วิเคราะห์ดุเดือด! ศึกแมนฯ ซิตี้ vs คริสตัล พาเลซ ใครจะปังกว่าในเกมรุก-เกมรับ
ไอร้อนๆ กับศึกใหญ่พรีเมียร์ลีกที่แฟนบอลรอคอย! เมื่อ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังจะเจอ “อินทรีแดง” คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 15 เมษายนนี้ บทความนี้จะพาเพื่อนๆ มาเจาะลึกทุกกระบวนท่าว่าทีมไหนโจมตีสุดโหด เกมรับแน่นปึ้กแค่ไหน พร้อมเดาผลล่วงหน้าว่าใครมีโอกาสถล่มคู่แข่งได้ราบคาบ!
เกมรุก ปะทะกันสะท้านสเตเดียม
แมนฯ ซิตี้ – กองทัพนักฆ่าประตูพันธุ์โหด
พูดถึงพลังโจมตีต้องยกให้ทีมนี้เลย! “ราชันสีฟ้า” มีกองหน้าอันดับ 1 ของลีกอย่าง “หมีขาว” ฮาลันด์ นัดนี้เตรียมล่าประตูที่ 21 ให้พรีเมียร์ลีกแบบไม่ยั้งมือ สถิติล่าสุดเขายิงไปแล้ว 20 ลูกจาก 26 นัด เฉลี่ยแทบจะ 1 ประตูทุกเกม! แถมยังมีเพื่อนร่วมทีมปืนใหญ่ไม่หยุด อย่าง “เด็กป่วน” ฟิล โฟเดน ที่มาพร้อม 7 ประตูสไตล์สายฟ้าผ่า หรือ “จอมเวท” เควิน เดอ บรอยน์ ที่พกการส่องบอลแม่นยำแบบจิ้มถูกจุดตาย
ทีเด็ดของซิตี้คือการโจมตีแบบ 360 องศา ไม่ใช่แค่พึ่งฮาลันด์อย่างเดียว บอลจะมาแนวตั้งจากกองกลางหรือสลับปีกก็ยิงได้หมด แถมสถิติเฉลี่ย 16.9 ครั้งต่อเกมเนี่ย แสดงว่าเขายิงไม่หยุดแม้จะโดนปิด死角!
คริสตัล พาเลซ – สไตล์โต้กลับสายฟ้าแลบ
ส่วนทีมแขวงเซาท์ลอนดอนอย่าง “อินทรีแดง” เน้นเล่นรับแน่นแล้วจู่โจมเร็วแบบสายฟ้าฟาด! ปีกเร็วอย่างไมเคิล โอลิเซ่ หรือเอเบราห์ม์ มาทูตะ จะเป็นตัวแสบที่คอยฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แต่อาจจะสู้ซิตี้ไม่ได้เรื่องการครองบอล เพราะสถิติยิงเฉลี่ยแค่ 11.2 ครั้งต่อเกมเท่านั้น
จุดอ่อนของพาเลซคือการสร้างเกมรุกช้าๆ ไม่ค่อยได้ ต้องพึ่งการสวนกลับเป็นหลัก ถ้าซิตี้เล่นดาบลับไม่ให้มีช่องว่าง พวกเขาอาจจะยิงแทบไม่ถูกกรอบเลยก็ได้!
ตารางเปรียบเทียบสถิติปืนใหญ่ (อัปเดตล่าสุด)
ทีม | ยิง/เกม | ยิงเข้ากรอบ/เกม | ประตูทั้งหมด |
---|---|---|---|
แมนฯ ซิตี้ | 16.9 | 6.4 | 68 |
คริสตัล พาเลซ | 11.2 | 3.8 | 42 |
เกมรับ กำแพงไหนทนกระสุนได้นานกว่า?
แมนฯ ซิตี้ – กำแพงเหล็กที่แตกยาก
ทีมของเปป กวาร์ดิโอล่า เน้นการป้องกันแบบจัดระบบ แบ็ค 4 ตัวหลักอย่างอา坎จี กับ รูเบน ดิอาส คือฮีโร่ในแดนหลัง ที่ไม่ใช่แค่สกัดบอล แต่ยังช่วยสร้างเกมรุกได้ด้วย! สถิติการสกัดบอลเฉลี่ย 8.3 ครั้งต่อเกม บวกกับการเข้าปะทะ 18.5 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าพวกเขารัดกุมแค่ไหน
จุดเด่นคือการกดดันคู่แข่งตั้งแต่กลางสนาม ทำให้บอลไปไม่ถึงแดนหลังบ่อยๆ แถมผู้รักษาประตูอย่าง เอเดอร์สัน ยังเซฟได้เฉลี่ย 2.5 ครั้งต่อเกม แม้จะโดนยิงเข้าเป้า!
คริสตัล พาเลซ – กำแพงมนุษย์ที่ทนทาน
ทีมของรอย ฮอดจ์สัน ขึ้นชื่อเรื่องการตั้งรับเป็นขบวนแถว คอยตัดเส้นทางส่งบอลของคู่แข่ง สถิติการสกัดบอล 9.6 ครั้งต่อเกม สูงกว่าซิตี้ด้วยซ้ำ! แต่ปัญหาคือถ้าโดนกดดันนานๆ อาจเกิดช่องโหว่ได้ เพราะแบ็คทั้งสองข้างอายุค่อนข้างมาก
ที่น่ากลัวคือการตั้งรับแบบ “ปิดทุกช่อง” ทำให้คู่แข่งหลายทีมยิงแทบไม่ถนัด แต่ถ้าเจอทีมที่สลับเกมเร็วแบบซิตี้ อาจโดนเจาะทะลวงได้ง่าย
ตารางสถิติกำแพงมนุษย์
ทีม | สกัดบอล/เกม | เข้าปะทะ/เกม | คลีนชีต |
---|---|---|---|
แมนฯ ซิตี้ | 8.3 | 18.5 | 10 |
คริสตัล พาเลซ | 9.6 | 20.7 | 7 |
สรุปเด็ด! ใครจะปังกว่าในเกมนี้
จากข้อมูลทั้งหมด แมนฯ ซิตี้ดูเหนือกว่าในทุกด้าน ทั้งการโจมตีที่หลากหลายและเกมรับที่แข็งแกร่ง แต่ก็อย่าลืมว่าบอลเป็นวงกลม! พาเลซอาจสร้างเซอร์ไพรส์ได้หากเล่นเกมรับได้สมบูรณ์แบบ และใช้จังหวะโต้กลับทำประตูเร็ว
เดาใจความ: ซิตี้ชนะ 2-0 จากประตูของฮาลันด์กับโฟเดน แต่ถ้าพาเลซทำได้ตามแผน อาจดึงเสมอแบบ 1-1 ได้เหมือนกัน!
Q&A ปัญหาเหยียบกราวน์
Q: ถ้าเกมนี้ดุเดือดทั้ง 90 นาที ทีมไหนจะทนทานกว่า?
A: ซิตี้มีสถิติการยิงในครึ่งหลังดีมาก เพราะพวกเขาใช้ทักษะและความฟิตของนักเตะบดขยี้คู่แข่งไปเรื่อยๆ ส่วนพาเลซอาจอ่อนล้าในนาทีสุดท้ายเพราะต้องวิ่งไล่บอลตลอดเวลา
Q: นักเตะตัวสำรองใครลงมาช่วยเปลี่ยนเกมได้?
A: ซิตี้มีตัวเลือกเพียบเช่น จูเลียน อัลวาเรซ ที่นั่งสำรองแต่ทำประตูไปแล้ว 8 ลูก ส่วนพาเลซต้องพึ่ง ฌอง-ฟิลิปเป้ มาตีต้าที่เพิ่งหายบาดเจ็บมาช่วยลุย!
บทส่งท้าย
ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน เกมนี้รับรองดราม่าและความมันส์ถึงขีดสุด! แฟนบอลซิตี้เตรียมเชียร์ให้เต็มที่ ส่วนแฟนพาเลซก็อย่าเพิ่งท้อ ถ้าทีมเล่นตามแผนได้แม่นๆ เก็บแต้มในบ้านให้ได้ ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้