มวยONE

ชวิเคราะห์บอล การปฏิรูปครั้งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เป๊ป กวาร์ดิโอล่าตัดสินใจทำการปฏิรูปทีมครั้งใหญ่ในซัมเมอร์ 2025 หลังจากที่เขารู้สึกว่าทีมต้องการเลือดใหม่เพื่อกลับมาแข่งขันได้ในระดับสูงสุด การจากไปของเควิน เดอ บรอยน์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทีมเป็นเวลาหลายปี ทำให้เป๊ปต้องหาตัวแทนที่เหมาะสม เขาเลือกติจานี เรยน์เดอร์สมาจากมิลานด้วยเงิน 46.3 ล้านปอนด์ เป็นนักเตะกองกลางที่มีความสามารถรอบด้านและสามารถทำหน้าที่เป็นผู้สร้างเกมได้ดี นอกจากนี้ยังได้รายาน เชอร์กีมาจากลียงด้วยเงิน 34 ล้านปอนด์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในแนวรุกที่มีความสร้างสรรค์สูง

สำหรับแนวรุกนั้นโอมาร์ มาร์มูชกลายเป็นการซื้อที่แพงที่สุดของซัมเมอร์นี้ด้วยเงิน 59 ล้านปอนด์จากไอน์ทรัค ฟรังค์เฟิร์ต นักเตะอียิปต์วัย 25 ปีคนนี้มีฟอร์มการยิงประตูที่ยอดเยี่ยมในบุนเดสลีกา และเป๊ปเชื่อว่าเขาจะเป็นคนที่ช่วยทำให้การรุกของซิตี้กลับมาคมกริบได้อีกครั้ง การที่ได้รายาน เอต์-นูรี่กลับมาในราคา 36.3 ล้านปอนด์จากวูล์ฟส์ก็เป็นการย้ายที่น่าสนใจ เพราะเขาเคยเล่นในระบบของเป๊ปมาก่อนและรู้จักวิธีการเล่นของทีมเป็นอย่างดี

ความท้าทายของ วูล์ฟแฮมป์ตัน

วูล์ฟแฮมป์ตัน

สำหรับวูล์ฟส์แล้ว ซัมเมอร์นี้เป็นช่วงที่ต้องรับมือกับการสูญเสียผู้เล่นคีย์สองคนสำคัญ การที่มาเตอุส คุนญ่าย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในราคา 62.5 ล้านปอนด์ ถือเป็นการสูญเสียอย่างมาก เพราะเขาเป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งและเป็นคนสำคัญในการสร้างโอกาสยิงประตูของทีม นอกจากนี้ การที่รายาน เอต์-นูรี่ย้ายไปซิตี้ในราคา 31 ล้านปอนด์ ก็ทำให้วูล์ฟส์สูญเสียแบ็กซ้ายคุณภาพสูงที่เล่นได้ดีทั้งในแนวรุกและแนวรับ

แต่การจัดการของวิตอร์ เปเรร่าก็ไม่ได้นั่งเฉย เขาได้ฌอน อาเรียสมาจากฟลูมิเนนเซ่ในราคา 15 ล้านปอนด์ เป็นแนวรุกชาวโคลอมเบียที่มีความเร็วและเทคนิคดี สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก การทำสัญญาถาวรกับยอร์เก้น สตราด์ ลาร์เซ่นในราคา 23.5 ล้านปอนด์หลังจากที่เขาทำผลงานได้ดีในสัญญายืมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะเขาเป็นนักเตะที่รู้จักลีกและสามารถทำประตูได้

เฟอร์ โลเปซจากเซลต้าในราคา 19 ล้านปอนด์ เป็นการเสริมกองกลางที่สำคัญ เพราะเขาเป็นนักเตะที่มีวิสัยทัศน์ในการเล่นดีและสามารถช่วยในการสร้างเกมได้ ขณะที่เดวิด มอลเลอร์ วูล์ฟจากอัลค์มาร์ในราคา 10.5 ล้านปอนด์ ถูกซื้อมาทำหน้าที่แบ็กซ้ายทดแทนเอต์-นูรี่ที่จากไป แม้ว่าจะยังไม่ถึงระดับของคนเดิม แต่เขาก็เป็นนักเตะรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง

วูล์ฟแฮมป์ตัน แมนฯ ซิตี้
ประตูเฉลี่ยต่อเกม 1.04 ประตู 2.44 ประตู
ประตูรวมเฉลี่ย 3.48 ประตู/เกม 3.48 ประตู/เกม
เกมมากกว่า 2.5 ประตู 16 จาก 25 เกม (64%) 16 จาก 25 เกม (64%)
เกมน้อยกว่า 2.5 ประตู 9 จาก 25 เกม (36%) 9 จาก 25 เกม (36%)

บทสรุป

จากการวิเคราะห์ประวัติศาสตร์การเผชิหน้าและการเปลี่ยนแปลงล่าสุด สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือแมนเชสเตอร์ซิตี้ยังคงเป็นฝ่ายที่มีความได้เปรียบจากสถิติในอดีต แต่ฟุตบอลไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขเพียงอย่างเดียว เกมสำคัญอย่างการกลับมาตีเสมอ 3-2 ในปี 2019 แสดงให้เห็นว่าวูล์ฟส์สามารถสร้างความประหลาดใจได้เมื่อมีโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเล่นที่บ้านซึ่งแฟน ๆ จะช่วยเป็นกำลังใจอย่างมาก

การสูญเสียคุนญ่าและเอต์-นูรี่เป็นการสูญเสียที่ค่อนข้างหนักสำหรับวูล์ฟส์ เพราะทั้งคู่เป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพสูงและเป็นกำลังหลักของทีม แต่การที่ได้นักเตะใหม่ ๆ มาอย่างอาเรียสและสตราด์ลาร์เซ่นก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ดี เพราะพวกเขาเป็นนักเตะที่หิวโหยผลสำเร็จและต้องการพิสูจน์ตัวเองในลีกใหม่ สำหรับซิตี้แล้ว การจากไปของเควิน เดอ บรอยน์หมายถึงการสิ้นสุดของยุคหนึ่ง เพราะเขาเป็นหัวใจสำคัญของทีมมาเป็นเวลานาน

แต่เป๊ป กวาร์ดิโอล่าไม่ใช่โค้ชที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ การที่เขาลงทุนซื้อเรยน์เดอร์สและมาร์มูชแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างทีมใหม่ให้กลับมาแข่งขันได้ในระดับสูงสุดอีกครั้ง การได้เอต์-นูรี่กลับมาก็เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแนวหลัง โดยเฉพาะในแนวรุกซึ่งเป็นจุดแข็งของเขา เกมแรกของฤดูกาลจึงเป็นโอกาสดีที่จะเห็นว่าการปรับปรุงทีมของทั้งสองฝ่ายจะออกมาเป็นอย่างไร

ถาม-ตอบ เปิดมุมมอง

คำถาม: แนวโน้มทางประวัติศาสตร์มีผลต่อความคาดหวังในเกมนี้อย่างไร?

ตัวเลขสถิติที่แมนฯ ซิตี้ชนะ 64% ในการเผชิหน้าทำให้พวกเขาเป็นฝ่ายที่ถูกคาดหวังให้ชนะในเกมนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือฟุตบอลมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถิติเก่า ๆ เสมอไป การที่วูล์ฟส์เคยสร้างความประหลาดใจด้วยการกลับมาชนะ 3-2 ในปี 2019 แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปได้ในฟุตบอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมเล็กมีแรงจูงใจพิเศษ เกมแรกของฤดูกาลมีความหมายพิเศษสำหรับทุกทีม เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกคนต้องการเริ่มด้วยผลงานที่ดี บรรยากาศในสนามโมลินิวซ์ที่เป็นบ้านของวูล์ฟส์ก็อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยให้พวกเขาเล่นได้ดีกว่าปกติ ดังนั้นแม้สถิติจะบอกว่าซิตี้น่าจะชนะ แต่ความไม่แน่นอนของฟุตบอลทำให้เกมนี้ยังคงน่าตื่นเต้น

คำถาม: ปัจจัยใหม่ใดบ้างที่อาจทำลายรูปแบบเดิม ๆ ของการเผชิหน้า?

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทั้งสองทีมในซัมเมอร์นี้อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผลการแข่งขันไม่เป็นไปตามแนวโน้มเดิม การสูญเสียเควิน เดอ บรอยน์ของซิตี้ไม่ใช่แค่การสูญเสียผู้เล่นคนหนึ่ง แต่เป็นการสูญเสียหัวใจสำคัญที่เป็นจุดศูนย์กลางของการเล่นมาหลายปี การที่ต้องปรับระบบการเล่นให้เข้ากับนักเตะใหม่อย่างเรยน์เดอร์สและมาร์มูชอาจทำให้ซิตี้ต้องใช้เวลาในการปรับตัว ขณะที่วูล์ฟส์แม้จะสูญเสียคุนญ่าและเอต์-นูรี่ แต่การได้นักเตะใหม่ที่หิวโหยอย่างอาเรียสและสตราด์ ลาร์เซ่นที่รู้จักทีมแล้วอาจทำให้พวกเขาเล่นได้ดีกว่าคาด นอกจากนี้ ดราม่าส่วนตัวของเอต์-นูรี่ที่กลับมาเผชิหน้าอดีตทีมอาจสร้างแรงจูงใจพิเศษให้กับวูล์ฟส์ที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าการขายเขาไปเป็นความผิดพลาด ความพิเศษของเกมเปิดฤดูกาลที่ทุกทีมยังไม่รู้ฟอร์มที่แท้จริงของกันและกันก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจทำให้เกิดเซอร์ไพรส์ได้