ศึกเดือดยูโรปาลีก! สเปอร์ส vs แมนยู ดวลขั้นสุดท้ายใครจะคว้ามงลง
เกมนี้โคตรสำคัญเลยนะทุกคน! การดวลระหว่างท็อตแนม ฮอตสเปอร์กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในรอบชิงยูโรปาลีกนี่ไม่ใช่เกมธรรมดาแล้ว เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายของทั้งสองทีมที่จะกู้หน้าเอาคืนหลังจากฤดูกาลแย่ๆในพรีเมียร์ลีก เกมนี้จะจัดวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 3 ทุ่มตรงที่สนามซาน มาเมส ประเทศสเปน ถือเป็นศึกใหญ่ที่แฟนบอลทั้งโลกจับตามองเพราะผลลัพธ์จะตัดสินว่าใครได้ไปเล่นแชมเปียนส์ลีกปีหน้า
เจาะลึกฟอร์มล่าสุดของทั้งสองทีม
สเปอร์ส: ราชันไก่ขาวยังตีเสือได้อยู่นะ!
แม้ในลีกจะทำผลงานแย่สุดในประวัติศาสตร์แบบติดหลุมบาร์ซิโลน่า แต่พอมาเล่นยุโรปนี่สเปอร์สกลับตีตัวปลิว! ล่าสุดพึ่งถล่มโบโด/กลิมท์แบบขาดลอย 3-1 ที่บ้านแล้วตามด้วยชัย 2-0 ในเกมเยือน ฟอร์มของโซน ฮึง-มินกับเจมส์ แมดดิสันตอนนี้อาจารย์ให้เต็ม 10 เลย โดยเฉพาะแมดดิสันที่ทำประตูสวยๆแบบโคตรต๊าซในเกมล่าสุด แต่ปัญหาคือแนวรับที่บางครั้งยังเซฟไม่ค่อยอยู่ อย่างเกมที่เจอคารา บัคเมื่อเกมก่อนที่เฮือกสุดๆเพราะโดนไล่ออกตั้งแต่นาที 7
แมนยู: ปีศาจแดงยังไม่ยอมตายง่ายๆ!
แมนยูในฤดูกาลนี้เหมือนรถไฟตกรางแต่ดันโผล่มาวิ่งในยูโรปาลีกได้แบบชิลๆ ผลงานในรอบก่อนๆนี่ปังมากๆ โดยเฉพาะเกมที่ถล่มแอธเลติก บิลเบา 7-1 รวมสองนัด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมื่อคริสเตียน อีริคเซนกับบรูโน่ เฟอร์นันเดสลงตัว การเล่นรุกของทีมนี้ยังโคตรอันตราย อย่างไรก็ตามปัญหาใหญ่คือการป้องกันที่บางครั้งยังเหมือนเปิดประตูต้อนรับคู่ต่อสู้ ดูได้จากเกมล่าสุดที่เสมอทเวนเต้ 1-1 ทั้งที่ควรจะชนะขาด
จุดเด็ด vs จุดด่างที่ต้องจับตา
สเปอร์ส: เร็วเวอร์แต่เซฟไม่ค่อยอยู่
-
จุดเด็ด: สไตล์การเล่นเร็วแบบรถไฟเหาะตีลังกาของโปสเตโคกลูทำคู่ต่อสู้ปั่นหัวได้ตลอด โดยเฉพาะเมื่อโซนกับคูลูเซฟสกี้อยู่ในฟอร์มเป๊ะ จะเห็นว่าในเกมที่ชนะแมนยู 3 ครั้งในฤดูกาลนี้ ลูกยิงส่วนใหญ่มาจากการโต้กลับเร็วแบบสายฟ้าฟาด
-
จุดด่าง: การ์ดตัวเซฟอย่างโรเมโรกับแวน เดอ เวนมักพลาดท่าในจังหวะสำคัญ บวกกับความเป็นทีมที่ชอบเล่นเสี่ยงๆ บางครั้งก็โดนเคาท์เตอร์ซัดกลับจนหน้าแตกได้แบบไม่ทันตั้งตัว
แมนยู: ประสบการณ์ล้นแต่ร่างกายเริ่มทรุด
-
จุดเด็ด: ประสบการณ์ในเวทียุโรประดับพรีเมียมจากผู้เล่นอย่างราฟาเอล วารานกับคาสเซมิโร รวมถึงความ冷靜ของรูเบน อาโมริม ที่เคยพาทีมเล็กๆ อย่างสปอร์ติ้ง คว้าแชมป์ลีกได้
-
จุดด่าง: ทีมอายุเฉลี่ยสูงทำให้บางเกม跟不上节奏 โดยเฉพาะเมื่อเจอทีมเร็วๆแบบสเปอร์ส จะเห็นว่าทุกเกมที่แพ้สเปอร์สในฤดูกาลนี้ ล้วนโดนลากสกอร์ตั้งแต่ครึ่งแรก
4 ปัจจัยชี้ชะตาการแข่งขัน
-
แดนกลางสมรภูมิ: การดวลระหว่างโอลิเวอร์ สกิปป์ กับคาสเซมิโร จะเป็นศึกแย่งชิงจังหวะเกมที่เดือดสุดๆ ถ้าสกิปป์ควบคุมเกมได้ แมนยูอาจโดนกดจนหายใจไม่ทั่วท้อง
-
ความฟิตของดารา: ทั้งสองทีมมีนักเตะบาดเจ็บเพียบ สเปอร์สขาดเดสตินี่ ไปช่วยแนวรับ ส่วนแมนยูไม่มีลุค ชอว์ ทำให้ต้องใช้แบ็คอัพที่ความเร็วไม่ค่อยถึง
-
จิตวิทยา: สเปอร์สเคยชนะ 3 เกมรวดในฤดูกาลนี้ ทำให้มี Mental Edge แต่อาโมริม เคยพาทีมผ่านเกมใหญ่ๆมาแล้วในโปรตุเกส
-
แผนสำรอง: ทั้งคู่มีตัวเลือกบนบัญชีนักเตะที่ลึกมาก โดยเฉพาะแมนยูที่มีมาร์เชียลกับโฮยลุนด์ นั่งรอเป็น supersub
สรุปเด็ด! ใครจะได้ชูถ้วย
จากฟอร์มล่าสุดน่าจะเป็นการดวลที่สูสีมากๆ แต่ถ้าดูจากสถิติการพบกันแล้วสเปอร์สน่าจะได้เปรียบเล็กน้อย แมนยูอาจต้องพึ่งประสบการณ์และชั้นเชิงในเกมใหญ่ แต่ถ้าเกมนี้ดันไปถึงช่วงต่อเวลาหรือจุดโทษ นี่ล่ะที่แมนยูอาจมีโอกาสมากกว่าเพราะอังเดร โอนานา เป็นผู้รักษาประตูที่เซฟจุดโทษได้แม่นมาก
ถาม-ตอบเด็ดๆ ที่แฟนบอลอยากรู้
Q: แมนยูควรปรับยังไงให้หยุดความเร็วของสเปอร์สได้?
A: ต้องเล่นเกมรุกแบบเน้นครองบอลเพื่อไม่ให้สเปอร์สมีโอกาสโต้กลับ 同时อาจต้องใช้กองกลางตัวรับ 2 ตัวคอยเซฟพื้นที่ด้านหลัง รวมถึงให้แบ็คไม่บุกสูงเกินไปไม่งั้นโดนเจาะง่ายๆ
Q: ถ้าสเปอร์สชนะ นี่จะเปลี่ยนโชว์ชะตาทีมยังไงบ้าง?
A: โปสเตโคกลูอาจได้續約ยาวๆ แถมดึงดูดนักเตะดาวรุ่งมาเสริมทัพได้มากขึ้น ส่วนแมนยูถ้าแพ้อาจทำให้อาโมริม โดน壓力หนักจนต้องปรับแผนใหญ่ในตลาดซื้อขาย
เปรียบเทียบสถิติปังๆ
หมวด | สเปอร์ส | แมนยู |
---|---|---|
ยิงประตู/เกม | 1.8 | 1.5 |
ครองบอลเฉลี่ย | 53% | 48% |
ยิงเข้ากรอบ/เกม | 4.7 | 3.9 |
แข็งแกร่งในอากาศ | 62% | 58% |
ใบแดงในฤดูกาล | 4 | 6 |
ดาวเด่นประจำทีม
ทีม | นักเตะ | ตำแหน่ง | ฟอร์มล่าสุด |
---|---|---|---|
สเปอร์ส | โซน ฮึง-มิน | ปีก | ยิง 2 ประตูใน 3 เกมหลัง |
เจมส์ แมดดิสัน | กองกลาง | 3 แอสซิสต์ในรอบก่อนชิง | |
โรเมโร | กองหลัง | เซฟถึง 12 ครั้งในเกมล่าสุด | |
แมนยู | บรูโน่ เฟอร์นันเดส | กองกลาง | 7 แอสซิสต์ในยูโรปาลีก |
โฮยลุนด์ | กองหน้า | ยิง 4 ประตูใน 5 เกมหลัง | |
โอนานา | GK | เก็บคลีนชีท 3 เกมรวด |