เรอัล เบติส ปะทะ เชลซี : ศึกชิงแชมป์ยุโรปที่วัยรุ่นต้องไม่พลาด!

คืนนี้ใครที่รักบอลต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะศึกยูฟ่าคอนเฟอเรนซ์ลีก 2025 จะดราม่าถึงขีดสุดเมื่อ “เรอัล เบติส” สโมสรดังจากสเปน เปิดศึกรับมือ “เชลซี” ยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดนี้ไม่ใช่แค่เกมธรรมดา แต่คือการลุ้นประวัติศาสตร์แบบจัดเต็ม! เชลซีอยากเป็นทีมแรกในโลกที่เก็บแชมป์ยูฟ่าทุกถ้วยให้ครบ ส่วนเบติสก็พยายามคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกให้ได้ สนามแข่งคือนาร์รอดโปแลนด์ เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย งานนี้ถ้าใครหลับอาจต้องมานั่งรีเพลย์ทีหลังแล้วร้องว้าว!

ฟอร์มล่าสุดของทั้งสองทีม เต็มหรือหล่อ?

เชลซี : มาดุเหมือนพี่ใหญ่ที่กลับมาฮอตอีกครั้ง

ถ้าพูดถึงฟอร์มล่าสุด เชลซีทำได้โคตรเด็ด! พวกเขาพึ่งซัดน็อตติ้งแฮม 1-0 ในพรีเมียร์ลีกจนได้อันดับ 5 แถมในคอนเฟอเรนซ์ลีกก็รัวๆ ชนะ 11 จาก 12 เกม ทำประตูไป 38 ลูกแบบไม่เล่นกันเลย แถมป้องกันแน่นจนคู่แข่งยิงเข้าได้แค่ 9 ลูกเท่านั้น! ฤดูกาลนี้เหมือนเชลซีปลุกบอลลีลา “Tiki-Taka” สไตล์เอ็นโซ่ มาเรสก้า ให้กลับมาลุ้นแชมป์ได้อีกครั้ง ใครที่เคยคิดว่าเชลซีจะตกยุคต้องเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ

แต่ทีมนี้ก็มีจุดอ่อนอยู่เหมือนกันนะ เช่น เวลาพักน้อยกว่าเพราะเพิ่งลงแข่งลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แถมยังขาดเวสลี่ย์ โฟฟาน่า นักเตะแนวรับดาวรุ่งที่บาดเจ็บ ไม่รู้ว่าการ์ดจะรวนมั้ยถ้าโดนเบติสสับตลอดเกม

เรอัล เบติส : ตัวเต็งจากสเปนที่อยากสร้างเซอร์ไพรส์

ฝั่งเบติสจบลาลีกาด้วยอันดับ 6 แม้จะเสมอวาเลนเซีย 1-1 ในนัดสุดท้าย แต่ได้เปรียบเรื่องเวลาพักฟื้นเพราะลงแข่งเมื่อวันศุกร์ แถมในรอบรองชนะเลิศยังดวลสกอร์สูงเอาชนะฟิออเรนติน่า 4-3 รวมสองนัดแบบหืดจับ! สไตล์การเล่นของพวกเขาคือการครองบอลสไตล์สเปนดั้งเดิม ใช้กองกลางอย่างอิสโก้คอยสลับจังหวะ สร้างโอกาสให้เซดริก บากัมบู ยิงประตูแบบมินิมอลแต่แม่นเป๊ะ

ปัญหาของเบติสคือการบาดเจ็บของนักเตะสำคัญหลายตัว ทั้งชิมี่ อาบิล่า กองหลังจอมสกัด, มาร์ก โรก้า กองกลางตัวรุก รวมถึงการที่ทีมไม่มีประสบการณ์เล่นรอบชิงยุโรปมาก่อน อาจทำให้เด็กๆ เกร็งได้เวลาตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน

5 ปัจจัยเด็ดที่ตัดสินว่าใครจะได้แชมป์

1. ประสบการณ์ VS ความมุ่งมั่น
   เชลซีเคยเล่นรอบชิงยุโรปมาแล้ว 8 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นนักล่าแชมป์ตัวพ่อ ส่วนเบติสเพิ่งมา第一次เลย งานนี้เหมือนเด็กใหม่มาเจอเซียน แต่บางครั้งความกระตือรือร้นของเบติสอาจทำให้เซียนอย่างเชลซีเซอร์ไพรส์ได้!

2. เวลาเติมพลัง
   เบติสได้พัก 4 วันเต็มๆ ในขณะที่เชลซีพึ่งลงสนามเมื่อ 3 วันที่แล้ว เรื่องความฟิตอาจเป็นจุดได้เปรียบ แต่เชลซีก็ชินกับการลงแข่งถี่ๆ อยู่แล้ว เพราะในพรีเมียร์ลีกก็เจอแบบนี้ประจำ

3. ดาวเด่นตัวแม่
   ถ้าโคล พัลเมอร์ กองกลางจอมสตั๊นของเชลซีเล่นได้เต็มสูบ คงสร้างปัญหาให้เบติสแน่ๆ ส่วนอิสโก้ของเบติสก็เหมือนเมาส์คอมพ์ที่คอยคลิกสร้างเกมรุก ถ้าทั้งคู่พร้อมกัน เกมนี้คงสนุกโคตร!

4. แผนรับมือของโค้ช
   เปเญกรินี่ โค้ชเบติส โดดเด่นเรื่องปรับแผนรายเกม ส่วนมาเรสก้าของเชลซีก็เป็นเซียนแผนรุก ใครปรับตัวได้เร็วกว่ากันอาจเป็นตัวตัดสินผล

5. แรงสนับสนุนจากแฟนๆ
   แม้แข่งในโปแลนด์ แต่แฟนๆ สเปนน่าจะมาเต็มกว่าเพราะใกล้กว่าจากอังกฤษ เสียงเชียร์อาจเป็นกำลังใจให้เบติสฮึดสู้ได้อีกแรง!

สรุปแล้วใครจะคว้าถ้วย?

จากทุกปัจจัย เชลซีดูเหนือกว่าในด้านคุณภาพนักเตะและประสบการณ์ คาดว่าอาจชนะ 2-1 แต่ฟุตบอลมันดราม่าได้ทุกเมื่อ! ถ้าเบติสเล่นตามแผนได้เป๊ะๆ และเชลซีเผลอแมทช์นึง อาจได้เห็นการช็อคโลกแบบไม่ทันตั้งตัว วัยรุ่นคนไหนอยากลุ้นให้ตับแตกต้องรีบหามือถือหรือโน๊ตบุ๊คมานั่งสตรีมแล้วล่ะ!

คำถามฮิตที่วัยรุ่นอยากรู้

Q: ถ้าเบติสอยากชนะ ต้องเล่นยังไงให้เชลซีเซ็ง?
A: ต้องบุกเร็วตั้งแต่เริ่มเกม ใช้ความเร็วของบากัมบูยิงช็อตแรกให้เข้าไปก่อน จะได้ไม่ต้องมานั่งลุ้นแบบใจหายใจคว่ำ ส่วนการ防守ต้องจับตาโคล พัลเมอร์ให้ดี อย่าให้เขามีพื้นที่ส่งบอลหรือยิงไกลได้ ถ้าเบติสทำแบบนี้ได้ รับรองเชลซีหน้าเหี่ยวแน่นอน!

Q: นักเตะคนไหนน่าจะเป็นฮีโร่ในเกมนี้?
A: ด้านเชลซีต้องจับตานิโคลัส แจ็คสัน กองหน้าจอมฉกฉวยโอกาส ถ้าได้บอลในกรอบ 6 หลาเมื่อไหร่เตรียมลุ้นได้เลย ส่วนเบติสต้องลุ้นอิสโก้ ทำเกมรุกให้บ้าพลังเหมือนตอนเล่นให้สเปนทีมชาติ ถ้าทั้งคู่ฟอร์มพุ่ง เกมนี้มีวินาทีเด็ดให้แคปหน้าจอแน่นอน!

เปรียบเทียบสถิติแบบวัยรุ่นๆ

ดาวเด่นที่ต้องจับตา