เวสต์แฮม ยูไนเต็ด กับ เชลซี จะพบกันในแมตช์ที่สำคัญมาก ๆ ของฤดูกาลนี้ และสิ่งที่น่าจับตามองที่สุดเลยคือเรื่องของความเร็วในการเล่นกับจังหวะการเดินเกมที่เหมาะสม เพราะมันจะเป็นตัวชี้ชะตาว่าใครจะได้เปรียบในการแข่งขันครั้งนี้ ทั้งสองทีมต่างก็มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันมาก ๆ ซึ่งการควบคุมจังหวะเกมให้ดีจะช่วยให้ทีมไหนที่ทำได้ มีโอกาสชนะสูงมากเลยทีเดียว เพราะการเล่นแบบเร็วเกินไปหรือช้าเกินไปก็อาจทำให้เสียโอกาสสำคัญไปได้ง่าย ๆ
พูดถึงจังหวะเกมและความเร็วในการเล่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ดยังเน้นเล่นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยมักจะใช้ระบบกองหลัง 3 คน และเล่นบอลแบบช้าๆ เพื่อหาจังหวะสวนกลับที่แม่นยำ แต่บางครั้งก็มีปัญหากับการตั้งแนวรับในเกมรับ และบางครั้งเกมรุกดูเหมือนว่าจะติด ๆ ขัด ๆ ทำให้เกิดจังหวะต่อเนื่องไม่ค่อยมาก ส่วนทางฝั่งเชลซี จะเล่นแบบไดนามิกกว่ามาก ใช้ระบบ 4-3-3 ที่มีความเร็วและการเคลื่อนที่ที่เยอะมาก โดยเฉพาะสองเกมล่าสุดที่พวกเขาเร่งสปีดเกมและส่งบอลอย่างแม่นยำ ซึ่งบอกเลยว่าการเล่นแบบนี้ทำให้ทีมมีโอกาสจบสกอร์และกดดันฝ่ายตรงข้ามได้ดีมาก ทั้งสองทีมในช่วงหลังเลยต้องมีการปรับแทคติกและรูปแบบการเล่นเพื่อให้เหมาะกับผู้เล่นและสถานการณ์เกมจริงมากขึ้น
เรื่องความพร้อมของนักเตะและปัจจัยอื่น ๆ ก็มีผลกับเทมโปหรือจังหวะในการเล่นมากนะ อย่างเช่น ความฟิตของนักเตะที่ทั้งสองทีมต่างก็ฟิตเต็มที่ พร้อมลงแข่ง แม้จะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนตัวในช่วงปรีซีซั่นก็ตาม นอกจากนี้ การเล่นของเวสต์แฮมที่มักจะใช้กองหลังสามคน เพื่อรับมือกับบอลกว้าง ๆ จากเชลซีที่ชอบเติมขึ้นเร็ว ก็จะเป็นตัวแปรที่น่าสนใจมาก ๆ อีกอย่างคือบทบาทกองกลางที่เชลซีจะเน้นดักบอลและเร่งเกมขึ้นเร็วขึ้น ทำให้จังหวะเกมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่แทคติก ส่วนเรื่องสภาพอากาศและสนามแข่งในวันแข่งขันก็อาจมีผลทำให้สปีดเกมเร็วหรือช้าลงได้ ถ้าฝนตกหรือสนามลื่นก็อาจทำให้การวิ่งและส่งบอลต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ทำให้จังหวะเกมช้าลงไปด้วย
สุดท้ายนี้ เรื่องของการควบคุมจังหวะเกมจะเป็นตัวแปรหลักที่ส่งผลถึงผลการแข่ง โดยถ้าทีมไหนสามารถกำหนดจังหวะและเปลี่ยนสปีดเกมได้อย่างเหมาะสม จะได้เปรียบและมีโอกาสชนะมากกว่าแน่ ๆ เพราะการเล่นด้วยการเน้นสปีดที่ดี จะทำให้อีกฝ่ายตั้งเกมรับได้ยากและมีโอกาสเจาะเข้าไปทำประตูได้มากขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าสปีดเกมถูกฝ่ายตรงข้ามควบคุมได้ก็อาจทำให้เสียความมั่นใจและเสียประตูได้ง่าย ๆ ดังนั้นเกมนี้การอ่านและปรับสปีดให้เหมาะสมใจจังหวะจะเป็นหัวใจสำคัญของชัยชนะ
คำถาม & คำตอบ (Q&A)
-
การปรับสปีดเกมในการแข่งจริงจะมีผลกับแทคติกของทีมยังไงบ้าง?
ถ้าปรับสปีดเร็วขึ้น ทีมต้องเน้นเล่นบอลเร็ว ตัดสินใจเร็ว ทำให้กดดันฝ่ายตรงข้ามได้เยอะ ขณะที่ถ้าเล่นช้าลงจะต้องเน้นการครองบอลและรอโอกาสจากความผิดพลาดของฝ่ายตรงข้าม -
ในเกมนี้ทีมไหนน่าจะมีโอกาสมากกว่าที่จะควบคุมจังหวะเกมและสปีดได้?
เชลซีดูเหมือนจะมีโอกาสมากกว่า เพราะเล่นโดยเน้นสปีดและการผ่านบอลที่แม่นยำ แต่เวสต์แฮมก็อันตรายมากถ้าสามารถตั้งเกมรับและสวนกลับได้ดี
ตารางที่ 1: สถิติเกี่ยวกับเทมโป (เฉลี่ยต่อเกม)
ทีม | เวลาถือครองบอลเฉลี่ย (นาที) | จำนวนการผ่านบอลเฉลี่ย (ครั้ง) |
---|---|---|
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด | 48.3 | 410 |
เชลซี | 53.7 | 490 |
ตารางที่ 2: สถิติเปรียบเทียบเกมเพซขั้นสูง
ทีม | ระยะทางวิ่งเฉลี่ย (กม.) | จำนวนสปรินต์ทั้งหมด (ครั้ง) |
---|---|---|
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด | 11.2 | 350 |
เชลซี | 12.5 | 400 |