วิเคราะห์สถิติการเจอกันและประวัติศาสตร์การพบกันระหว่าง เฮาเกซุนด์ และ โบโด กลิมท์

การแข่งขันฟุตบอลที่ทุกคนรอคอยระหว่าง “เฮาเกซุนด์” กับ “โบโด กลิมท์” กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2025 ที่สนามเหย้าของเฮาเกซุนด์ บอกเลยว่านี่คือแมตช์ที่มีความหมายสุด ๆ เพราะตอนนี้เฮาเกซุนด์กำลังดิ้นรนหนีโซนตกชั้น มีแค่ 1 แต้มจากการลงสนามหลายเกม ส่วนโบโด กลิมท์เองก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มเทพสุด ๆ แต่ยังเกาะกลุ่มบนของตารางไว้ได้ด้วย 13 แต้ม ดังนั้นเกมนี้จึงเป็นเหมือนศึกชี้ชะตา ทั้งเรื่องศักดิ์ศรีและการลุ้นแต้มเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ของทั้งสองทีม ใครที่เป็นแฟนบอลหรือสายวิเคราะห์ต้องไม่พลาด เพราะผลของเกมนี้อาจเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของทั้งสองทีมได้เลย

ภาพรวมประวัติศาสตร์การเจอกัน

ถ้ามองย้อนกลับไปในอดีตตั้งแต่ปี 2006 เฮาเกซุนด์กับโบโด กลิมท์เจอกันมาแล้วถึง 29 นัด ซึ่งสถิติบอกชัดมากว่าโบโด กลิมท์เหนือกว่าพอสมควร โบโด กลิมท์ชนะไปถึง 14 นัด ส่วนเฮาเกซุนด์ชนะได้ 8 นัด ที่เหลืออีก 7 นัดก็จบลงด้วยการเสมอ สถิติการทำประตูก็เห็นภาพชัด โบโด กลิมท์ยิงรวมไป 61 ประตู เฉลี่ยแล้วได้ประมาณ 2.1 ลูกต่อเกม ขณะที่เฮาเกซุนด์ยิงได้ 41 ประตู เฉลี่ยราว 1.4 ลูกต่อเกม ถ้าดูแค่ตัวเลขนี้ก็เห็นเลยว่าโบโด กลิมท์คมกว่าและมีเกมรุกที่อันตรายกว่าอย่างชัดเจน

ในช่วงหลัง ๆ เฮาเกซุนด์เจอโบโด กลิมท์ทีไรเหมือนโดนของ เพราะ 6 นัดล่าสุดที่เจอกัน เฮาเกซุนด์แพ้ไปถึง 5 นัด เรียกได้ว่ากลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่โบโด กลิมท์มักจะกินขาดอยู่เสมอ ถ้าเจาะลึกไปที่ 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีม เฮาเกซุนด์ชนะ 3 แพ้ 2 ยิงเฉลี่ยได้แค่ 0.6 ลูกต่อเกม แต่เสียประตูถึง 2.2 ลูกต่อเกม ขณะที่โบโด กลิมท์ก็ไม่ได้ฟอร์มเทพมาก ชนะ 3 แพ้ 2 เหมือนกัน แต่ยิงได้เฉลี่ย 1.4 ลูกต่อเกม และเสียประตู 1.8 ลูกต่อเกม จะเห็นว่าทั้งสองทีมมีจุดอ่อนเรื่องเกมรับ แต่โบโด กลิมท์ยังคงมีเกมรุกที่ไว้ใจได้มากกว่า

การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงล่าสุด

ถ้าเทียบฟอร์มตอนนี้ต้องบอกว่าเฮาเกซุนด์อยู่ในช่วงขาลงสุด ๆ เพราะ 12 นัดหลังสุดแพ้ไปถึง 9 นัด ฟอร์มแบบนี้ถ้าไม่รีบเปลี่ยนอะไรสักอย่างคงได้ลุ้นหนีตกชั้นยาว ๆ ปัญหาหลักคือเกมรับที่เสียประตูเยอะมาก เฉลี่ย 2.2 ลูกต่อเกมใน 5 นัดหลังสุด ส่วนเกมรุกก็ฝืด ยิงได้น้อยจนแฟนบอลเริ่มกังวลกันแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทีมมีผู้เล่นอายุน้อยค่อนข้างเยอะ อย่างเช่น William Kaldråstøyl Valenza อายุ 17 ปี กับ Birk Træet อายุ 18 ปี ที่แม้จะมีพลังและความสดใหม่ แต่ก็ยังขาดประสบการณ์ในเกมใหญ่ ๆ แบบนี้

ฝั่งโบโด กลิมท์ แม้จะไม่ได้ฟอร์มร้อนแรงเหมือนช่วงพีก แต่ก็ยังรักษามาตรฐานไว้ได้ดีพอสมควร 7 นัดหลังสุดในลีกชนะไป 4 นัด แพ้ 3 นัด ทีมนี้มีประสบการณ์จากการไปเล่นในยุโรปอย่าง Europa League ทำให้นักเตะในทีมมีความมั่นใจและรู้วิธีรับมือกับความกดดันมากกว่า นอกจากนี้โบโด กลิมท์ยังมีขุมกำลังที่สมดุลกว่า ทั้งเกมรุกและเกมรับ แม้จะมีจุดอ่อนบ้างแต่ก็ยังดูดีกว่าเฮาเกซุนด์ในหลาย ๆ ด้าน

บทสรุป

ถ้ามองจากสถิติและฟอร์มปัจจุบัน โบโด กลิมท์ดูเหนือกว่าค่อนข้างชัดเจน โอกาสชนะของโบโด กลิมท์สูงถึง 57% จากการคำนวณด้วยอัลกอริทึมต่าง ๆ ส่วนเฮาเกซุนด์ต้องพยายามอย่างหนักถ้าหวังจะเก็บแต้มในเกมนี้ แต่ฟุตบอลก็มีอะไรให้ลุ้นเสมอ เพราะการเล่นในบ้านอาจทำให้เฮาเกซุนด์มีแรงฮึดมากขึ้น และถ้าแก้ปัญหาเกมรับกับเพิ่มประสิทธิภาพในเกมรุกได้ ก็อาจมีเซอร์ไพรส์ให้เห็นบ้าง แต่ถ้าดูจากแนวโน้มที่ผ่านมา โบโด กลิมท์ยังคงเป็นทีมที่น่าจะคว้าชัยได้มากกว่า

Q&A ถาม-ตอบแบบเปิดกว้าง

Q1: สถิติการเจอกันในอดีตมีผลต่อความคาดหวังของแฟนบอลยังไงบ้าง?
สถิติที่โบโด กลิมท์ชนะเฮาเกซุนด์บ่อย ๆ ทำให้แฟนบอลส่วนใหญ่คาดหวังว่าโบโด กลิมท์จะเก็บสามแต้มได้อีกครั้ง มันเหมือนเป็นแรงกดดันให้เฮาเกซุนด์ต้องพยายามมากขึ้น เพราะทุกครั้งที่เจอกัน เฮาเกซุนด์มักจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่บางครั้งสถิติก็ไม่ได้บอกทุกอย่าง เพราะสถานการณ์ในสนามจริง ๆ อาจเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

Q2: มีปัจจัยใหม่อะไรบ้างที่อาจทำให้ผลการแข่งขันออกมาไม่เหมือนเดิม?
ปัจจัยที่อาจเปลี่ยนเกมนี้คือความกดดันที่เฮาเกซุนด์ต้องเจอเพราะอยู่ท้ายตาราง อาจทำให้พวกเขาเล่นแบบไม่มีอะไรจะเสีย กล้าเสี่ยงมากขึ้น รวมถึงการมีนักเตะอายุน้อยที่พร้อมจะโชว์ของในเกมใหญ่ ๆ แบบนี้ ถ้าเฮาเกซุนด์เล่นได้ตามแผนและมีโชคช่วยบ้าง อะไรก็เกิดขึ้นได้ในฟุตบอล

ตารางสถิติการเจอกัน

ตารางที่ 1: สรุปสถิติการเจอกันโดยรวม

ตารางที่ 2: สถิติประตูจากการเจอกันล่าสุด