วิเคราะห์เจาะลึก: เชลซี พบ เอฟเวอร์ตัน พรีเมียร์ลีก 2024/25
การแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญระหว่าง เชลซี และ เอฟเวอร์ตัน กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 28 เมษายน 2025 เวลา 22:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งเกมนี้ถือเป็นแมตช์ที่มีความหมายมากสำหรับทั้งสองทีม โดยเฉพาะเชลซีที่กำลังไล่ล่าตำแหน่งโควตายุโรปในฤดูกาลหน้า ส่วนเอฟเวอร์ตันเองก็ต้องการคะแนนเพื่อรักษาความมั่นคงในอันดับกลางตารางให้ปลอดภัยจากโซนตกชั้น บทความนี้จะพาไปเจาะลึกสถานการณ์ล่าสุดของทั้งสองทีม วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน รวมถึงปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวชี้ขาดผลการแข่งขันในเกมนี้ เพื่อให้แฟนบอลได้เข้าใจภาพรวมและเตรียมตัวเชียร์กันอย่างมั่นใจมากขึ้น (อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพรีเมียร์ลีก Premier League)
สถานการณ์ปัจจุบันของทั้งสองทีม
เชลซี: ฟอร์มกำลังมาดี ลุ้นโควตายุโรป
เชลซีตอนนี้ถือว่าฟอร์มกำลังมาแรงมาก ๆ เลยนะ โดยเฉพาะเกมรุกที่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การคุมทีมของโคล พาลเมอร์ ที่กลายเป็นดาวเด่นของทีมในฤดูกาลนี้ จากการเก็บชัยชนะในหลายเกมล่าสุด รวมถึงการถล่มเอฟเวอร์ตัน 6-0 ในเกมล่าสุดที่เจอกัน ทำให้ทีมมีความมั่นใจสูงมาก และยิ่งตอนนี้เชลซีอยู่ในช่วงลุ้นอันดับเพื่อไปเล่นฟุตบอลยุโรปฤดูกาลหน้า ทุกแต้มจึงมีความหมายสุด ๆ สำหรับพวกเขา นอกจากนี้ ระบบการเล่น 4-2-3-1 ที่โค้ชใช้ก็ดูเหมาะสมกับนักเตะที่มีอยู่ในทีมมาก เพราะช่วยให้เกมรุกมีความหลากหลายและสร้างสรรค์โอกาสได้เยอะ (ข้อมูลสถิติจาก WhoScored)
เอฟเวอร์ตัน: ค่อนข้างปลอดภัยแต่ฟอร์มไม่แน่นอน
ส่วนเอฟเวอร์ตันตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 13 ของตารางคะแนน โดยมีคะแนนห่างจากโซนตกชั้นถึง 17 คะแนน ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างปลอดภัย แต่ฟอร์มการเล่นของทีมยังไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังมีปัญหาในการรับมือกับทีมใหญ่ นอกจากนี้ ปัญหาหลักที่เอฟเวอร์ตันต้องเจอคือการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักหลายคน โดยเฉพาะ เจมส์ ทาร์คอฟสกี กองหลังตัวเก่งที่ต้องพักยาว ซึ่งส่งผลให้แนวรับของทีมอ่อนแอลงมาก และยังมีผู้เล่นสำคัญอีกหลายคนที่ไม่พร้อมลงสนาม เช่น ดอมินิก แคลเวิร์ต-ลูอิน และโอเรล ม็องกาล่า (ข้อมูลอัพเดตจาก Everton FC Official)
จุดแข็งและจุดอ่อนของทั้งสองทีม
เชลซี
จุดแข็ง:
เชลซีมีเกมรุกที่น่ากลัวมาก ๆ เพราะมีนักเตะที่สามารถสร้างโอกาสและจบสกอร์ได้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะโคล พาลเมอร์ ที่ตอนนี้กลายเป็นหัวใจสำคัญของทีม นอกจากนี้การเล่นในบ้านยังช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นให้กับนักเตะ และการที่ทีมมีแรงจูงใจสูงในการลุ้นโควตายุโรปก็ทำให้ทุกคนทุ่มเทเต็มที่ในทุกนัด
จุดอ่อน:
อย่างไรก็ตาม แนวรับของเชลซียังมีจุดอ่อนอยู่บ้าง โดยเฉพาะการเสียบอลง่ายในแดนกลางซึ่งทำให้โดนสวนกลับได้บ่อยครั้ง และบางครั้งการเปลี่ยนผ่านจากเกมรับไปเป็นเกมรุกยังไม่รวดเร็วและคล่องตัวเท่าที่ควร ซึ่งอาจเป็นช่องโหว่ให้เอฟเวอร์ตันใช้ประโยชน์ได้ (อ้างอิงจาก BBC Sport)
เอฟเวอร์ตัน
จุดแข็ง:
เอฟเวอร์ตันมีผู้รักษาประตูที่มีประสบการณ์และสามารถเซฟลูกยาก ๆ ได้ดีมากอย่าง จอร์แดน พิกฟอร์ด และทีมยังมีความแข็งแกร่งในเกมรับเมื่อเล่นเป็นบล็อกแน่น ๆ รวมถึงการโต้กลับเร็วผ่านปีกอย่าง แจ็ค แฮร์ริสัน และ อิลิมัน เอ็นดิอาย ที่สามารถสร้างความอันตรายได้เวลาได้บอล
จุดอ่อน:
แต่ปัญหาหลักของเอฟเวอร์ตันตอนนี้คือการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักในแนวรับ ทำให้ความมั่นคงในแนวรับลดลงมาก และเกมรุกยังขาดความคมในการจบสกอร์ ทำให้โอกาสทำประตูน้อยลงไปด้วย นอกจากนี้ฟอร์มการเล่นยังไม่สม่ำเสมอ ทำให้ยากที่จะคาดเดาผลการแข่งขัน (ข้อมูลจาก Sky Sports)
ปัจจัยสำคัญที่อาจชี้ขาดผลการแข่งขัน
-
ประสิทธิภาพในการจบสกอร์ของเชลซี:
ถ้าเชลซียังรักษาฟอร์มเกมรุกที่ร้อนแรงเหมือนเกมล่าสุดที่ถล่มเอฟเวอร์ตัน 6-0 ได้ เกมนี้พวกเขาจะมีโอกาสชนะสูงมาก เพราะเอฟเวอร์ตันยังมีปัญหาแนวรับที่บาดเจ็บอยู่เยอะ -
การจัดการแนวรับของเอฟเวอร์ตัน:
เอฟเวอร์ตันต้องหาวิธีจัดการกับปัญหาแนวรับที่บาดเจ็บ โดยอาจต้องใช้แทคติกเน้นรับแน่นและสวนกลับเร็ว เพื่อไม่ให้เชลซีเจาะแนวรับได้ง่าย -
แทคติกการเล่น:
เอฟเวอร์ตันอาจมาในแผนตั้งรับลึกและรอจังหวะสวนกลับเร็ว ซึ่งถ้าทำได้ดีจะสร้างปัญหาให้เชลซีได้มาก ในขณะที่เชลซีต้องระวังไม่เสียบอลง่ายในแดนกลางเพื่อป้องกันการโดนสวนกลับ -
แรงกดดันและแรงจูงใจ:
เชลซีมีแรงกดดันสูงเพราะต้องการคะแนนเพื่อลุ้นโควตายุโรป ส่วนเอฟเวอร์ตันไม่มีความกดดันมากนักเพราะอยู่ห่างจากโซนตกชั้นพอสมควร ซึ่งอาจทำให้เชลซีเล่นได้ดีกว่าในเกมนี้ (วิเคราะห์โดย The Athletic)
บทสรุปและการคาดการณ์ผลการแข่งขัน
โดยรวมแล้ว เชลซีมีความได้เปรียบในหลาย ๆ ด้าน ทั้งฟอร์มการเล่นที่กำลังมาแรง การเล่นในบ้าน และความพร้อมของนักเตะที่ฟิตเต็มร้อย ขณะที่เอฟเวอร์ตันยังมีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บและฟอร์มไม่แน่นอน ถึงแม้เอฟเวอร์ตันจะพยายามเล่นแบบรับแน่นและสวนกลับเร็ว แต่ด้วยพลังเกมรุกของเชลซีที่ดุดันและมีความหลากหลาย คาดว่าเกมนี้เชลซีจะเป็นฝ่ายคว้าชัยไปได้ โดยน่าจะจบที่สกอร์ประมาณ 2-1 หรืออาจจะมากกว่านั้นหากเชลซีเล่นได้ตามฟอร์ม (อ้างอิงจากการวิเคราะห์ของ ESPN)
คำถาม-คำตอบ เจาะลึกการแข่งขัน
Q1: เดวิด มอยส์ ควรปรับแทคติกอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาแนวรับบาดเจ็บในเกมนี้?
A1: มอยส์น่าจะเปลี่ยนมาใช้ระบบ 5-3-2 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแนวรับ โดยดึงผู้เล่นที่มีความสามารถในการยืนตำแหน่งดี ๆ ลงมาช่วยในแดนกลาง และใช้ปีกที่มีความเร็วอย่าง แจ็ค แฮร์ริสัน และ อิลิมัน เอ็นดิอาย เป็นตัวสร้างโอกาสสวนกลับเร็ว การเน้นรับแน่นและใช้ลูกตั้งเตะเป็นอาวุธสำคัญน่าจะช่วยลดความเสี่ยงจากเกมรุกของเชลซีได้ดีขึ้น
Q2: หากโคล พาลเมอร์ ถูกจับตาอย่างหนัก เชลซีมีแผนสำรองอย่างไรในการสร้างสรรค์โอกาสทำประตู?
A2: เชลซียังมีตัวเลือกอื่น ๆ อย่าง โนนี มาดูเอเก และ เอนโซ เฟร์นันเดซ ที่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้ดี รวมถึง นีกอลา จักซอน ที่สามารถลงมาช่วยเล่นเกมรุกจากแดนกลางได้ นอกจากนี้การใช้ปีกอย่าง เปดรู แนตู และ รีซ เจมส์ ในการลากเลื้อยริมเส้นก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการโจมตี ทำให้ทีมไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโคล พาลเมอร์ เพียงคนเดียว (ข้อมูลจาก Football London)
ตารางเปรียบเทียบสถิติสำคัญของทั้งสองทีม
สถิติ | เชลซี | เอฟเวอร์ตัน |
---|---|---|
ตำแหน่งในตาราง | กำลังลุ้นโควตายุโรป (อันดับ 7) | อันดับ 13 |
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด | ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 | ชนะ 1 แพ้ 3 เสมอ 1 |
ประตูเฉลี่ยต่อเกม | 1.8 ประตู | 0.9 ประตู |
เปอร์เซ็นต์ครองบอลเฉลี่ย | 56% | 44% |
จุดแข็ง | เกมรุกหลากหลาย, เล่นในบ้านดี | เกมรับแน่นเมื่อเล่นบล็อก, โต้กลับเร็ว |
จุดอ่อน | เสียบอลง่ายในแดนกลาง | แนวรับบาดเจ็บเยอะ, เกมรุกไม่คม |
คะแนนห่างจากโซนตกชั้น | – | 17 คะแนน |
ตารางรายชื่อผู้เล่นคาดการณ์และสภาพความพร้อม
เชลซี | ตำแหน่ง | ฟอร์มล่าสุด | เอฟเวอร์ตัน | ตำแหน่ง | ฟอร์มล่าสุด |
---|---|---|---|---|---|
ดเยอร์โก โปเปห์ | ผู้รักษาประตู (GK) | ฟอร์มดี, พร้อมลงสนาม | จอร์แดน พิกฟอร์ด | ผู้รักษาประตู (GK) | ฟอร์มดี, พร้อมลงสนาม |
มาร์ค กูเอห์ | กองหลัง (DF) | พร้อมลงสนาม | เจค โอไบรอัน | กองหลัง (DF) | พร้อมลงสนาม |
เวสลีย์ โฟฟานา | กองหลัง (DF) | ฟิตเต็มที่ | ไมเคิล คีน | กองหลัง (DF) | พร้อมลงสนาม |
แบร์นาโดห์ ซิลวา | กองหลัง (DF) | พร้อมลงสนาม | แจร์รัด แบรนท์เวต | กองหลัง (DF) | พร้อมลงสนาม |
รีซ เจมส์ | กองหลัง (DF) | ฟอร์มดี | วิตาลี่ ไมคอเลนคอ | กองหลัง (DF) | พร้อมลงสนาม |
มอยเซส ไกเซโด | กองกลาง (MF) | พร้อมลงสนาม | เจมส์ การ์เนอร์ | กองกลาง (MF) | พร้อมลงสนาม |
เอนโซ เฟร์นันเดซ | กองกลาง (MF) | ฟอร์มดี | อิดริสซา เกย์ | กองกลาง (MF) | พร้อมลงสนาม |
เปดรู แนตู | กองหน้า (FW) | ฟอร์มดี | แจ็ค แฮร์ริสัน | กองหน้า (FW) | ฟอร์มดี |
โคล พาล์มเมอร์ | กองหน้า (FW) | ดาวเด่น, ฟอร์มร้อนแรง | อับดูลาย ดูกูเร่ | กองกลาง (MF) | พร้อมลงสนาม |
โนนี มาดูเอเก | กองหน้า (FW) | ฟอร์มดี | อิลิมัน เอ็นดิอาย | กองหน้า (FW) | ฟอร์มดี |
นีกอลา จักซอน | กองหน้า (FW) | พร้อมลงสนาม | อาร์มานโด โบรย่า | กองหน้า (FW) | พร้อมลงสนาม |