พรีวิวแมตช์ยูโร 2025: เบลเยียม(ญ) ปะทะ อิตาลี(ญ) – การดวลเดือดในกลุ่มมรณะ
1. บทนำ
การแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2025 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว และหนึ่งในนัดเปิดสนามที่น่าจับตามองที่สุดคือการพบกันระหว่าง เบลเยียม(ญ) และ อิตาลี(ญ) ในวันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2025 เวลา 18:00 น. (เวลาท้องถิ่น) ณ สนาม Stade de Tourbillon เมืองซีออน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
แมตช์นี้มีความสำคัญยิ่งใหญ่สำหรับทั้งสองทีม เพราะพวกเขาถูกจับอยู่ในกลุ่ม B ที่ถือเป็น “กลุ่มมรณะ” ร่วมกับสเปน แชมป์โลกปัจจุบัน และโปรตุเกส ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแต่ทีมแกร่งทั้งนั้น การคว้าชัยชนะในนัดเปิดสนามจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ และยังจะส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของนักเตะในเกมต่อไปด้วย ทั้งสองทีมต่างรู้ดีว่าการได้มาสามแต้มตั้งแต่เกมแรกจะช่วยให้พวกเขามีโอกาสผ่านเข้ารอบมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเจอกับสเปน ทีมที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเต็งหนึ่งของการแข่งขันครั้งนี้
2. ฟอร์มและผลงานล่าสุด
เบลเยียม (The Red Flames)
ทีมชาติเบลเยียม(ญ) ปัจจุบันอยู่ภายใต้การคุมทีมของ Elísabet Gunnarsdóttir กุนซือสาวชาวไอซ์แลนด์ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อต้นปี 2025 หลังจากที่สหพันธ์ฟุตบอลเบลเยียมตัดสินใจเปลี่ยนผู้ฝึกสอน มีฟอร์มการเล่นที่ค่อนข้างผันผวนในช่วง 5 นัดล่าสุด โดยชนะ 2 แพ้ 3 แต่สิ่งที่น่าสนใจและให้กำลังใจคือพวกเขาสามารถเอาชนะอังกฤษไปได้ 3-2 ในเดือนเมษายน 2025 ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเอาชนะทีมระดับท็อปได้ เมื่อมีวันของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เบลเยียมมีปัญหาใหญ่ในเรื่องของการรับประตู โดยเสียประตูไป 13 ลูกใน 5 นัดล่าสุด รวมถึงการแพ้ฝรั่งเศสแบบหนักหน่วงด้วยสกอร์ 0-5 และสเปน 1-5 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมื่อเจอทีมที่มีคุณภาพสูง ทีมจะมีปัญหาในการป้องกัน แต่จุดแข็งหลักของทีมคือ Tessa Wullaert กองหน้าซูเปอร์สตาร์ที่ทำประตูไปแล้ว 87 ลูกจาก 144 นัด ทำให้เธอเป็นนักเตะที่ทำประตูให้ทีมชาติเบลเยียมได้มากที่สุดตลอดกาล และมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในระดับสโมสรกับอินเตอร์ มิลาน ปัจจุบัน
อิตาลี (Le Azzurre)
อิตาลี(ญ) ภายใต้การนำของ Andrea Soncin กุนซือวัย 46 ปี ที่มีประสบการณ์เป็นอดีตนักเตะ Serie A และเพิ่งย้ายมาคุมทีมหญิงเมื่อเดือนกันยายน 2023 แสดงฟอร์มที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยใน 5 นัดล่าสุด พวกเขาชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 และมีผลต่างประตูในเชิงบวก +3 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ
จุดเด่นของอิตาลีคือการเล่นที่มีระเบียบทางยุทธวิธีแบบคลาสสิกอิตาเลียน มีความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแผนระหว่างแบบ 4-3-3 และ 3-5-2 ได้อย่างลื่นไหล ดาวเด่นของทีมคือ Manuela Giugliano จากโรมา นักเตะหญิงอิตาลีคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Ballon d’Or ที่เป็นแกนกลางในการสร้างเกมและมีความสามารถในการส่งบอลและยิงลูกเซตพีซ ประกอบกับประสบการณ์การเล่นฟุตบอลระดับสูงมากว่า 94 นัดให้กับทีมชาติ
3. การวิเคราะห์ยุทธวิธี
เบลเยียม: การเล่นแบบป้องกันมั่นคงและโต้กลับรวดเร็ว
เบลเยียมมีเอกลักษณ์ในการเล่นแบบป้องกันที่มีระเบียบ โดยเน้นการสร้างประตูจากการโต้กลับอย่างรวดเร็วและเรียบง่าย Gunnarsdóttir ที่มีประสบการณ์คุมทีมมากว่า 15 ปีกับ Kristianstad ในสวีเดน เน้นการสร้าง “วัฒนธรรมทีม” ที่มีพลังงานสูงและไม่ยอมแพ้ง่าย รวมถึงการใช้วิธีการเล่นแบบ high-pressing ที่เธอมีชื่อเสียง
แนวทางยุทธวิธีหลักของเบลเยียม:
-
การเล่นแบบครอบครองบอลในช่วงสั้นๆ และส่งบอลแม่นยำเพื่อหาช่องโหว่ของคู่ต่อสู้
-
การป้องกันแบบบล็อกต่ำและโต้กลับรวดเร็วผ่านแนวปีก
-
การใช้ความเร็วและประสบการณ์ของ Wullaert และ Van Kerkhoven ในการทำประตู
-
การใช้ลูกบอลยาวจากแนวรับเพื่อข้ามผ่านการกดดันของฝั่งตรงข้าม
อิตาลี: ความยืดหยุ่นทางยุทธวิธีและการเล่นแบบผสมผสาน
อิตาลีมีจุดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแผนการเล่นตามสถานการณ์ Soncin ที่เคยเล่นในตำแหน่งกองหน้าเอง เข้าใจเกมรุกเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ลืมรากเหง้าแบบอิตาเลียนที่เน้นการป้องกันที่แข็งแกร่ง เขาเน้นการเล่นที่มีการจัดระเบียบดี โดยไม่ใช่แค่การป้องกันแบบ Catenaccio ดั้งเดิมของอิตาลี แต่เป็นการผสมผสานระหว่างการรุกและการรับ
จุดแข็งทางยุทธวิธีของอิตาลี:
-
ความลึกในแนวกลางสนามที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะ Giugliano ที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง
-
การป้องกันที่มีระเบียบและการรักษาบอลที่ดีด้วยเทคนิคพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
-
ความสามารถในการเปลี่ยนระหว่าง 4-3-3 กับ 3-5-2 ได้อย่างรวดเร็วตามสถานการณ์เกม
-
การใช้ลูกเซตพีซและมุมเตะเป็นอาวุธสำคัญในการทำประตู
4. การคาดการณ์ผลการแข่งขัน
จากการวิเคราะห์ฟอร์มล่าสุด สถิติการพบกันในอดีต และความแข็งแกร่งของแต่ละทีม อิตาลีมีข้อได้เปรียบเหนือเบลเยียมในหลายด้าน ทั้งฟอร์มการเล่นที่ดีกว่าในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมา การป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อดูจากจำนวนประตูที่เสียน้อยกว่า และประสบการณ์ของกุนซือในการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีกลางเกม
อย่างไรก็ตาม เบลเยียมไม่ใช่ทีมที่ดูถูกได้ พวกเขามีประสบการณ์ล้ำค่าจากการเข้ารอบรองชนะเลิศในยูโร 2022 และเคยเอาชนะอิตาลีไปแล้ว 1-0 ในรายการเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีนักเตะคุณภาพระดับโลกอย่าง Wullaert ที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ด้วยเพียงครึ่งโอกาส การแข่งขันคาดว่าจะเป็นเกมที่มีประตูเยอะ เนื่องจากทั้งสองทีมมีแนวโน้มทำประตูได้ในเกมล่าสุด และจำเป็นต้องออกมาเล่นเชิงรุกเพื่อหาชัยชนะในเกมเปิดสนาม
คาดการณ์ผล: อิตาลี 2-1 เบลเยียม
5. คำถามและคำตอบสำหรับแฟนบอล
Q1: เราอาจได้เห็นยุทธวิธีพิเศษหรือกลยุทธ์แปลกใหม่อะไรบ้างในเกมนี้?
คำตอบ: เราคาดว่า Soncin อาจจะเปลี่ยนการเล่นจาก 4-3-3 แบบดั้งเดิมเป็น 3-5-2 เพื่อควบคุมแนวกลางสนามและสกัดการโต้กลับแบบรวดเร็วของเบลเยียม โดยเฉพาะการวิ่งของ Wullaert ที่ชอบเล่นในช่องว่างระหว่างแนวรับกับแนวกลาง ส่วน Gunnarsdóttir อาจใช้การเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังเพื่อเพิ่มความเร็วในการโจมตี โดyเฉพาะการนำ Wullaert ขึ้นมาเล่นในตำแหน่งที่อิสระมากขึ้น หรืออาจจะใช้การเล่นแบบ false 9 ให้เธอถอยลงมารับบอลและสร้างช่องว่างให้นักเตะปีกวิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ
Q2: สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมจะส่งผลต่อการเล่นของนักเตะทั้งสองทีมอย่างไร?
คำตอบ: ณ เมืองซีออน ที่อยู่ในหุบเขาแอลป์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงต้นกรกฎาคม คาดว่าจะมีอุณหภูมิประมาณ 20-22 องศาเซลเซียส กับความเป็นไปได้ของฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยในช่วงเย็น สภาพอากาศที่เย็นสบายและไม่ชื้นเกินไปจะเอื้อต่อการวิ่งเยอะของทั้งสองทีม และอาจทำให้เกมมีจังหวะที่เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นประโยชน์กับเบลเยียมที่ชอบเล่นแบบวิ่งรุกรับมาก ถ้าหากมีฝนตกจริงๆ อาจจะส่งผลให้เกมช้าลงและมีการสกัดบอลกลางสนามมากขึ้น ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้กับอิตาลีที่เล่นแบบ possession-based มากกว่า ส่วนความสูงของเมืองซีออนที่อยู่ประมาณ 500 เมตรจากระดับน้ำทะเล อาจจะทำให้บอลลอยได้ไกลกว่าปกติเล็กน้อย
6. ตารางสถิติที่ต้องการ
ตารางที่ 1: สถิติการแข่งขันล่าสุดของทั้งสองทีม
ทีม | แข่ง 5 นัดล่าสุด | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ประตูได้ | ประตูเสีย | ผลต่างประตู | ฟอร์มล่าสุด | เปอร์เซ็นต์การชนะ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เบลเยียม(ญ) | 5 นัด | 2 | 0 | 3 | 8 | 13 | -5 | แพ้-ชนะ-แพ้-แพ้-ชนะ | 40% |
อิตาลี(ญ) | 5 นัด | 3 | 1 | 1 | 9 | 6 | +3 | ชนะ-เสมอ-ชนะ-แพ้-ชนะ | 60% |
ตารางที่ 2: สถิติการพบกันในอดีตระหว่างสองทีม
วัน/เดือน/ปี | ผลการแข่งขัน | สถานที่ | รายการ | ช่วงเวลา |
---|---|---|---|---|
16/02/2023 | อิตาลี 1-2 เบลเยียม | เมืองปาแลร์โม่, อิตาลี | กระชับมิตรระหว่างประเทศ | ช่วงเตรียมทีม |
17/06/2021 | เบลเยียม 1-1 อิตาลี | เมืองบรัสเซลส์, เบลเยียม | กระชับมิตรระหว่างประเทศ | ก่อนยูโร 2021 |
10/09/2020 | เบลเยียม 1-1 อิตาลี | เมืองบรัสเซลส์, เบลเยียม | UEFA Nations League | รอบแรก |
08/09/2020 | อิตาลี 6-0 เบลเยียม | เมืองฟลอเรนซ์, อิตาลี | กระชับมิตรระหว่างประเทศ | ช่วงโควิด-19 |
สถิติรวม | เบลเยียม 4 นัด 1 นัด อิตาลี | การพบกัน 5 นัด | เบลเยียมนำ | ช่วง 4 ปีล่าสุด |
จากสถิติการพบกันในอดีต 5 นัดล่าสุด เบลเยียมมีสถิติที่ดีกว่าโดยชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 แต่การแข่งขันในรายการใหญ่อย่างยูโร 2025 อาจเป็นเรื่องใหม่ที่ทั้งสองทีมต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง เพราะทั้งสองทีมต่างมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นและกุนซือไปจากเมื่อสองสามปีก่อน
การแข่งขันนัดนี้จึงเป็นมากกว่าแค่การเปิดสนามกลุ่ม B แต่เป็นการทดสอบความพร้อมของทั้งสองทีมในการไปให้ไกลในทัวร์นาเมนต์ยูโร 2025 ที่จัดขึ้นบนดินแดนสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งสองทีมต่างรู้ว่าถ้าสามารถผ่านด่านนี้ได้ ก็จะมีโอกาสดีในการเข้ารอบต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเตรียมพบกับสเปนและโปรตุเกสในเกมต่อไป