วิเคราะห์ดวลเดือด แร็งส์ vs เม็ตซ์ ศึกลีกเอิงฝรั่งเศส

 

เกมนี้เป็นเกมที่คอบอลห้ามพลาดเลยครับ เพราะทั้งสองทีมต่างก็มีฟอร์มร้อนแรงและความแค้นฝังใจจากเกมก่อนๆ พอสมควร นัดนี้เหมือนจะเป็นศึกตัดสินว่าใครจะขึ้นไปลอยลำในตารางได้สบายกว่าใคร แถมยังมีนักเตะดาวรุ่งและแข้งเก๋ามาโชว์สกิลให้ดูกันเต็มๆ ใครที่คิดว่าบอลยุโรปน่าเบื่อน่าลองมาลุ้นเกมนี้ดูครับ รับรองไม่น็อต!

สถานการณ์ล่าสุดกับฟอร์มเพลย์

ฟอร์มล่าสุดของทั้งคู่

แร็งส์ช่วงนี้เล่นแบบขึ้นๆ ลงๆ เหมือนรถไฟเหาะเลยนะ เกมล่าสุดไปถล่มลาวาล 3-2 แบบสวยๆ แต่พอเจอโรเดซ์ที่บ้านดันเสมอ 3-3 แถมยังโดนปัวตบเจ็บไปอีก 1-2 การป้องกันดูหลุดๆ บ้าง โดยเฉพาะนาที 70 เป็นต้นไปที่มักมีปัญหาเรื่องสมาธิ การเปลี่ยนตัวผู้เล่นบ่อยเพราะการบาดเจ็บก็ส่งผลไม่น้อย

ส่วนเม็ตซ์นี่โชว์ฟอร์มเจ้าถิ่นสมคำร่ำลือเลยครับ เกมที่แล้วจับบอลได้ถึง 61% สวนทางกับแร็งส์ที่ได้แค่ 39% แถมยังยิงปาเข้าไป 12 ครั้ง แม้จะโดนเป้าแค่ 3 ครั้งก็ตาม แต่ดูแล้วทีมมีแผนชัดเจนเรื่องการครองเกมและสร้างโอกาส

สถิติเจอกันแบบจัดเต็ม

ถ้าดูสถิติเก่าๆ ตั้งแต่ 22 นัดที่ผ่านมา เม็ตซ์นี่เหมือนเป็นหนังผีหลอกแร็งส์เลยครับ ชนะไป 7 ครั้ง เสมอ 12 ส่วนแร็งส์ได้แค่ 3 ชนะเท่านั้น ผลต่างประตูก็ 23-19 แถมเกมล่าสุดที่เจอกันเสมอ 1-1 เมื่อเดือนที่แล้วก็เห็นแล้วว่าเม็ตซ์ควบคุมเกมได้ดีกว่าแต่ขาดความคมในช่องท้าย

จุดเด็ด VS จุดตายของแต่ละทีม

ข้อได้เปรียบของแร็งส์

แร็งส์เล่นระบบ 4-2-3-1 เน้นใช้ความเร็วของกองกลางอย่างอาต็องกาน่ากับมาร์กซิยาล เทีย ในการสับเปลี่ยนตำแหน่ง กองหน้าตัวเป้าอย่างจอร์แดนนี่ตัวอันตรายรับมือยากมาก แม้จะจับบอลน้อยแต่ประสิทธิภาพการยิงสูง ช่วงนาที 50-70 มักจะเป็นเวลาทองของทีมที่ทำประตูได้บ่อย

อีกจุดแข็งคือจิตสู้ครับ เกมที่แล้วตีเสมอได้ในนาที 52 หลังจากตามหลัง 1-0 แสดงให้เห็นว่าทีมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แม้จะเล่นไม่ดีในครึ่งแรกก็ตาม ความสามารถในการพลิกเกมในช่วงครึ่งหลังนี่แหละที่น่ากลัว

อาวุธลับของเม็ตซ์

เม็ตซ์ตอบโต้นักด้วยระบบ 4-4-2 แบบคลาสสิกแต่ได้ผล คู่กองกลางสตอมบูลี่กับเดมิงเกต์นี่ทำงานกันเป็นระบบเหมือนนาฬิกาสวิส แถมยังมีคู่กองหน้าอย่างซาบาลี่กับไฮน์ที่เล่นคู่กันมานานจนรู้ใจแบบไม่ต้องมองหน้ากันอีกแล้ว

การเล่นในบ้านนี่คือจุดเด็ดขาดครับ แฟนๆ กว่า 30,000 คนที่ Stade Saint-Symphorien จะส่งเสียงเชียร์ดังกึกก้องจนทีมเยือนกดดัน แถมสถิติ 12 ครั้งยิงต่อเกมแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความอดทนในการสร้างโอกาส

จุดอ่อนที่ต้องระวัง

แร็งส์มีปัญหาเรื่องความลึกของทีมครับ โดยเฉพาะตำแหน่งกองกลางและกองหลังที่ขาดคาห์ดร้ากับดารามี่เพราะบาดเจ็บ การเปลี่ยนตัวลงลึกมักเห็นผลลัพธ์ไม่ดีนัก แถมการครองบอลที่น้อยทำให้ต้องเล่นแบบรับแล้วโต้กลับซึ่งเสี่ยงมากถ้าเสียประตูแรก

ส่วนเม็ตซ์แม้จะยิงบ่อยแต่ความแม่นยำต่ำมาก แค่ 25% เท่านั้นที่โดนกรอบประตู บางเกมเห็นยิง 10 ครั้งแต่ได้แค่ 1 ประตูก็มี นี่คือปัญหาที่ต้องแก้ไขด่วนถ้าอยากเก็บสามแต้ม

3 ปัจจัยชี้ชะตาเกมนี้

1. การจัดการกับแรงกดดัน

เม็ตซ์เล่นในบ้านได้เปรียบจากเสียงเชียร์ แต่ก็มีโอกาสพลาดเพราะความคาดหวังสูง ถ้าเสียประตูแรกอาจเกิดอาการเครียดได้ ขณะที่แร็งส์ต้องแสดงความเย็นชาในการรับมือสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย

2. ศึกกลางเกม

คู่เด็ดอาต็องกาน่า vs สตอมบูลี่นี่คือศึกแอสซีสต์ประจำทีม ใครควบคุมแดนกลางได้มากกว่าก็มีชัยไปครึ่งทาง แร็งส์อาจต้องใช้ความเร็วสวนทางกับความแม่นยำของเม็ตซ์

3. การเปลี่ยนตัวช่วงท้ายเกม

ผู้จัดการทีมทั้งสองฝ่ายต้องมีแผนสำรองที่ชัดเจน โดยเฉพาะนาที 70 เป็นต้นไปที่มักเห็นการเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันบ่อยๆ การส่งตัวสำรองอย่างมาร์ตีเนซของแร็งส์หรืออาโรโซ่ของเม็ตซ์อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมได้

สรุปความเห็นและเดาผล

จากข้อมูลทั้งหมด เกมนี้น่าจะตีเสมอแบบหวุดหวิด 2-2 หรือไม่ก็เม็ตซ์ชนะเฉียดๆ 1-0 เพราะได้เปรียบเรื่องสถิติเจอตัวและความเป็นเจ้าบ้าน แร็งส์มีโอกาสได้แต้มถ้าเล่นเกมรับได้มั่นคงและใช้โอกาสโต้กลับอย่างมีประสิทธิภาพ เกมนี้น่าจะมีประตูเกิดในช่วงครึ่งหลังมากกว่าครึ่งแรกแน่นอน

ถาม-ตอบแบบกวนๆ

Q: ถ้าเม็ตซ์อยากได้สามแต้ม ต้องปรับแผนยังไงให้ยิงปังๆ?
A: เม็ตซ์ควรจัดทัพเป็น 4-2-3-1 แทน 4-4-2 ปรับให้กองกลางตัวรุกช่วยยิงมากขึ้น แถมต้องฝึกช็อตนอกกรอบให้แม่นขึ้น 20% ไม่งั้นยิงร้อยลูกก็ไม่เข้า

Q: แร็งส์มีทางรอดมั้ยถ้าโดนเม็ตซ์ยิงนำก่อน?
A: ต้องรีบส่งมาร์ตีเนซลงแทนกองหลังซ้าย เปลี่ยนเป็น 3-5-2 เน้นบุกตูมตามแบบไม่คิดชีวิต ใช้จุดแข็งเรื่องสปีดสวนกับความเมื่อยล้าของคู่ต่อสู้ช่วงท้ายเกม

ตารางสถิติเปรียบเทียบ

ดาวดังกับตัวสำรองฮอต