วิเคราะห์ก่อนเกม: เซาแธมป์ตัน vs แมนฯ ซิตี้
1. บทนำ
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษนัดนี้ถือว่าน่าสนใจสุด ๆ เพราะเป็นการเจอกันระหว่าง “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ที่แม้จะตกชั้นไปแล้วแต่ก็ยังมีศักดิ์ศรีและแฟนบอลคอยเชียร์อยู่เพียบ กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องการสามแต้มสุดสำคัญเพื่อลุ้นแชมป์หรืออย่างน้อยก็จบฤดูกาลในอันดับสูง ๆ เกมนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของคะแนน แต่ยังเป็นโอกาสสุดท้ายที่เซาแธมป์ตันจะได้โชว์ของในบ้านตัวเอง ส่วนแมนฯ ซิตี้ก็ต้องเน้นเต็มที่เพราะทุกแต้มมีผลต่อเส้นทางลุ้นแชมป์ของพวกเขา บอกเลยว่าแฟนบอลทั้งสองฝั่งห้ามพลาด สมัครสมาชิก เพราะนอกจากจะได้ลุ้นผลการแข่งขัน ยังได้เห็นฟอร์มของนักเตะดาวรุ่งและสตาร์ดังแบบจัดเต็มแน่นอน
2. วิเคราะห์นักเตะสำคัญ
เซาแธมป์ตัน
-
พอล โอนูอาคู (Paul Onuachu): คนนี้เป็นกองหน้าตัวเป้าที่แฟนบอลเซาแธมป์ตันฝากความหวังไว้มาก แม้จะยิงได้แค่ 4 ลูกในซีซั่นนี้ แต่ก็เป็นตัวเป้าที่เพื่อนร่วมทีมชอบฝากบอลไว้ให้เสมอ จุดเด่นของเขาคือความสูงใหญ่ เล่นลูกกลางอากาศได้ดีมาก เวลาเปิดบอลจากริมเส้นมักจะเป็นเขาที่ได้โขกหรือชงให้เพื่อน ถ้าวันไหนฟอร์มเข้าฝักก็มีลุ้นสร้างเซอร์ไพรส์ได้เหมือนกัน
-
มาเตอุส แฟร์นานเดส (Mateus Fernandes): มิดฟิลด์ตัวทำเกมที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเซาแธมป์ตัน เพราะเขาคือคนที่คุมจังหวะเกมกลางสนามทั้งเกมรุกและเกมรับ ฤดูกาลนี้ลงเล่นเยอะสุดในทีม ยิงได้ 2 ลูกและจ่ายให้เพื่อนอีก 3 แอสซิสต์ จุดเด่นคือความขยัน วิ่งไม่มีหมด และมีสายตาในการจ่ายบอลที่เฉียบคมมาก ๆ ถ้าเขาเล่นดี เกมของเซาแธมป์ตันก็จะไหลลื่นขึ้นเยอะ
-
ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (Kyle Walker-Peters): แบ็กขวาจอมบุกที่แฟนบอลชอบมาก เพราะเติมเกมขึ้นไปช่วยรุกได้ดี แถมยังมีสปีดจัดและกล้าเลี้ยงกล้าลุย ฤดูกาลนี้มี 2 แอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีม แม้จะไม่ได้ยิงเองแต่ก็มีส่วนร่วมกับเกมรุกตลอด ถ้าเกมนี้เขาเล่นได้ตามฟอร์ม เซาแธมป์ตันมีลุ้นสร้างปัญหาให้แนวรับของแมนฯ ซิตี้แน่นอน
แมนฯ ซิตี้
-
เออร์ลิง ฮาแลนด์ (Erling Haaland): กองหน้าตัวเป้าที่โหดสุด ๆ ในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ ยิงไปแล้ว 21 ประตูจาก 28 นัด เรียกได้ว่าเป็นเครื่องจักรสังหารของแมนฯ ซิตี้เลยก็ว่าได้ จุดเด่นของเขาคือความแข็งแกร่ง วิ่งเร็ว ยิงคม และหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษเก่งมาก ๆ เกมนี้เขากลับมาฟิตเต็มร้อย รับรองว่าแนวรับเซาแธมป์ตันมีงานหนักแน่นอน
-
เควิน เดอ บรอยน์ (Kevin De Bruyne): เพลย์เมกเกอร์ที่สร้างสรรค์เกมเก่งสุด ๆ มีทั้งการจ่ายบอลที่แม่นยำและการยิงไกลที่อันตราย ฤดูกาลนี้ยิงเอง 4 ลูกและจ่ายให้เพื่อนอีก 8 แอสซิสต์ ฟอร์มช่วงหลังดีมาก ๆ เพิ่งยิงประตูชัยในเกมล่าสุดด้วย ถ้าเขาได้บอลเมื่อไหร่ เกมของแมนฯ ซิตี้จะไหลลื่นและมีโอกาสจบสกอร์สูงมาก
-
โยสโก้ กวาร์ดิโอล (Josko Gvardiol): กองหลังตัวหลักที่เล่นได้ทั้งเกมรับและเติมเกมรุก ฤดูกาลนี้ลงเล่นเยอะสุดในทีม ยิงได้ 5 ประตูด้วยนะ ถือว่าเยอะสำหรับกองหลัง จุดเด่นคือความแข็งแกร่ง การอ่านเกมดี และกล้าเติมขึ้นไปช่วยทำประตูจากลูกตั้งเตะด้วย
3. ภาพรวมแท็กติก
ฝั่งเซาแธมป์ตันคาดว่าจะมาในระบบ 3-4-2-1 ที่เน้นเกมรับแน่น ๆ ตั้งโซนในแดนตัวเองแล้วรอจังหวะสวนกลับเร็ว โดยจะใช้ความเร็วของปีกอย่าง ซูเลมาน่า และการพักบอลของโอนูอาคูเป็นตัวทีเด็ด ถ้าได้โอกาสก็จะพยายามเล่นลูกกลางอากาศหรือใช้ความเร็วโจมตีแนวรับแมนฯ ซิตี้ ส่วนเกมรับก็ต้องช่วยกันเหนียวแน่นสุด ๆ เพราะต้องเจอกับแนวรุกที่โหดมาก
ฝั่งแมนฯ ซิตี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะเลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 ตามถนัด เน้นครองบอลบุกต่อเนื่องและกดดันคู่แข่งตั้งแต่ต้นเกม ใช้เดอ บรอยน์, มาร์มูช หรือโดกู ปั้นเกมรุกให้ฮาแลนด์ลุ้นจบสกอร์ ส่วนตรงกลางสนามจะมีโควาชิชกับแบร์นาร์โด้ช่วยคุมจังหวะและเปลี่ยนเกมรับเป็นรุกได้เร็ว จุดเด่นของแมนฯ ซิตี้คือการเคลื่อนที่ของนักเตะที่ต่อเนื่องและการจ่ายบอลที่แม่นยำมาก ๆ
4. สรุปและคาดการณ์ผล
ถ้าดูจากฟอร์มและขุมกำลัง แมนฯ ซิตี้ดูเหนือกว่าทุกด้านจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพของนักเตะ ความมั่นใจ และแรงจูงใจที่ต้องการสามแต้มแบบสุด ๆ เกมรุกที่มีฮาแลนด์กลับมาฟิตเต็มร้อยน่าจะสร้างปัญหาให้แนวรับของเซาแธมป์ตันได้ตลอดทั้งเกม ส่วนเซาแธมป์ตันเอง แม้จะได้เล่นในบ้านและมีแฟนบอลหนุนหลัง แต่แรงจูงใจอาจจะลดลงเพราะตกชั้นไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เกมนี้ยังเป็นโอกาสดีที่นักเตะดาวรุ่งจะได้โชว์ของให้แฟนบอลเห็น ถ้าแมนฯ ซิตี้เล่นได้ตามมาตรฐาน โอกาสเก็บสามแต้มกลับบ้านมีสูง แต่ฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าเซาแธมป์ตันฮึดสู้เต็มที่อาจจะมีเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ ก็เป็นได้
Q&A เปิดประเด็น
Q1: นักเตะคนไหนที่น่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในแมตช์นี้?
A: ถ้าให้เลือกจริง ๆ ต้องยกให้เออร์ลิง ฮาแลนด์ของแมนฯ ซิตี้ เพราะเขาเป็นกองหน้าที่จบสกอร์ได้เฉียบขาดมาก ๆ แถมยังกลับมาฟิตเต็มร้อยอีกด้วย ถ้าเขาได้บอลในกรอบเขตโทษเมื่อไหร่ มีโอกาสเป็นประตูสูงมาก ส่วนฝั่งเซาแธมป์ตันก็ต้องจับตาดูมาเตอุส แฟร์นานเดส เพราะเขาคือคนที่คุมเกมกลางสนามและสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม ถ้าเขาเล่นดี เซาแธมป์ตันก็มีลุ้นสร้างปัญหาให้แมนฯ ซิตี้ได้เหมือนกัน
Q2: ถ้ามีอาการบาดเจ็บของนักเตะหลัก จะมีผลต่อเกมมากแค่ไหน?
A: ถ้าแมนฯ ซิตี้ขาดนักเตะหลักอย่างโรดรี้, นาธาน อาเก้ หรือจอห์น สโตนส์ ก็อาจจะทำให้เกมรับและการคุมจังหวะกลางสนามมีปัญหาบ้าง แต่ด้วยขุมกำลังสำรองที่มีคุณภาพสูง ก็ยังทดแทนกันได้ดีอยู่ ส่วนฝั่งเซาแธมป์ตันตอนนี้ไม่มีปัญหาบาดเจ็บนักเตะหลักเพิ่มเติม ทุกคนพร้อมลงสนามครบ ก็ถือว่าได้เปรียบในแง่ความฟิตและความพร้อมของทีม ถ้าใครมีอาการเจ็บระหว่างเกม อาจจะส่งผลต่อรูปเกมได้เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าเป็นตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้
ตารางสถิติ
Table 1: สถิตินักเตะสำคัญ
นักเตะ | สโมสร | ลงสนาม | ประตู | แอสซิสต์ | นาทีที่ลงเล่น |
---|---|---|---|---|---|
พอล โอนูอาคู | เซาแธมป์ตัน | 24 | 4 | 1 | – |
มาเตอุส แฟร์นานเดส | เซาแธมป์ตัน | 33 | 2 | 3 | – |
ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส | เซาแธมป์ตัน | 33 | 0 | 2 | – |
เออร์ลิง ฮาแลนด์ | แมนฯ ซิตี้ | 28 | 21 | 4 | 870 |
เควิน เดอ บรอยน์ | แมนฯ ซิตี้ | 25 | 4 | 8 | – |
โยสโก้ กวาร์ดิโอล | แมนฯ ซิตี้ | 34 | 5 | – | 854 |
Table 2: เปรียบเทียบเกมรุก-รับ
สถิติ | เซาแธมป์ตัน | แมนฯ ซิตี้ |
---|---|---|
ประตูรวม | 18 | 65 |
แอสซิสต์รวม | 17 | 48 |
ยิงเข้ากรอบ/นัด | 2.89 | 6.74 |
แท็คเกิล/นัด | 16.3 | 13.7 |
เสียประตู/นัด | 2.56 | 0.89 |
คลีนชีต | 5 | 16 |
สรุปแล้ว เกมนี้แมนฯ ซิตี้ดูเหนือกว่าเยอะทั้งฟอร์มและขุมกำลัง แต่เซาแธมป์ตันก็ยังมีทีเด็ดและเล่นในบ้าน ถ้าใครชอบลุ้นหรืออยากเห็นดาวรุ่งโชว์ของ เกมนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด!