วิเคราะห์เกมสโต๊ค ซิตี้ vs เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด: เตรียมลุยศึกเดือดแบบจัดเต็ม!

ไอ้คู่เนี้ยโคตรน่าดูเลย! สโต๊ค ซิตี้ กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กำลังจะปะทะกันแบบไฟลุกโชน ทั้งคู่ต่างอยากเก็บแต้มหนีโซนตกชั้น บอกเลยว่าเกมนี้เดากันไม่ออกเพราะแต่ละทีมมีสไตล์การเล่นคนละแบบสุดๆ สโต๊คเน้นป้องกันแน่นปึ๊กแต่ยิงไม่ค่อยเข้า ส่วนเชฟฟิลด์เล่นเร็วแรงสวนกลับไวเหมือนรถไฟลมกรด ใครพลาดแมตช์นี้ถือว่าพลาดเรื่องใหญ่!

เปิดเกมรบ: กลยุทธ์เด็ดครึ่งแรก

เปิดเกมมาก็ฟาดฟันกันสดๆเลย! สโต๊คคงเริ่มด้วยแผนเพรสแบบบีบหายใจไม่ออก ใช้กองกลาง 2 ตัวอย่างไวลด์ชุตและเบเกอร์คอยไล่บี้คู่แข่งในแดนกลาง เหมือนเกมก่อนๆที่พวกเขาทำให้ทีมใหญ่ๆอย่างลูตันทาวน์แทบจับตัวไม่ติด ส่วนแนวหลัง 4 คนจะยืนตึกแน่นพร้อมสกัดทุกทางผ่าน

ฝั่งเชฟฟิลด์ก็ไม่ยอมง่ายๆ แน่นอนว่าเขาจะเล่นสไตล์รถถังสวนกลับ ใช้กองหน้าคู่หูอาเมอร์และแมคเบอร์นีคอยยืนรอปิ้งบอลยาวจากแดนหลัง บางทีอาจเห็นวิงแบ็กอย่างโบกี้วิ่งสปีดบินส่งครอสแม่นๆเข้าไปในกรอบ 6 หลาแบบที่เคยทำลายแมนยูไปแล้ว

ที่น่าจับตามองคือการดวลกันระหว่างปีกสโต๊คกับฟูลแบ็กเชฟฟิลด์ ถ้าปีกอย่างแคมป์เบลล์สามารถทะลุทะลวงได้บ่อยๆ เชฟฟิลด์อาจต้องปรับแผนด่วน แต่ถ้าวิงแบ็กเชฟฟิลด์ดักทางเก่งเหมือนเกมที่ผ่านมา สโต๊คอาจต้องหันไปพึ่งลูกตั้งเตะแทน

ครึ่งหลังเดือด: ปรับแผนแบบฉับพลัน!

ถ้าครึ่งแรกยังตายตัว ครึ่งหลังนี่แหละที่โค้ชจะโชว์ของเด็ด! สโต๊คอาจจะส่งกองหน้าตัวสำรองอย่างเบราฮิโนลงไปเพิ่มไฟในแดนหน้า ไอ้หนุ่มคนนี้เล่นลูกเดี่ยวได้น่ากลัว แถมยิงไกลสุดมฤตยู ถ้าได้ลงมาช่วยอาจทำให้เกมเปลี่ยนได้ในพริบตา

ส่วนเชฟฟิลด์ถ้ายังตีเสมออยู่ อาจเปลี่ยนมาเล่น 3-5-2 เพื่อยึดแดนกลางให้มากขึ้น โดยส่งกองกลางตัวดีอย่างนอร์วูดลงไปช่วยสร้างเกม แบบนี้จะได้มีคนส่งบอลแม่นๆให้กองหน้าสอยประตูง่ายขึ้น แถมยังช่วยบล็อกการเล่นผ่านกลางของสโต๊คได้อีกต่อ

อีกปัจจัยสำคัญคือเรื่องความอึดของนักเตะ ถ้าแดนกลางสโต๊คเริ่มเหนื่อยเพราะเล่นเพรสหนักมาตลอดเกม เชฟฟิลด์อาจใช้จังหวะนี้โจมตีแบบรัวๆ อย่างที่เคยทำกับทีมอื่นในนาที 70 เป็นต้นไป

ตัวตัดสินเกม: อะไรจะทำให้พลิกเกม?

  1. ประตูแรกสำคัญโคตรๆ – ทีมไหนยิงได้ก่อนมีโอกาสชนะ 70% เพราะทั้งคู่เล่นแนวรับค่อนข้างดี ถ้าเชฟฟิลด์ยิงได้ก่อนอาจถอยมาตั้งรับตึกแน่น ส่วนสโต๊คถ้ายิงได้ก่อนก็อาจกดไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้หายใจ

  2. การเปลี่ยนตัวนาทีทอง – โค้ชทั้งสองมีตัวสำรองคุณภาพ เช่น เชฟฟิลด์มีอาร์เชอร์ที่วิ่งเร็วปี๊ด หรือสโต๊คมีลอเรนต์ที่เล่นลูกกลางอากาศเก่ง การส่งตัวเปลี่ยนเข้ามาช่วงท้ายเกมอาจทำให้เกมพลิกได้

  3. จิตวิทยาหลังประตูเสีย – ทั้งสองทีมเคยมีปัญหาจิตตกหลังเสียประตูเร็ว ถ้าทีมไหนรับมือสถานการณ์นี้ได้ดีกว่าก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

สรุปเด็ด: ใครจะโด่งดังในเกมนี้?

มองกันตรงๆว่าเกมนี้มันเดาใจแทบตาย! สโต๊คเล่นบ้านตัวเองก็โหดอยู่ แต่เชฟฟิลด์ก็ไม่ใช่ทีมรองบ่อน สถิติการพบกันครั้งก่อนๆก็สลับกันชนะมาแล้ว แต่ถ้าดูจากฟอร์มปัจจุบัน น่าจะจบแบบสกอร์ต่ำๆ อย่าง 1-0 หรือ 1-1 เพราะทั้งคู่ยิงไม่ค่อยอยู่ตัว

แต่ถ้ามีประตูเร็วใน 20 นาทีแรก เกมอาจเปิดกว้างแบบสุดๆ ใครอยากดูเกมส์มันส์ๆแบบทรหดต้องไม่พลาดการถ่ายทอดสดนัดนี้!

คำถามฮิตที่แฟนๆอยากรู้

ถ้าเริ่มเกมมาเสียประตูเร็ว โค้ชจะแก้เกมยังไง?

ตอบ: เชฟฟิลด์อาจเปลี่ยนมาเล่นบอลสั้นมากขึ้นแทนที่จะยิงยาวแบบเดิม ส่วนสโต๊คอาจส่งปีกสปีดสูงลงไปเจาะเส้นเพื่อหาจุดผิดพลาดของคู่ต่อสู้

ถ้านักเตะหลักบาดเจ็บ จะมีตัวสำรองไหนลงแทนได้บ้าง?

ตอบ: สโต๊คมีวิลม็อตต์ที่เล่นได้ทั้งแนวรับและกองกลาง ส่วนเชฟฟิลด์มีออสบอร์นที่แม่นลูกตั้งเตะ ทั้งสองคนนี้ลงแทนได้ทันทีโดยไม่เสียสไตล์ทีม

ตารางเปรียบเทียบสไตล์การเล่น

ทีม รูปแบบหลัก จุดเด่น จุดอ่อน
สโต๊ค ซิตี้ 4-2-3-1 เพรสกระชับ แนวรับตึก สร้างเกมช้า ยิงไม่แม่น
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 4-4-2 สวนกลับไว ครอสแม่น ครองบอลน้อย เสี่ยงโดนเพรส

สถิติเด่นครึ่งแรก vs ครึ่งหลัง

ทีม ประตูครึ่งแรก ประตูครึ่งหลัง ใบเหลืองครึ่งแรก ใบเหลืองครึ่งหลัง
สโต๊ค ซิตี้ 15 18 12 20
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 17 16 15 22

ตัวเลขนี้บอกเลยว่าครึ่งหลังทั้งคู่เล่นหนักกว่า ฟาวล์บ่อยกว่า แถมสโต๊คทำประตูในครึ่งหลังได้ดีกว่าเล็กน้อย เกมนี้อาจต้องรอดูช่วงทดเวลาบาดเจ็บว่าจะมีประตูชี้ชะตาหรือเปล่า!