เกมมันส์สุดสัปดาห์นี้! เซาแธมป์ตัน ปะทะ แมนฯ ซิตี้ วันเสาร์ที่ 10 พ.ค. 2568

เตรียมตัวกันให้พร้อมเลย! เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษสุดเดือดกำลังจะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2568 เวลา 14:00 น. ตามเวลาสากล ที่สนามเซนต์แมรีส์ บ้านของเซาแธมป์ตัน ทีมเจ้าบ้านที่กำลังเจอช่วงเวลาลำบากสุดๆ จะได้ดวลกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมยักษ์ใหญ่ที่ยังต้องการแต้มเพื่อรักษาตำแหน่งท็อปโฟร์ในลีก ซึ่งเกมนี้ถือว่ามีความสำคัญมากสำหรับแมนฯ ซิตี้ เพราะถ้าพลาดท่าอาจทำให้โอกาสไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลหน้าลดลง ส่วนเซาแธมป์ตัน แม้จะตกชั้นไปแล้ว แต่ก็ยังอยากทำผลงานให้แฟนบอลในบ้านได้ภูมิใจ และอาจสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับทีมเรือใบสีฟ้าได้ด้วย
ศึกพรีเมียร์ลีก เซาแธมป์ตัน ปะทะ แมนฯ ซิตี้ วิเคราะห์ก่อนเกมครบทุกประเด็น

สถานการณ์ล่าสุดของทั้งสองทีม

ฟอร์มและอันดับในตารางตอนนี้

เซาแธมป์ตันตอนนี้อยู่ในช่วงที่ยากลำบากสุดๆ เพราะพวกเขารั้งอันดับสุดท้ายของตารางพรีเมียร์ลีก มีแค่ 11 แต้มจากการลงแข่งทั้งหมด 35 นัด ชนะแค่ 2 นัดเอง เสมอ 5 และแพ้ไปถึง 28 นัด ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ และทำให้พวกเขาตกชั้นไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้พวกเขายังเสียประตูไปมากถึง 82 ลูก ซึ่งเป็นตัวเลขที่เยอะจนแฟนบอลต้องกังวลหนักมาก เพราะแนวรับของทีมดูจะไม่แข็งแรงเอาเสียเลย

ฝั่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มตอนนี้ถือว่าอยู่ในช่วงที่ดีมากๆ พวกเขาไม่แพ้ใครมาแล้ว 9 เกมติดต่อกันในทุกรายการ ชนะ 7 และเสมอ 2 ปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก มี 64 คะแนนจาก 35 นัด ชนะ 19 เสมอ 7 และแพ้ 9 นัด พวกเขายังต้องการแต้มในเกมนี้เพื่อรักษาตำแหน่งท็อปโฟร์ และยังมีความหวังที่จะจบอันดับที่ดีขึ้นในลีกด้วย

จุดแข็งและจุดอ่อนของแต่ละทีม

เซาแธมป์ตัน
แม้ว่าผลงานจะไม่ดี แต่เซาแธมป์ตันก็ยังมีจุดแข็งที่น่าสนใจอยู่ อย่างแรกคือพวกเขามีสถิติที่ดีในการเจอกับแมนฯ ซิตี้ที่สนามเซนต์แมรีส์ โดยใน 25 เกมหลังสุดที่เจอกัน แมนฯ ซิตี้แพ้ที่นี่แค่ 3 ครั้งเท่านั้น ซึ่งแปลว่าบ้านของเซาแธมป์ตันไม่ใช่สนามที่ง่ายสำหรับทีมเยือนเลย อีกทั้งกองกลางอย่างมาเธอุส เฟอร์นานเดสก็กลับมาฟิตเต็มที่หลังจากหายจากอาการติดเชื้อที่หน้าอก ทำให้ทีมมีตัวเลือกในแดนกลางมากขึ้น แต่จุดอ่อนที่ชัดเจนมากๆ คือแนวรับที่เสียประตูเยอะมาก และยังมีปัญหาเรื่องการรักษาความได้เปรียบในเกม เพราะพวกเขาเสียแต้มไปเยอะจากสถานการณ์ที่ทีมกำลังนำอยู่

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนฯ ซิตี้มีจุดแข็งที่ชัดเจนมากคือสถิติที่ยอดเยี่ยมเวลาต้องเจอกับทีมที่อยู่อันดับท้ายตาราง พวกเขาไม่แพ้ในลีกมา 29 เกมติดต่อกันเมื่อเจอทีมที่อยู่อันดับท้ายตาราง (ชนะ 24 เสมอ 5) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความนิ่งของทีมเวลาที่เจอคู่ต่อสู้ที่อ่อนกว่ามาก นอกจากนี้การกลับมาของเออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าตัวเก่งหลังจากพักรักษาอาการบาดเจ็บนานตั้งแต่เดือนมีนาคม จะช่วยเพิ่มความคมในแดนหน้าได้เยอะเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บบางรายที่ยังไม่พร้อมลงสนาม เช่น จอห์น สโตนส์ และ ออสการ์ บ็อบบ์ รวมถึงนาธาน อาเก้และโรดรีที่ยังต้องรอเวลาในการฟื้นฟู

ปัจจัยสำคัญที่จะชี้ชะตาเกมนี้

  1. ฮาลันด์กลับมาแล้ว!
    การที่ฮาลันด์กลับมาลงสนามได้อีกครั้งถือเป็นข่าวดีมากสำหรับแมนฯ ซิตี้ เพราะเขาคือกองหน้าที่มีความเร็วและพลังมหาศาล ถ้าเขาฟิตเต็มร้อยและได้ลงตัวจริง จะทำให้แมนฯ ซิตี้มีโอกาสยิงประตูได้เยอะขึ้นอย่างแน่นอน

  2. สนามเซนต์แมรีส์ไม่ใช่สนามง่ายสำหรับแมนฯ ซิตี้
    แม้แมนฯ ซิตี้จะเก่งแค่ไหน แต่สนามของเซาแธมป์ตันเคยเป็นที่ที่ทำให้พวกเขาแพ้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งหมายความว่าทีมเยือนต้องระวังตัวให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจเจอเซอร์ไพรส์จากเจ้าบ้านได้

  3. แรงจูงใจที่ต่างกันสุดขั้ว
    แมนฯ ซิตี้ยังต้องการแต้มเพื่อรักษาตำแหน่งท็อปโฟร์ ส่วนเซาแธมป์ตันตกชั้นแล้ว เกมนี้จึงอาจมีแรงกดดันที่ต่างกันมาก ซึ่งอาจทำให้เซาแธมป์ตันเล่นได้แบบไม่กดดันและอาจเล่นได้อย่างอิสระมากขึ้น

  4. แนวรับแมนฯ ซิตี้ที่แข็งแกร่ง
    ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้เสียประตูแค่ 3 ลูกจาก 6 เกมพรีเมียร์ลีก ซึ่งถือว่าน้อยมาก แสดงให้เห็นว่าแนวรับของพวกเขาแข็งแกร่งและรักษาคลีนชีตได้บ่อยครั้ง ขณะที่เซาแธมป์ตันเสียประตูเยอะสุดในลีกถึง 82 ลูก ซึ่งอาจเป็นจุดอ่อนที่แมนฯ ซิตี้จะเจาะเข้าไปทำประตูได้ง่าย

สรุปภาพรวมและคาดการณ์ผลการแข่งขัน

ถ้ามองจากภาพรวมทั้งหมด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบมากกว่า ด้วยฟอร์มที่ดีและสถิติที่แข็งแกร่งเมื่อเจอกับทีมที่อยู่ท้ายตาราง อีกทั้งการได้ฮาลันด์กลับมาช่วยเพิ่มความคมในเกมรุก แต่ก็ต้องไม่ประมาทเซาแธมป์ตันที่เล่นในบ้านและอาจมีแรงฮึดสู้เพื่อแฟนบอลของตัวเอง ถึงแม้โอกาสที่เซาแธมป์ตันจะชนะจะน้อย แต่ก็มีโอกาสทำให้เกมนี้สนุกและมีความท้าทายสำหรับแมนฯ ซิตี้ได้แน่นอน

คำถาม-คำตอบ

แมนฯ ซิตี้ควรปรับแผนการเล่นยังไงเมื่อฮาลันด์กลับมาลงสนาม?

ถ้าฮาลันด์กลับมาลงสนามได้เต็มที่ แมนฯ ซิตี้น่าจะเปลี่ยนวิธีเล่นจากการเน้นครองบอลและผ่านบอลสั้นๆ มาเป็นการเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษให้ฮาลันด์ใช้ความเร็วและความแข็งแกร่งในการจบสกอร์ เพราะเขาเป็นกองหน้าที่มีความสามารถในการทำประตูสูง แต่ถ้ายังไม่ฟิตเต็มที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่าอาจเลือกให้เขาเป็นตัวสำรองก่อน เพื่อให้ฮาลันด์ได้ค่อยๆ ฟื้นฟูร่างกายและไม่เสี่ยงบาดเจ็บซ้ำ

เซาแธมป์ตันจะรับมือกับสถานการณ์ตกชั้นยังไง และจะส่งผลต่อการเล่นในเกมนี้ไหม?

หลังจากตกชั้นแล้ว เซาแธมป์ตันต้องเริ่มวางแผนสำหรับฤดูกาลหน้าในลีกแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งอาจรวมถึงการปรับโครงสร้างทีม ขายผู้เล่นบางคน และเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งได้ลงสนามมากขึ้น เกมที่เหลือในพรีเมียร์ลีกอาจเป็นโอกาสให้ทีมลองของใหม่และเล่นแบบไม่กดดันมากนัก ซึ่งอาจทำให้พวกเขาเล่นได้อย่างอิสระและสร้างเซอร์ไพรส์ได้ หรืออาจจะขาดแรงจูงใจจนฟอร์มตกลงก็เป็นได้

ตารางเปรียบเทียบสถิติสำคัญ

สถิติ เซาแธมป์ตัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้
คะแนนรวม 11 64
ผลงานล่าสุด (ชนะ-เสมอ-แพ้) 2-5-28 19-7-9
ประตูที่ยิงได้ 25 67
ประตูที่เสีย 82 43
ผลต่างประตู -57 +24
ฟอร์ม 6 เกมล่าสุด แพ้เยอะกว่า ไม่แพ้ 9 เกมติด
สถิติการเจอกันล่าสุด แพ้ 0-1 ชนะ 1-0

ตารางรายชื่อผู้เล่นสำคัญและสถานะ

ทีม ผู้เล่น ตำแหน่ง สถานะ ฟอร์มล่าสุด
เซาแธมป์ตัน มาเธอุส เฟอร์นานเดส กองกลาง พร้อมลงสนาม ฟื้นตัวจากอาการติดเชื้อ
เซาแธมป์ตัน ผู้เล่นหลักอื่นๆ ไม่มีปัญหาบาดเจ็บใหม่
แมนฯ ซิตี้ เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้า พร้อมลงสนาม กลับมาหลังบาดเจ็บข้อเท้า
แมนฯ ซิตี้ นาธาน อาเก้ กองหลัง ฝึกซ้อมแต่ยังไม่พร้อม อยู่ระหว่างฟื้นฟู
แมนฯ ซิตี้ โรดรี กองกลาง ฝึกซ้อมแต่ยังไม่พร้อม อยู่ระหว่างฟื้นฟู
แมนฯ ซิตี้ จอห์น สโตนส์ กองหลัง ไม่พร้อมลงสนาม บาดเจ็บ
แมนฯ ซิตี้ ออสการ์ บ็อบบ์ กองกลาง ไม่พร้อมลงสนาม บาดเจ็บ

ใครที่เป็นแฟนบอลทั้งสองทีม เตรียมตัวเชียร์กันให้เต็มที่เลยนะครับ เกมนี้มีความหมายมากจริงๆ และรับรองว่าสนุกแน่นอน!