เจาะลึก ทีเด็ดบอล 3 คู่ Premier League (อาทิตย์ 6 เมษายน 2568)
สรุปทีเด็ด
คู่แข่งขัน | ราคา | ทีเด็ด | ความมั่นใจ |
---|---|---|---|
เบรนท์ฟอร์ด vs เชลซี | 0/0.5 | เชลซี | ฟันธงต่อ เชลซี ยิงแสกหน้า |
ฟูแล่ม vs ลิเวอร์พูล | 0.5 | ลิเวอร์พูล | ฟันธงต่อ ลิเวอร์พูล ยิงโชว์สาว |
แมนฯ ยูไนเต็ด vs แมนฯ ซิตี้ | 0/0.5 | แมนฯ ซิตี้ | ฟันธงต่อ แมนฯ ซิตี้ เฮลั่นบ้าน |
คะแนนความมั่นใจประเมินจากคุณภาพทีม + สถิติฟอร์มล่าสุด
คู่ที่ 1: เบรนท์ฟอร์ด vs เชลซี (ต่อ เชลซี 0/0.5)
-
สภาพทีม
-
เบรนท์ฟอร์ดยังขาดกองหลังตัวหลักอย่าง อารอน ฮิคกี และ กุสตาโว นูเนส ที่เพิ่งเรียกความฟิตในทีม B คาดว่ายังไม่พร้อมลงสนาม ขณะที่ แมธิอัส เยนเซน และ มิคเกล ดัมส์การ์ด กลับมามีชื่อหลังหายเจ็บ/ป่วย
-
เชลซีได้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ฟิตกลับมายืนคู่ ไคเซโด ส่วนแนวรุกวาง โคล พาล์มเมอร์, เอ็นกุนกู และ นิโคลัส แจ็กสัน
-
-
แท็กติก & สถิติสำคัญ
-
ทีมของ โธมัส แฟรงค์ ชนะในบ้านแค่ 1 จาก 7 นัดหลังทุกรายการ เกมรับเสียเฉลี่ย 1.8 ประตู/นัด
-
เชลซีของ โปเช็ตติโน่ ไม่แพ้นอกรัง 6 เกมติด (ชนะ 4 เสมอ 2) และค่า xG เกมรุกเฉลี่ย 1.9 ต่อเกม
-
-
ใบเหลือง
- เบรนท์ฟอร์ด: ทีมนี้เขาเด่นเรื่องวินัยสุด ๆ เล่นสุภาพและไม่ค่อยเสียฟาวล์หนัก ใบเหลืองเฉลี่ยต่อเกมอยู่แค่ประมาณ 1-2 ใบเท่านั้น ทำให้เกมรับของพวกเขาไม่ค่อยพลาดจังหวะจนต้องโดนเตือนบ่อย ๆ ถ้าใครสังเกตเวลาที่พวกเขาเจอทีมบิ๊ก ๆ จะเห็นว่าเบรนท์ฟอร์ดชอบเล่นแบบตั้งรับแล้วค่อยโต้กลับอย่างเยือกเย็น ไม่รีบเสียบบอลจนเสี่ยงใบเหลือง
- เชลซี: ตรงกันข้าม เชลซีเป็นทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องเกมบู๊ ใบเหลืองเลยตกที่พวกเขามากกว่าราว ๆ 3 ใบต่อเกม เพราะเล่นแรงเข้าบอลหนัก จังหวะเข้าประกบคู่ต่อสู้มักจะค่อนข้างดุเดือด ถึงขั้นมีบางครั้งที่ผู้เล่นเดินสายฟาวล์ตั้งแต่ครึ่งแรกจนกรรมการต้องควักเหลืองรัว ๆ
- สรุปแนวโน้ม: ถ้าต้องเลือก ใบเหลืองแรกของเกมน่าจะไปตกที่ เชลซี มากกว่า เพราะสไตล์ดุดันเข้าแลกตั้งแต่ต้น ในขณะที่เบรนท์ฟอร์ดเล่นกันเป็นระบบ วินัยดีจนมีโอกาสโดนเตือนน้อยกว่า
ใบแดง
- ทั้งสองทีมฤดูกาลนี้แทบจะไม่มีใครโดนใบแดงกันบ่อย ๆ เบรนท์ฟอร์ดนับว่าแทบไม่เคยมีเลย ส่วนเชลซีก็มีแค่ครั้งเดียวจากจังหวะเข้าบอลโหด ๆ ของฟูลแบ็ก แต่บอกเลยว่าถ้าเกิดใบแดงขึ้นจริง ฝั่ง เชลซี จะมีโอกาสโดนมากกว่าเพราะคุมเกมเดือดไว้ไม่ค่อยอยู่ แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าต้องเห็นไล่ออกครึ่งสนาม เพราะทั้งสองทีมรู้ว่าการเหลือ 10 คนทำให้เสียเปรียบชัวร์ ๆ
เตะมุม
- เชลซี ได้เตะมุมเฉลี่ยเกือบ 6-7 ครั้งต่อเกม เพราะพวกเขาชอบครองบอลต่อเนื่อง บุกกดดันสุด ๆ ทำให้แนวรับคู่แข่งต้องสกัดออกหลังหลายหน
- เบรนท์ฟอร์ด ได้ประมาณ 4-5 ครั้งต่อเกม เน้นตั้งรับแล้วโต้กลับซึ่งโอกาสได้มุมจะน้อยกว่า แต่ก็มีทีเด็ดลูกครอสจากริมเส้นให้กองหน้าโขกได้เหมือนกัน
- จังหวะเตะมุมแรก คาดว่า เชลซี น่าจะได้ก่อน เพราะเริ่มเกมมาดุดันตั้งแต่ต้น แต่ถ้าเบรนท์ฟอร์ดตั้งเกมรับเหนียวแน่นและสวนกลับได้ไว พวกเขาก็มีสิทธิ์แย่งเตะมุมแรกไปได้เหมือนกัน
สรุปคู่แรก
บทสรุป & สกอร์ที่คาด
เกมรับผึ้งพิฆาตยังรั่ว เจอกับจังหวะสวนเร็วสิงห์บลูส์น่าจะโดนกดดันยาว เชื่อว่าความหลากหลายเกมรุกของเชลซีจะเบียดเข้าป้าย
ฟันธง : ต่อ เชลซี
สกอร์ที่คาด : เบรนท์ฟอร์ด 1‑2 เชลซี
คู่ที่ 2: ฟูแล่ม vs ลิเวอร์พูล (ต่อ ลิเวอร์พูล 0.5)
-
สภาพทีม
-
ฟูแล่มไม่มี เคนนี เตเต และ แฮร์รี วิลสัน ต่อเนื่อง ส่วน รีสส์ เนลสัน ปิดเทอมยาว
-
ลิเวอร์พูลไม่มีตัวเจ็บใหม่ คล็อปป์พักคีย์แมนหลายนัดก่อน ทำให้ ซาลาห์, นูนเญซ, ดิอาซ สดเต็มถัง
-
-
แท็กติก & สถิติสำคัญ
-
เจ้าถิ่นเสียประตูทุกนัดในลีก 8 เกมหลัง ค่า xGA สูงถึง 1.7
-
“หงส์แดง” ยิงอย่างน้อย 2 ลูกในลีก 5 จาก 6 นัดหลัง เกมรุกสร้างโอกาสยิงเฉลี่ย 19 ครั้ง/นัด
-
-
ใบเหลือง
- ฟูแล่ม: เล่นเกมรับหนัก ใบเหลืองเฉลี่ยประมาณ 2 ใบต่อเกม ชอบตัดเกมเร็ว ต้องเตือนบ่อยเพราะหยุดบอลไวไม่ให้หงส์แดงเล่นเร็ว
- ลิเวอร์พูล: เกมรุกเน้นสปีด ใบเหลืองเฉลี่ยราว ๆ 1.8 ใบต่อเกม พวกเขาวินัยดีในเกมรุก แต่ถ้ามีจังหวะชุลมุน ใคร ๆ ก็เสี่ยงโดนเตือนเหมือนกัน
- สรุปแนวโน้ม: ฟูแล่มมีโอกาสได้ใบเหลืองก่อน เพราะต้องหยุดเกมรุกลิเวอร์พูลที่ความเร็วจัด ส่วนลิเวอร์พูลวินัยดีกว่า แต่หากเกิดฟาวล์แรงจริง ๆ ก็จะเป็นพวกหอกที่เข้าปะทะหนัก
ใบแดง
- ฟูแล่ม โดนไล่ออกไปแล้ว 2 ครั้งในซีซั่นนี้ เพราะเวลาเจอทีมบิ๊กแล้วเกมรับเหนื่อย มักเข้าบอลหนักจนโดนตรง
- ลิเวอร์พูล เคยโดนไล่ออกนัดเจอฟูแล่มที่แอนฟิลด์ ทำให้ต้องเล่น 10 คนช่วงท้ายเกม แต่โดยรวมพวกเขาคุมอารมณ์ดีและไล่ออกน้อยมาก
- สรุปแนวโน้ม: ถ้ามีใบแดงอีกครั้ง ฟูแล่มมีโอกาสสูงกว่า แต่ลิเวอร์พูลก็ต้องระวังอารมณ์ในจังหวะเกมสวนกลับหากเกมไม่เป็นใจ
เตะมุม
- ลิเวอร์พูล ได้เตะมุมเฉลี่ย 6-7 ครั้งต่อเกม เพราะเพรสซิ่งเร็ว บุกโหดไม่หยุด
- ฟูแล่ม ได้ประมาณ 5 ครั้งต่อเกม บุกด้านข้างดี ครอสเข้าเขตโทษบ่อย ๆ ทำให้ได้มุมจากการเคลียร์ของแนวรับคู่แข่ง
- จังหวะเตะมุมแรก นัดก่อนที่แอนฟิลด์ ฟูแล่มเล่นห้าวจนได้มุมแรกก่อน แต่สถิติโดยรวม ลิเวอร์พูลบุกต่อเนื่องกว่า น่าจะกลับมาได้เปรียบตรงนี้
สรุปคู่สอง
บทสรุป & สกอร์ที่คาด
ฟูแล่มมีจุดอ่อนลูกกลางอากาศและเกมสวนกลับซึ่งเข้าทางลิเวอร์พูลที่เพรสซิ่งสูงและจบสกอร์หลากหลาย น่าจะบุกคว้า 3 แต้ม
ฟันธง : ต่อ ลิเวอร์พูล
สกอร์ที่คาด : ฟูแล่ม 0‑2 ลิเวอร์พูล
คู่ที่ 3: แมนฯ ยูไนเต็ด vs แมนฯ ซิตี้ (ต่อ แมนฯ ซิตี้ 0/0.5)
-
สภาพทีม
-
ยูไนเต็ดอาจได้ โคบี เมนู คืนกลาง แต่ มัตไธส์ เดอ ลิกต์ ยังต้องเช็กฟิต
-
ซิตี้ไม่มี เออร์ลิง ฮาแลนด์ (ข้อเท้า) ทำให้ โอมาร์ มาร์มูช ลุ้นสตาร์ท ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาโด และ โฟเด้น ได้พักมาเต็ม
-
-
แท็กติก & สถิติสำคัญ
-
“ปีศาจแดง” เสียประตูในบ้าน 4 นัดรวด เกมรับลูกเซตพีซเปราะ (เสีย 7 ลูกจากคอร์เนอร์ในฤดูกาลนี้)
-
“เรือใบสีฟ้า” ครองบอลเฉลี่ย 66% ยิงตรงกรอบ 6.2 ครั้ง/เกม และไม่แพ้ดาร์บี้นอกรัง 4 เกมติด
-
-
ใบเหลือง
- แมนฯ ยูไนเต็ด: เกมรับเจอความกดดันสูง ใบเหลืองเฉลี่ยประมาณ 2.2 ใบต่อเกม เพราะต้องสกัดเกมรุกซิตี้ที่คุมบอลได้เกือบตลอดเวลา
- แมนฯ ซิตี้: ครองบอลเหนือกว่า ใบเหลืองเฉลี่ยประมาณ 1.8 ใบต่อเกม เล่นได้สุขุมกว่า และไม่ค่อยต้องสกัดบ่อย
- สรุปแนวโน้ม: ยูไนเต็ดมีโอกาสได้ใบเหลืองก่อน เพราะต้องวิ่งไล่บอลและสกัดเกมรุกของซิตี้ ในขณะที่ซิตี้คุมเกมดีและเข้าบอลน้อยกว่า
ใบแดง
- ยูไนเต็ด โดนไล่ออก 3 ครั้งในซีซั่นนี้ เพราะเกมดาร์บี้มักเดือด โดยเฉพาะคาเซมิโร่ที่เคยโดนไล่ออก 2 ครั้งจากการเข้าสกัดสุดโหด
- ซิตี้ โดนแค่ 1 ครั้งในฤดูกาลนี้ เกมใหญ่ส่วนใหญ่ไม่มีไล่ออก เพราะนักเตะคุมอารมณ์ได้ดี
- สรุปแนวโน้ม: เกมนี้ไม่น่ามีใบแดงง่าย ๆ แต่ถ้าเกิดขึ้น รับรองยูไนเต็ดมีโอกาสมากกว่าเพราะสไตล์ดุดันกว่า แมตช์นี้ทั้งสองทีมคงระวังไม่เสี่ยงจนเกินไป
เตะมุม
- ซิตี้ ได้เตะมุมเฉลี่ยเกือบ 7 ครั้งต่อเกม จากการต่อบอลบุกเข้าเขตโทษต่อเนื่อง ทำให้แนวรับคู่แข่งต้องเคลียร์ออกหลังเยอะ
- ยูไนเต็ด ได้ประมาณ 5 ครั้งต่อเกม เน้นโต้กลับและบอลยาว ทำให้โอกาสได้มุมรวมไม่เยอะเท่า แต่ลูกตั้งเตะมุมมีทีเด็ดสวนกลับได้
- จังหวะเตะมุมแรก นัดก่อนซิตี้กดไป 8-2 เลย เกมนี้ก็น่าจะได้มุมแรกและมุมรวมเยอะกว่า แต่ยูไนเต็ดอาจใช้เซ็ตพีซสวนกลับเป็นตัวจบสกอร์ได้เหมือนกัน
สรุปคู่สาม
บทสรุป & สกอร์ที่คาด
แม้ไร้ฮาแลนด์ แต่ระบบของกวาร์ดิโอล่ายังยืดหยุ่น การเคลื่อนที่ของมาร์มูช‑โฟเด้นจะดึงแนวรับเจ้าบ้านให้หลุดตำแหน่ง บวกกับแดนกลางซิตี้ที่คุมจังหวะได้ดีกว่า
ฟันธง : ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สกอร์ที่คาด : แมนฯ ยูไนเต็ด 1‑2 แมนฯ ซิตี้