้นักเล่นมีพลังในการต่อสู้มากขึ้น นอกจากนี้ ความสดชื่นของร่างกายก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เพราะทีมไม่ต้องเดินทางไกลเหมือนอูราวะ ที่เพิ่งกลับจากการแข่งขันในต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม อูราวะ เรด ก็ยังไม่ใช่ทีมที่ง่าย คุณภาพรายบุคคลของนักเล่นยังคงสูง และถ้าหากทีมสามารถปรับปรุงเกมรับให้ดีขึ้น รวมถึงลดความผิดพลาดที่ไม่จำเป็น ก็ยังมีโอกาสแบ่งแต้มหรือแม้แต่เอาชนะได้ ประสบการณ์ในการแข่งขันระดับสูงของนักเล่นหลายคนยังคงเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ

สกอร์คาด : เอฟซี โตเกียว 2-1 อูราวะ เรด

5. Q&A พูดคุยกับแฟนบอล

Q1: เกมนี้มี “ลูกบ้าน” อะไรให้เซอร์ไพรส์แท็กติก?

โตเกียวมีแผนสำรองที่น่าสนใจมาก พวกเขาได้ซ้อมระบบหลังสามไว้เป็นอย่างดี หากสามารถออกนำในช่วงต้นเกมได้ ทีมอาจจะปรับเปลี่ยนเป็นการถอยวิงแบ็กมาเป็นไลน์ห้า เพื่อสร้างกำแพงที่แน่นหนามากขึ้น และรอโอกาสเคาน์เตอร์ แทคติกนี้จะทำให้อูราวะต้องเปิดเกมมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดช่องว่างที่โตเกียวจะใช้ประโยชน์ได้

ฝั่งอูราวะก็ไม่น่าดูถูกเหมือนกัน พวกเขาอาจจะมีการขยับ ริวมะ วาตานาเบะ มาเล่นในตำแหน่งฟอลส์ไนน์ สลับกันกับ ซาวิโอ เพื่อสร้างความสับสนให้กับแนวรับของเจ้าถิ่น การเคลื่อนไหวแบบนี้จะทำให้เซ็นเตอร์แบ็กของโตเกียวต้องตัดสินใจว่าจะตามหรือปล่อย ซึ่งอาจจะเปิดช่องว่างให้นักเล่นตัวอื่นเข้ามาใช้ประโยชน์ได้

Q2: สภาพอากาศกรุงโตเกียวกลางฤดูร้อนจะส่งผลอย่างไร?

อากาศร้อนจัดของกรุงโตเกียวในช่วงนี้ มีอุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียส ประกอบกับความชื้นที่สูงมาก จะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะส่งผลต่อการเล่นของทั้งสองทีม นักเล่นจะเหนื่อยเร็วขึ้น โดยเฉพาะในครึ่งหลัง ซึ่งอาจทำให้เกมช้าลงและมีความผิดพลาดเพิ่มขึ้น ทีมที่สามารถหมุนเวียนนักเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ได้ดี และรักษาการครองบอลได้ยาวนาน จะได้เปรียบมากกว่า

สำหรับเกมนี้ โตเกียวน่าจะได้เปรียบเล็กน้อย เพราะไม่ต้องเดินทางไกลเหมือนอูราวะ ที่อาจยังมีความเหนื่อยล้าจากการเดินทางติดตัวอยู่ นอกจากนี้ การได้ฝึกซ้อมในสภาพอากาศเดียวกันมาตลอดก็จะช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้ดีกว่า

6. สถิติสำคัญ