ลิเวอร์พูล VS เอฟเวอร์ตัน
วิเคราะห์ศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้: ลิเวอร์พูล vs เอฟเวอร์ตัน

ศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้กำลังจะกลับมาอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2568 เมื่อลิเวอร์พูลจะปะทะกับเอฟเวอร์ตัน ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ การพบกันของสองทีมจากเมืองเดียวกันครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับลิเวอร์พูลที่กำลังลุ้นแชมป์ลีก โดยพวกเขาต้องการ 3 คะแนนเต็มเพื่อเป็นก้าวแรกสู่การคว้าแชมป์ใน 9 นัดที่เหลือของฤดูกาล ขณะที่เอฟเวอร์ตันกำลังมีฟอร์มการเล่นที่ดีแม้จะอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่า และพวกเขาก็ไม่มีอะไรจะเสียในเกมนี้เลย

ลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทีมของอาร์เน่อ สล็อต กุนซือชาวดัตช์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ โดยไม่แพ้เลยตลอด 25 เกมในลีก ซึ่งถือเป็นสถิติไร้พ่ายที่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ฟอร์มในช่วงหลังมีสะดุดบ้าง จากผลงาน 5 นัดล่าสุด หงส์แดงแพ้ให้กับนิวคาสเซิลและพีเอสจี ชนะ 2 นัด และเสมออีก 1 นัด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังคงต้องปรับปรุงและปรับเปลี่ยนแผนการเล่นเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ

ในขณะเดียวกัน เอฟเวอร์ตันภายใต้การนำของเดวิด มอยส์ กำลังอยู่ในช่วงมั่นคง โดยไม่แพ้มา 9 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 4 เสมอ 5) ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 และหากพวกเขาไม่แพ้ในเกมนี้ ก็จะเป็นการไม่แพ้ 10 เกมลีกติดต่อกัน ซึ่งไม่ได้ทำมาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2013 การที่เอฟเวอร์ตันมีสถิติไร้พ่ายยาวนานนี้ทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้น และพร้อมที่จะท้าทายลิเวอร์พูลในเกมนี้

สถานการณ์ปัจจุบันของทั้งสองทีม

ฟอร์มการเล่นล่าสุด

ลิเวอร์พูลมีฟอร์มการเล่นที่ดีในฤดูกาลนี้ แต่ในช่วงหลังมีสะดุดบ้าง โดยแพ้ให้กับนิวคาสเซิลและพีเอสจี ซึ่งเป็นสองทีมที่มีศักยภาพในการต้านทานทีมใหญ่ๆ ได้ดี การแพ้เหล่านี้ทำให้ลิเวอร์พูลต้องปรับแผนการเล่นและเตรียมพร้อมสำหรับเกมที่จะมาถึง โดยเฉพาะเกมดาร์บี้แมตช์ที่มีความสำคัญอย่างมาก

เอฟเวอร์ตันในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีม โดยไม่แพ้มา 9 นัดติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติที่น่าประทับใจมาก การที่พวกเขาไม่แพ้มาหลายเกมติดต่อกันนี้ทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้น และพร้อมที่จะท้าทายลิเวอร์พูลในเกมนี้

ความพร้อมของนักเตะ

ลิเวอร์พูลมีข่าวดีเมื่อ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ มีลุ้นกลับมาลงสนามหลังจากบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ และไรอัน กราเฟนแบร์ค ที่พร้อมลงสนามแม้จะถอนตัวจากทีมชาติเนเธอร์แลนด์ด้วยอาการบาดเจ็บ แต่ก็ยังต้องลุ้นกับความพร้อมของ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูที่มีอาการคอนคัสชั่นจากการเล่นให้ทีมชาติบราซิล

ด้านเอฟเวอร์ตันได้ อิลิมาน เอ็นดิอาย และ ดไวท์ แม็คนีล กลับมาซ้อมอย่างเต็มรูปแบบแล้ว แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าจะได้ลงสนามในเกมนี้หรือไม่ รวมถึง วิตาลี่ มิโคเลนโก้ ที่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บต้นขาจากช่วงรับใช้ทีมชาติยูเครนแล้วเช่นกัน การที่นักเตะสำคัญกลับมาซ้อมเต็มรูปแบบทำให้เอฟเวอร์ตันมีความพร้อมมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับลิเวอร์พูล

จุดแข็งและจุดอ่อนของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล

จุดแข็ง

จุดอ่อน

เอฟเวอร์ตัน

จุดแข็ง

จุดอ่อน

ปัจจัยสำคัญที่จะตัดสินผลการแข่งขัน

1. การปะทะกันในแดนกลาง

แดนกลางของทั้งสองทีมจะเป็นพื้นที่สำคัญที่สุดในเกมนี้ โดยคู่ กราเฟนแบร์ค และ แม็ค อัลลิสเตอร์ ของลิเวอร์พูล จะต้องเจอกับ กาน่า เกย์ และ การ์เนอร์ ของเอฟเวอร์ตัน ทีมที่ควบคุมแดนกลางได้ดีกว่าจะมีโอกาสสร้างเกมรุกได้มากกว่า และสามารถกดดันคู่แข่งได้มากขึ้น

2. ประสิทธิภาพของแนวรุก

ลิเวอร์พูลมีแนวรุกที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ แต่ต้องเจอกับแนวรับที่แข็งแกร่งของเอฟเวอร์ตัน การเปิดเกมรุกของซาลาห์และเพื่อนร่วมทีมจะเป็นกุญแจสำคัญ ขณะที่เอฟเวอร์ตันจะต้องพึ่งพาการสวนกลับที่รวดเร็วและประสิทธิภาพของเบโต้ในการจบสกอร์ การที่เอฟเวอร์ตันมีแนวรับที่แข็งแกร่งจะทำให้ลิเวอร์พูลต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการทำประตู

3. สภาพจิตใจและแรงกดดัน

ลิเวอร์พูลมีแรงกดดันมากกว่าในเกมนี้ เนื่องจากต้องการ 3 คะแนนเพื่อลุ้นแชมป์ ขณะที่เอฟเวอร์ตันไม่มีอะไรจะเสีย และต้องการเพียงขัดขาคู่แข่งร่วมเมือง ทีมที่จัดการกับความกดดันได้ดีกว่าจะมีโอกาสชนะเกมนี้มากกว่า การที่เอฟเวอร์ตันมีสถิติไร้พ่ายยาวนานจะทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้นและพร้อมที่จะท้าทายลิเวอร์พูล

สรุปการวิเคราะห์และคาดการณ์ผลการแข่งขัน

จากการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด คาดว่าเกมนี้จะเป็นการปะทะกันที่ดุเดือด โดยลิเวอร์พูลมีความได้เปรียบด้านคุณภาพของนักเตะและการเล่นในบ้าน แต่เอฟเวอร์ตันมาพร้อมกับความมั่นใจจากสถิติไร้พ่าย 9 นัดติดต่อกัน ลิเวอร์พูลมีโอกาสชนะมากกว่าด้วยคุณภาพของเกมรุก แต่ก็ต้องระวังการสวนกลับของเอฟเวอร์ตัน คาดผลไว้ที่ลิเวอร์พูลชนะ 2-1 แต่ด้วยความดุเดือดของเกมดาร์บี้แมตช์ ทุกอย่างก็สามารถเกิดขึ้นได้

คำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกมนี้

อาร์เน่อ สล็อต จะวางแผนรับมือกับเกมรับที่แข็งแกร่งของเอฟเวอร์ตันอย่างไร?

การรับมือกับเกมรับที่แข็งแกร่งของเอฟเวอร์ตันนั้น อาร์เน่อ สล็อต น่าจะใช้เกมรุกที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่น โดยใช้ความเร็วของซาลาห์และการเคลื่อนที่ของดิอาซเป็นหลัก ควบคู่กับการเปิดบอลจากด้านข้างของควอนซาห์และโรเบิร์ตสัน เพื่อสร้างช่องว่างในแนวรับของเอฟเวอร์ตัน นอกจากนี้ การยิงไกลจากกองกลางอย่าง แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ การปรับเปลี่ยนแผนการเล่นและใช้ความหลากหลายในการโจมตีจะช่วยให้ลิเวอร์พูลสามารถเจาะแนวรับของเอฟเวอร์ตันได้

ประวัติการพบกันล่าสุดของทั้งสองทีมส่งผลต่อเกมนี้อย่างไร?

เกมล่าสุดที่ทั้งสองทีมเจอกัน จบลงด้วยผลเสมอ 2-2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเอฟเวอร์ตันสามารถต้านทานแรงกดดันจากลิเวอร์พูลได้ดี และสามารถทำประตูได้ด้วย การที่เบโต้ทำแสบในนัดที่แล้วจะทำให้แนวรับลิเวอร์พูลต้องระมัดระวังมากขึ้น ขณะเดียวกัน ประสบการณ์จากเกมที่แล้วจะทำให้ลิเวอร์พูลปรับแผนการเล่นเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำ โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม นอกจากนี้ ปัจจัยทางจิตวิทยาจากผลการแข่งขันในอดีตก็มีผลต่อความมั่นใจของทั้งสองทีมด้วย

ตารางเปรียบเทียบสถิติสำคัญของทั้งสองทีม

สถิติ ลิเวอร์พูล เอฟเวอร์ตัน
ผลงาน 5 นัดล่าสุด ชนะ 2, แพ้ 2, เสมอ 1 เสมอ 4, ชนะ 1
เปอร์เซ็นต์การครองบอล (โดยเฉลี่ย) 60% 45%
จำนวนประตูที่ยิงใน 5 นัดล่าสุด 7 ประตู 5 ประตู
จำนวนประตูที่เสียใน 5 นัดล่าสุด 5 ประตู 4 ประตู
สถิติไร้พ่ายในลีก 25 เกม 9 เกม

รายชื่อผู้เล่นสำคัญและการคาดการณ์ 11 ตัวจริง

ตำแหน่ง ลิเวอร์พูล เอฟเวอร์ตัน
ผู้รักษาประตู อาลีสซง เบ็คเกอร์ (มีปัญหาอาการคอนคัสชั่น) จอร์แดน พิคฟอร์ด (ฟอร์มคงที่)
แบ็คขวา จาเรลล์ ควอนซาห์ (ฟอร์มดี) เจค โอไบรอัน (ฟอร์มคงที่)
เซ็นเตอร์แบ็ค อิบราฮิมา โกนาเต้ (พร้อมลงสนาม) เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ (ฟอร์มคงที่)
เซ็นเตอร์แบ็ค เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (กัปตันทีม, ฟอร์มดี) จาร์ราด แบรนธ์เวต (ฟอร์มคงที่)
แบ็คซ้าย แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (ฟอร์มดี) วิตาลี่ มิโคเลนโก้ (เพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บ)
กองกลาง ไรอัน กราเฟนแบร์ค (เพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บ) อิดริสซ่า กาน่า เกย์ (ฟอร์มดี)
กองกลาง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (ฟอร์มดี) เจมส์ การ์เนอร์ (ฟอร์มคงที่)
ปีกขวา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ดาวยิงของทีม) เยสเปอร์ ลินด์สตรอม (ฟอร์มคงที่)
กองกลางตัวรุก โดมินิก โซบอสไล (ฟอร์มดี) อับดูลาย ดูกูเร่ (ฟอร์มคงที่)
ปีกซ้าย โคดี้ กัคโป (ฟอร์มกำลังขึ้น) แจ็ค แฮร์ริสัน (ฟอร์มคงที่)
กองหน้า หลุยส์ ดิอาซ (ฟอร์มดี) เบโต้ (เคยทำประตูใส่ลิเวอร์พูล)