วิเคราะห์แมตช์ เปิดฤดูกาล: ลิเวอร์พูล พบ บอร์นมัธ ฉบับวัยรุ่น

วิเคราะห์พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล vs บอร์นมัธ 15 สิงหา 2025

บทนำ

มาแล้วเกมเปิดศึกที่แฟนบอลรอคอย! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2025-26 จะเริ่มต้นขึ้นด้วยแมตช์ระเบิดความมันส์ในคืนวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2025 เวลา 02.00 น. (เวลาไทย) เมื่อ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่าที่กำลังมาแรง เปิดสนามแอนฟิลด์ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง เพื่อต้อนรับการมาเยือนของ บอร์นมัธ ทีมเซอร์ไพรส์ที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง

เกมนี้ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นฤดูกาลธรรมดา แต่เป็นการทดสอบความแข็งแกร่งของหงส์แดงภายใต้แรงกดดันจากการเป็นแชมป์เก่า ขณะที่บอร์นมัธที่จบอันดับ 9 ในฤดูกาลที่ผ่านมาก็พร้อมจะสร้างความประหลาดใจให้โลกได้เห็น แฟนบอลวัยรุ่นต้องจับตาดูการเปิดตัวของดาวใหม่หลายคนของลิเวอร์พูล รวมทั้งการแข่งขันในทุกตำแหน่งของทั้งสองทีม อารมณ์ความตื่นเต้นกำลังจะระเบิดขึ้นมาแน่นอน เพราะนี่คือเกมที่จะบอกได้ว่าใครพร้อมสำหรับการต่อสู้ในฤดูกาลใหม่จริงๆ

การวิเคราะห์หลัก

สถานการณ์ปัจจุบัน

ลิเวอร์พูล กำลังเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่สอง และบอกเลยว่าทีมนี้ไม่ได้มาเล่นๆ การเสริมทัพในตลาดซื้อขายนักเตะครั้งนี้โคตรจริงจัง โดยเฉพาะการคว้าตัวดาวดังจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น อย่าง ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ระดับท็อปของยุโรป และ เจเรมี่ ฟริมปง แบ็กขวาตัวแกร่งที่จะช่วยเสริมแนวรับให้แข็งแกร่งขึ้น ยังไม่หมดแค่นั้น ทีมยังได้ อูโก้ เอกิติเก้ กองหน้าจากแฟร้งค์เฟิร์ต และที่สำคัญคือ มิลอส เคอร์เคซ แบ็กซ้ายจากบอร์นมัธเอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาตำแหน่งแชมป์

ทีมยังคงมีแกนหลักที่แข็งแกร่งเหมือนเดิม โดยเฉพาะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงที่ยังคงเป็นตัวจริงในการทำประตู เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีมที่เป็นหัวใจของแนวรับ และ อาลีซง แบเกร์ กองกลางที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนทีม การมีผู้เล่นคุณภาพระดับนี้ ผนวกกับนักเตะใหม่ที่มาเสริมทัพ ทำให้ลิเวอร์พูลดูเป็นทีมที่น่ากลัวมากในฤดูกาลนี้ แฟนบอลวัยรุ่นที่ชอบดูเกมแนวรุกต้องตื่นเต้นแน่นอน เพราะทีมนี้มีความสามารถในการทำประตูได้หลากหลายรูปแบบ

บอร์นมัธ ภายใต้การคุมทีมของ อันโดนี่ อิราโอล่า โค้ชที่มีประสบการณ์และความเข้าใจในพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างดี ทีมมีผลงานที่น่าประทับใจมากในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยมีช่วงเวลาหนึ่งที่เกือบจะเข้าท็อป 6 ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสำหรับทีมขนาดนี้ แม้จะต้องสูญเสียนักเตะสำคัญไปบ้าง เช่น ดีน เฮาเซ่น ที่ย้ายไปร่วมทัพเรอัล มาดริด และ มิลอส เคอร์เคซ ที่ย้ายไปลิเวอร์พูล แต่ทีมก็ยังคงมีแกนหลักที่แข็งแกร่งอยู่

ในด้านนักเตะสำคัญ บอร์นมัธยังคงมี เอวานิลซอน กองหน้าบราซิลที่เป็นหัวหอกสำคัญของทีม อิลย่า ซาบาร์นี่ เซนเตอร์แบ็กที่ต้องรับหน้าที่หนักขึ้นหลังจากเฮาเซ่นย้ายทีม และ อันตวน เซเมนโย ปีกขวาที่มีความเร็วและเทคนิคดี ทีมยังได้เสริมทัพด้วย อาเดรียน ทรุฟเฟร์ท แบ็กซ้ายใหม่ที่มาแทนเคอร์เคซ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทีมพยายามปรับปรุงและพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่อง สำหรับแฟนบอลที่ชอบทีมเซอร์ไพรส์ บอร์นมัธคือทีมที่น่าจับตาเพราะมักจะเล่นได้ดีกับทีมใหญ่ๆ

จุดแข็งและจุดอ่อน

ลิเวอร์พูล

จุดแข็งที่ชัดเจนที่สุดของหงส์แดงคือการมีดาวยิงระดับโลกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่มีสถิติการทำประตูในเกมเปิดฤดูกาลที่โคตรน่าทึ่ง โดยทำประตูในเกมเปิดฤดูกาลได้ถึง 6 ซีซั่นติดต่อกัน และกำลังมุ่งหวังที่จะทำสถิติใหม่ให้กับตัวเองและลีก การเสริมทัพด้วยเวียร์ตซ์ยิ่งเพิ่มมิติในการเล่นให้กับทีม เพราะเป็นนักเตะที่มีความคิดสร้างสรรค์สูงและสามารถสร้างโอกาสทำประตูได้หลากหลายรูปแบบ ฟริมปงที่มาเสริมแนวรับก็เป็นข่าวดี เพราะช่วยให้ทีมมีความมั่นคงมากขึ้นในการป้องกัน

นอกจากนี้ ลิเวอร์พูลยังมีประสบการณ์ในการรับมือกับแรงกดดันจากการเป็นแชมป์เก่า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการแข่งขันระดับสูง ทีมมีแฟนบอลที่เป็นกำลังใจมหาศาล โดยเฉพาะในสนามแอนฟิลด์ที่เป็นที่รู้จักในเรื่องบรรยากาศที่ร้อนแรง การมีนักเตะคุณภาพในทุกไลน์ ตั้งแต่ผู้รักษาประตู แนวรับ กองกลาง ไปจนถึงแนวหน้า ทำให้ทีมสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นได้ตามสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลก็มีจุดอ่อนที่ต้องระวัง โดยเฉพาะแรงกดดันจากการป้องกันแชมป์ที่อาจส่งผลต่อจิตใจของนักเตะ การปรับตัวของนักเตะใหม่กับระบบเกมของ อาร์เน่อ สล็อต อาจใช้เวลา และอาจมีช่วงที่เกมไม่ลื่นไหลในช่วงแรกของฤดูกาล นอกจากนี้ การสูญเสีย ไรอัน กราเวนแบร์ช ที่ยังต้องรับโทษแบนจากใบแดงในฤดูกาลที่แล้ว ทำให้ทีมขาดความลึกในแนวกลางในเกมแรก การคาดหวังที่สูงมากจากแฟนบอลและสื่อมวลชนก็อาจเป็นแรงกดดันเพิ่มเติม

บอร์นมัธ

จุดแข็งหลักของเชอร์รี่อยู่ที่ระบบการเล่นที่มีระเบียบและมีแผนชัดเจนของ อันโดนี่ อิราโอล่า ที่เป็นโค้ชที่มีประสบการณ์และเข้าใจพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างดี ทีมมีการเล่นที่เป็นหน่วยเดียวกันและมีจิตสำนึกในการต่อสู้ที่สูง เอวานิลซอน กองหน้าบราซิลที่ทำได้ 12 ประตูในฤดูกาลที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเป็นนักเตะที่มีคุณภาพและสามารถทำประตูสำคัญได้ ทีมมีความสามารถในการสร้างความประหลาดใจให้กับทีมใหญ่ เหมือนที่เคยทำมาแล้วหลายครั้งในอดีต

บอร์นมัธมีการเล่นที่เน้นความเร็วและการสวนกลับที่อันตราย โดยเฉพาะจากการเล่นของ เซเมนโย และนักเตะปีกคนอื่นๆ ทีมมีจิตวิญญาณนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และมักจะเล่นได้ดีที่สุดเมื่อไม่มีใครคาดหวัง การมีแฟนบอลที่ภักดีและให้กำลังใจตลอดเวลา ทำให้นักเตะมีแรงบันดาลใจในการต่อสู้ นอกจากนี้ ทีมยังมีการจัดการทางการเงินที่ดี ไม่มีปัญหาเรื่อง FFP เหมือนทีมใหญ่หลายทีม

แต่จุดอ่อนของบอร์นมัธก็ค่อนข้างชัดเจน คือการขาดความลึกในทีม โดยเฉพาะเมื่อมีนักเตะหลักบาดเจ็บ ทีมจะขาดตัวเลือกที่มีคุณภาพเทียบเท่า การต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงในแนวรับหลังจากขายนักเตะสำคัญไป อาจทำให้ทีมต้องใช้เวลาในการปรับตัว ปัจจุบันนักเตะหลายคนยังมีปัญหาการบาดเจ็บ เช่น จัสติน คลูอิเวิร์ท, ลูอิส คุก และ ไรอัน คริสตี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อแผนการเล่นของทีม การเล่นกับทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูลที่มีคุณภาพนักเตะสูงกว่า อาจทำให้บอร์นมัธต้องเล่นแบบรับมากกว่าปกติ

ปัจจัยกำหนดผลการแข่งขัน

การเริ่มต้นฤดูกาลและสถิติ: ลิเวอร์พูลมีสถิติที่น่าประทับใจมากในการเริ่มต้นฤดูกาล โดยไม่พ่ายแพ้ในเกมเปิดฤดูกาลมาแล้ว 12 เกมติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมที่ดีและจิตใจที่แข็งแกร่งของทีม โมฮาเหม็ด ซาลาห์มีเป้าหมายที่จะทำประตูเปิดฤดูกาลเป็นครั้งที่ 10 ซึ่งหากทำได้จะเป็นสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและแรงจูงใจของดาวยิงชาวอียิปต์ สถิติเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการเตรียมตัวอย่างจริงจังและความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

การปรับตัวและการผสมผสานของนักเตะใหม่: สิ่งที่แฟนบอลทุกคนจับตาดูคือการที่นักเตะใหม่ของลิเวอร์พูลจะปรับตัวกับพรีเมียร์ลีกได้เร็วแค่ไหน โดยเฉพาะ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ที่มาจากบุนเดสลีกา และ อูโก้ เอกิติเก้ ที่ต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถเล่นได้ดีในลีกที่มีการแข่งขันสูงกว่า การที่พวกเขาได้ลงสนามในคอมมิวนิตี้ ชีลด์แล้วถือเป็นข่าวดี เพราะได้ลิ้มรสการเล่นในอังกฤษบ้างแล้ว แต่เกมจริงในลีกจะต่างออกไปมาก ความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วจะเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จของทีม

ประวัติการเจอกันและจิตวิทยา: ลิเวอร์พูลมีสถิติเหนือกว่าอย่างชัดเจนในการเจอกันกับบอร์นมัธ โดยชนะ 19 จาก 24 เกมที่เจอกัน และไม่เสียให้บอร์นมัธในรอบ 5 เกมล่าสุด เกมล่าสุดลิเวอร์พูลชนะ 2-0 ด้วยประตูคู่ของซาลาห์ สถิติเหล่านี้แม้จะเป็นเรื่องในอดีต แต่ก็มีผลต่อจิตวิทยาของนักเตะทั้งสองฝ่าย ลิเวอร์พูลจะมีความมั่นใจสูง ขณะที่บอร์นมัธอาจรู้สึกกดดัน อย่างไรก็ตาม บอลลูกกลมไม่มีอะไรแน่นอน และบอร์นมัธอาจใช้สถิติเหล่านี้เป็นแรงจูงใจในการพิสูจน์ตัวเอง

สภาพอากาศและสนาม: การเล่นที่แอนฟิลด์ในเดือนสิงหาคมอาจมีอากาศที่ร้อนและอึดอัด ซึ่งอาจส่งผลต่อการเล่นของนักเตะ โดยเฉพาะทีมเยือนที่ต้องเดินทางมาและอาจปรับตัวไม่ทัน นอกจากนี้ บรรยากาศที่ร้อนแรงของแฟนบอลลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อการเล่นของทั้งสองทีม

บทสรุป

การแมตช์เปิดฤดูกาลนี้น่าจะเป็นการทดสอบที่เยี่ยมสำหรับทั้งสองทีม และแฟนบอลวัยรุ่นต้องไม่พลาดแน่นอน ลิเวอร์พูลมีข้อได้เปรียบในหลายๆ ด้าน ทั้งคุณภาพนักเตะที่สูงกว่า ประสบการณ์ในการแข่งขันระดับสูง สถิติการเจอกันในอดีตที่ดีกว่า และการเล่นในสนามบ้านที่มีแฟนบอลคอยเชียร์ การเสริมทัพด้วยนักเตะคุณภาพอย่างเวียร์ตซ์และเอกิติเก้ ยิ่งทำให้ทีมดูน่ากลัวมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการสร้างสรรค์เกมและการทำประตู

แต่บอร์นมัธก็ไม่ใช่ทีมที่จะยอมแพ้ง่ายๆ เด็ดขาด ทีมมีโค้ชที่เข้าใจลีกเป็นอย่างดี มีนักเตะที่มีคุณภาพและจิตสำนึกนักสู้ที่สูง การเล่นที่เน้นความเร็วและการสวนกลับอาจสร้างปัญหาให้กับลิเวอร์พูลได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ทีมเจ้าบ้านอาจยังปรับจังหวะกันไม่ได้ เอวานิลซอนและเซเมนโยเป็นนักเตะที่อันตรายและสามารถสร้างประตูได้หากได้โอกาส

จากการวิเคราะห์ทั้งหมด คาดว่าลิเวอร์พูลจะเป็นฝ่ายได้เปรียบและน่าจะชนะได้ แต่บอร์นมัธอาจสามารถทำประตูตอบโต้ได้อย่างน้อย 1 ลูก เพราะการป้องกันของลิเวอร์พูลในเกมแรกอาจยังไม่แน่นเหมือนช่วงกลางฤดูกาล ผลการแข่งขันที่น่าจะเป็นไปได้คือ ลิเวอร์พูลชนะ 3-1 หรือ 2-1 โดยซาลาห์น่าจะเป็นคนทำประตูแรกของฤดูกาลและเริ่มต้นการไล่ล่าสถิติใหม่ของตัวเอง เกมนี้น่าจะมีประตูเยอะและความตื่นเต้นตลอด 90 นาที แฟนบอลวัยรุ่นต้องเตรียมตัวดูและเชียร์กันให้สนุก!

คำถาม-คำตอบ

การปรับยุทธวิธีของทั้งสองทีมจะเป็นอย่างไรในเกมนี้ และจะส่งผลต่อเกมอย่างไร?

คำตอบ: ลิเวอร์พูลภายใต้การคุมของ อาร์เน่อ สล็อต น่าจะเลือกใช้ระบบ 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในเกม โดยให้ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์หลังแนวหน้า ซึ่งจะเป็นคนสร้างเกมและแจกลูกให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ อูโก้ เอกิติเก้ ที่จะเป็นคนจบสกอร์ การใช้ เจเรมี่ ฟริมปง ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แนวรับ ขณะที่ มิลอส เคอร์เคซ จะเป็นแบ็กซ้ายที่มีหน้าที่ทั้งรับและรุก ทีมจะเน้นการครองบอลและการกดดันสูง เพื่อไม่ให้บอร์นมัธมีโอกาสสร้างเกมสวนกลับ

สำหรับบอร์นมัธ อันโดนี่ อิราโอล่า น่าจะใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยเน้นการเล่นรับแน่นในครึ่งแรก แล้วค่อยเปิดเกมมากขึ้นในครึ่งหลังเมื่อลิเวอร์พูลเริ่มเหนื่อย เอวานิลซอน จะเป็นหัวหอกสำคัญที่ต้องอยู่พร้อมรับลูกจากเพื่อนร่วมทีม ขณะที่ อันตวน เซเมนโย และนักเตะปีกซ้ายจะเป็นคนสร้างความเร็วในการสวนกลับ ทีมอาจใช้กลยุทธ์การเล่นแบบ hit-and-run คือรอโอกาสแล้วจู่โจมอย่างรวดเร็ว การปรับยุทธวิธีเหล่านี้จะทำให้เกมมีความน่าสนใจ เพราะเป็นการปะทะระหว่างทีมที่เน้นครองบอลกับทีมที่เน้นการสวนกลับ

ดาวเด่นคนใดที่อาจโชว์ผลงานโดดเด่นในเกมนี้ และเหตุผลคืออะไร?

คำตอบ: จากฝั่งลิเวอร์พูล โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังคงเป็นนักเตะที่ต้องจับตามองเป็นอันดับแรก ด้วยสถิติการทำประตูในเกมเปิดฤดูกาลที่โคตรเทพและความมุ่งมั่นที่จะทำสถิติใหม่ครั้งที่ 10 เขามีแรงจูงใจสูงมากและรู้ดีว่าต้องเริ่มต้นฤดูกาลอย่างไร นอกจากนี้ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ในฐานะแข้งใหม่ที่มีราคาแพงที่สุดของทีมก็น่าสนใจมาก เพราะแฟนบอลทุกคนอยากรู้ว่าเขาจะปรับตัวกับพรีเมียร์ลีกได้เร็วแค่ไหน และจะช่วยยกระดับเกมของลิเวอร์พูลได้มากน้อยแค่ไหน อูโก้ เอกิติเก้ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจับตา เพราะเป็นกองหน้าหนุ่มที่มีศักยภาพสูงและอาจได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองในเกมแรก

ส่วนฝั่งบอร์นมัธ เอวานิลซอน จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำประตู เพราะเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์และเข้าใจวิธีการเล่นกับทีมใหญ่ๆ การเคลื่อนไหวของเขาในกรอบเขตโทษและความสามารถในการหาจังหวะยิงจะเป็นสิ่งที่ลิเวอร์พูลต้องระวัง อิลย่า ซาบาร์นี่ จะต้องแสดงความสามารถในการป้องกันให้ได้ เพราะเขาต้องเป็นแกนหลังหลักหลังจากที่เฮาเซ่นย้ายทีมไป ส่วน อันตวน เซเมนโย อาจเป็นปัจจัยเซอร์ไพรส์ด้วยความเร็วและเทคนิคที่สามารถสร้างปัญหาให้แนวรับลิเวอร์พูลได้ โดยเฉพาะเมื่อทีมเปิดเกมรุกมาก เขาจะมีพื้นที่ในการสวนกลับ การแสดงของดาวเด่นเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของเกมและความสนุกสนานที่แฟนบอลจะได้รับ

วิเคราะห์พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล vs บอร์นมัธ 15 สิงหา 2025

ตารางที่ 1: เปรียบเทียบสถิติสำคัญ

สถิติ ลิเวอร์พูล บอร์นมัธ
ผลงานฤดูกาลที่แล้ว แชมป์พรีเมียร์ลีก อันดับ 9
ประตูที่ทำได้เฉลี่ย 2.4 ต่อเกม 1.8 ต่อเกม
ประตูที่เสียเฉลี่ย 1.1 ต่อเกม 1.4 ต่อเกม
การครองบอลเฉลี่ย 61% 48%
การส่งผ่านสำเร็จ 87% 78%
การยิงเข้ากรอบเฉลี่ย 6.2 ต่อเกม 4.1 ต่อเกม
คลีนชีท 18 เกม 10 เกม
สถิติเจอกันล่าสุด ชนะ 5 เกมติดต่อกัน แพ้ 5 เกมติดต่อกัน
จำนวนแฟนคลับ (โซเชียล) 50+ ล้านคน 8 ล้านคน
มูลค่าทีม 1.2 พันล้านปอนด์ 400 ล้านปอนด์

ตารางที่ 2: นักเตะสำคัญและผลงานล่าสุด

ลิเวอร์พูล

นักเตะ ตำแหน่ง ผลงานล่าสุด ประเด็นน่าสนใจ
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกขวา/กองหน้า ยิงได้ 36 ประตู 15 แอสซิสต์ ฤดูกาลที่แล้ว กำลังไล่สถิติประตูเปิดฤดูกาลครั้งที่ 10
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เพลย์เมกเกอร์ แข้งใหม่จากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ราคา 60 ล้านปอนด์ เดบิวต์พรีเมียร์ลีกครั้งแรก
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เซนเตอร์แบ็ก กัปตันทีมและแกนหลังสำคัญ อายุ 33 ปี ผู้นำทีมที่มีประสบการณ์สูง
อูโก้ เอกิติเก้ กองหน้า แข้งใหม่จากแฟร้งค์เฟิร์ต อายุ 21 ปี ดาวรุ่งที่แฟนบอลคาดหวัง
เจเรมี่ ฟริมปง แบ็กขวา แข้งใหม่จากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาเสริมความแข็งแกร่งแนวรับ
มิลอส เคอร์เคซ แบ็กซ้าย แข้งใหม่จากบอร์นมัธ รู้จักคู่แข่งเป็นอย่างดี

บอร์นมัธ

นักเตะ ตำแหน่ง ผลงานล่าสุด ประเด็นน่าสนใจ
เอวานิลซอน กองหน้า ทำได้ 12 ประตู 4 แอสซิสต์ ฤดูกาลที่แล้ว หัวหอกสำคัญของทีม
อันตวน เซเมนโย ปีกขวา นักเตะที่มีฟอร์มดีในครึ่งหลังฤดูกาลที่แล้ว ความเร็วและการสวนกลับ
อิลย่า ซาบาร์นี่ เซนเตอร์แบ็ก แกนหลังสำคัญหลังจากเฮาเซ่นย้ายทีม ต้องรับภาระหนักขึ้น
ไทเลอร์ อดัมส์ กองกลางป้องกัน แกนกลางทีมและมีประสบการณ์ในลีก ผู้นำในสนาม
อาเดรียน ทรุฟเฟร์ท แบ็กซ้าย แข้งใหม่มาแทนเคอร์เคซที่ย้ายไป เดบิวต์พรีเมียร์ลีกครั้งแรก
จัสติน คลูอิเวิร์ท ปีกซ้าย กำลังฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ อาจไม่พร้อมลงสนาม