วิเคราะห์ดุเดือด! พาเลซ vs แมนซิตี้ ศึกเดือดแห่งศักราช 2024/25

สวัสดีเพื่อนๆ แฟนบอลทุกคน! วันนี้เรามาพร้อมกับบทวิเคราะห์สุดจัดเต็มสำหรับเกมดุเดือดระหว่าง คริสตัล พาเลซ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังจะปะทะกันแบบตัวต่อตัว เกมนี้โคตรสำคัญเพราะทั้งคู่ต่างต้องการคะแนนเพื่อเป้าหมายของตัวเอง พาเลซอยากยันตำแหน่งกลางตารางให้มั่นคง ส่วนแมนซิตี้ต้องเก็บสามแต้มเพื่อล่าแชมป์ให้ทันอาร์เซนอลและลิเวอร์พูล เกมนี้เดือดแน่นอนเพราะทั้งสองทีมฟอร์มร้อนแรงสุดๆ!

1. ดาวเด่นทั้งสองฝ่าย ใครจะเจ๋งกว่า?

ฝั่งพาเลซ : กลุ่มนักรบหัวใจสิงห์

มาเตต้า กองหน้าตัวเก่งทำประตูไปแล้ว 14 ลูกจาก 35 นัด โคตรเทพเลย! เขายิงเข้ากรอบถึง 62% แถมยังเล่นเป็นตัวจริง 32 นัด แสดงว่าโค้ชมั่นใจสุดๆ ล่าสุดยังซัดประตูช่วยทีมถล่มเวสต์แฮม 5-2 อีก นี่คือนักฆ่าตัวจริงของพาเลซ!

อิสไมลา ซาร์ ปีกเร็วสุดเท่ ยิง 7 ประตู+แอสซิสต์ 5 ครั้ง ความเร็วระดับ 100 เมตร 10 วินาทีของเขาจะเป็นอาวุธลับเจาะเกราะแมนซิตี้ให้ทะลุได้ทุกเมื่อ ถ้าได้บอลว่างเมื่อไหร่เตรียมลุ้นได้เลย!

เอเซ่ มิดฟิลด์จอมเวท ยิง 7+แอสซิสต์ 8 จาก 32 นัด คลาสการจ่ายบอลของเขาพิเศษระดับเวทมนตร์ เวลามีบอลที่เท้าเพื่อนร่วมทีมเตรียมตัวสตั๊นด์บายรับลูกเด็ดได้เลย!

เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูมือพระกาฬ ช่วยทีมคลีนชีต 11 เกม เซฟไป 48 ครั้งจาก 101 ครั้งที่ถูกยิง ถ้าเขาอยู่ในฟอร์มนี้ แมนซิตี้คงต้องงัดทุกกลยุทธ์มาใช้แน่นอน

ฝั่งแมนซิตี้ : กองทัพจักรพรรดิ์

ฮาลันด์ ยอดนักล่าประตูระดับตำนาน ซัด 27 ลูกจาก 31 นัด! เฉลี่ยเกือบ 1 ประตูต่อเกม โคตรโหด! เขายิงเข้ากรอบ 59 ครั้งจาก 121 ครั้ง แค่ได้จังหวะวินินาทีเดียวก็อันตรายแล้ว

โฟเดน ดาวรุ่งจ้าวแห่งการโชว์สกิล 19 ประตู+8 แอสซิสต์ สไตล์การเลี้ยงบอลของเขาเหมือนเล่น FIFA ในโหมดความจริง! ปีนี้เขาพัฒนาไปอีกขั้นจนเป็นหัวหอกสำคัญของทีม

อัลวาเรซ มหัศจรรย์เด็กใหม่ 11 ประตู+8 แอสซิสต์ เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก แถมยังอึดถึกทนลงสนาม 36 นัด เรียกว่าเป็นตัวสำรองที่อันตรายที่สุดในลีก!

เดอ บรอยน์ จอมทัพจอมวางแผน แม้บาดเจ็บแต่ยังทำ 4 ประตู+10 แอสซิสต์จาก 18 นัด การจ่ายบอลของเขาแม่นยำเหมือนจีพีเอสนำทาง! ถ้าเขาได้บอลเมื่อไหร่เตรียมลุ้นประตูได้เลย

2. แทคติกส์ลับ! สไตล์การเล่นของทั้งสองทีม

พาเลซ : เกมรับเด่น โต้กลับเร็ว

พาเลซน่าจะจัดแท็คติกแบบ 4-2-3-1 เน้นเกมรับแน่นหนาแล้วใช้ความเร็วปีกซาร์กับอายิวถล่มโต้กลับ แนวหลังคู่อันตราย มูนโญซ-มิตเชลล์ ที่ลงเล่นครบทุกนัดจะเป็นกำแพงเหล็กขั้นแรก ส่วน กูเอฮี-ลาครัวซ์ จะคอยสกัดกั้นฮาลันด์แบบตัวต่อตัว

จุดเด่นคือการเล่นลูกตั้งเตะ ที่ใช้ความสูงของ มาเตต้า (191cm) กับ ลาครัวซ์ (192cm) กระโดดโหม่งทะลุกรอบโทษ แถมยังมี เอเซ่ ที่ยิงไกลได้แม่นยำ ถ้าได้ฟรีคิกในระยะ 20-30 หลา นี่คือโอกาสทอง!

แมนซิตี้ : ครองบอลแน่น โจมตีเป็นระลอก

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะใช้แผน 4-3-3 ตามสไตล์สเปน เน้นครองบอลสูง 80-90% แล้วใช้ความสามารถเฉพาะตัวของโฟเดน-เดอ บรอยน์-ฮาลันด์ ทำลายเกมรับ แนวรับ สโตนส์-ดิอาส จะเล่นบทสร้างเกมจากหลัง ส่วน โรดรี คือหัวใจกลางสนามที่คุมจังหวะเกมได้ดุเดือด

แผนสำรองที่น่ากลัวคือการเปลี่ยนจังหวะด้วย โดคู-กรีลิช ที่มาลงแทนในครึ่งหลัง ความลึกของสควอッドคือจุดได้เปรียบสำคัญเมื่อเกมดวลถึงนาทีสุดท้าย

3. สรุปเด็ด! ใครจะชนะ?

จากสถิติแล้วแมนซิตี้ดูเหนือกว่าในทุกด้าน ทั้งประตูที่ทำได้ (67 vs 36) ผลต่างประตู (+24 vs +3) และฟอร์มล่าสุด 5 นัดที่ยังไม่แพ้ (DWWWW) แต่พาเลซก็ไม่ใช่ทีมอ่อนแอ เพราะมีคลีนชีตถึง 11 เกม และฟอร์มเยือน 5 นัดล่าสุดไม่เสียประตูเลย!

คีย์การแข่งขัน อยู่ที่การปิดเดอ บรอยน์ ของพาเลซ ถ้าทำได้สำเร็จอาจดึงเกมเป็นเสมอหรือถึงขั้นชิงชนะ! แต่ถ้าแมนซิตี้ได้บอล 60% ขึ้นไปและยิงประตูเร็วได้ เกมนี้น่าจะจบด้วยชัยของสกายบลู

4. ถาม-ตอบฮาๆ แต่ได้ความรู้

Q: ถ้าให้เลือก 1 ผู้เล่นมาจัดการเกมนี้ จะเลือกใคร?

A: เดอ บรอยน์ นะเพื่อน! แม้เพิ่งกลับจากบาดเจ็บ แต่สกิลการจ่ายบอลระดับแม่เหล็กของเขาทำให้ฮาลันด์เสมือนได้กินขนมปังปิ้งทุกนาที ถ้าพาเลซปิดเขาไม่สนิท เกมนี้แมนซิตี้ทำได้ 3-4 ประตูแน่นอน!

Q: ถ้าพาเลซอยากดันขึ้นไปท็อป 10 ต้องปรับอะไร?

A: อันดับแรกต้องเพิ่ม การครองบอลในแดนกลาง เพราะตอนนี้มีแค่ 40-50% ทำให้ถูกแมนซิตี้กดได้ง่าย ต่อมาคือพัฒนาประสิทธิภาพ การยิงนอกกรอบโทษ เพราะมีแค่ 28% เข้ากรอบ ถ้าเพิ่มเป็น 40%+ จะทำคะแนนได้มากขึ้น!

5. ตารางเปรียบเทียบสุดจัด

ตาราง 1: สถิติเด็ดผู้เล่น

ตาราง 2: เปรียบเทียบทีม

สรุปสุดท้าย: เกมนี้เดือดแน่! พาเลซอาจเซอร์ไพรส์ด้วยเกมรับแน่น แต่แมนซิตี้มีอาวุธครบมือ คาดว่าเสมอ 1-1 หรือแมนซิตี้ชนะ 2-1 แล้วแต่ฟอร์มผู้เล่นวันจริง เพื่อนๆ คนไหนอยากลุ้นสนุกแนะนำดูให้ครบ 90 นาที รับรองไม่น่าเบื่อแน่นอน!